LOVE
ทดลองอ่าน เจรจาต่อ-ตาย ตอน ราคะ บทที่ 10-บทที่ 11
วิไลร้องไห้จนน้ำตาจะเป็นสายเลือด แต่วัลลภยืนยันว่าพวกเขาต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ในเมื่อสังคมไม่แยแสพวกเขามาตั้งแต่ต้น แล้วทำไมเขาต้องทำตามกฎของสังคม พี่ชายที่อยู่ในฐานะของสามีด้วยนั้นสัญญาว่าจะเลี้ยงดูเธอกับลูกอย่างดีที่สุด เขายอมทำผิดกฎหมายเพื่อให้มีเงินก้อนใหญ่สำหรับหนีไปใช้ชีวิตไกลๆ จากคนที่รู้จักหรือคนที่สืบสาวราวเรื่องได้ว่าเขาทั้งสองเป็นพี่น้องร่วมสายโลหิตกัน แล้ววิรุฬก็เข้ามาตอนนั้น โอ่งปีนเข้าไปขโมยของในบ้านวิรุฬครั้งแรก เขาได้ของมีค่ามาพอสมควรและไม่ถูกตำรวจจับ เลยย่ามใจที่จะทำมันอีกครั้ง แต่ครั้งที่สองเขาไม่รอด เขาถูกเจ้าของบ้านใช้ปืนข่มขู่และต้องยอมทำทุกอย่างตามที่วิรุฬต้องการเพื่อแลกกับการที่ไม่ต้องถูกส่งตัวให้ตำรวจ…
“คุณผู้หญิงครับ”
วิไลสะดุงสุดตัวเมื่อรู้สึกว่ามีคนมาอยู่ใกล้เธอ หญิงสาวหันหลังกลับไปดู ทำให้คนที่ยืนอยู่ด้านล่างของตึกร้องวี้ดเพราะคิดว่าการขยับตัวของเธอนั้นอาจจะทำให้เธอพลัดตกลงมาได้
“อย่าเข้ามา” วิไลสั่ง
“มีปัญหาอะไรรึเปล่า เราคุยกันได้นะ”
อาสดาพยายามจ้องตาเธอไว้ เขาเรียนรู้มาจากหัสยุทธ
“นายเป็นใคร”
“ผมอยู่ที่นี่เหมือนกัน เห็นคุณขึ้นมานานแล้วเลยตามมาดู ข้างบนนี่ร้อนมากนะ”
อาสดาอยู่ในท่าเตรียมพร้อมที่จะกระโจน เขาย่อหัวเข่าลงนิดๆ แต่มุมที่วิไลยืนอยู่นั้นมีถังน้ำสแตนเลสขนาดใหญ่ขวางอยู่ มันเป็นอุปสรรคสำคัญถ้าเขาจะเข้าไปคว้าตัวของเธอไว้ เขาต้องพยายามให้หญิงสาวเดินมาหาเขาอีกสักสองก้าว
“ฉันไม่เป็นไร นายลงไปซะ”
“แน่ใจนะ ผมกลัวคุณเป็นลม แดดร้อนมากเลย”
“ที่ที่ฉันจะไปคงร้อนกว่านี้หลายเท่า”
…บาปอยู่ที่ฉัน ติดตัวฉัน และจะพาฉันไปยังขุมนรกที่ซึ่งคนที่ฉันรักรออยู่…
เสียงหวีดหวอของรถกู้ภัยทำให้คนที่อยู่บนดาดฟ้าสะดุ้ง วิไลหันขวับไปมองเบื้องล่าง ขาของเธอเริ่มสั่น
“ตำรวจมาทำไม”
“ไม่ใช่ตำรวจ หน่วยกู้ภัย พวกเขากลัวคุณจะกระโดดลงไป”
“ไม่เอาตำรวจ! ฉันไม่อยากติดคุก”
“คุณไม่ต้องติดคุก พวกเขาแค่เป็นห่วงคุณเท่านั้นเอง เดินมาหาผม เราจะลงไปข้างล่างด้วยกัน”
“นายหลอกฉัน”
“ผมไม่ได้หลอก ถ้าคุณยอมลงไปกับผมดีๆ ทุกคนก็จะกลับไป”
แทนที่วิไลจะขยับเข้ามาหาอาสดา เธอกลับเลือกที่จะเขยิบไปใกล้ขอบปูนของดาดฟ้า พร้อมกับสายตาที่มองไปเบื้องล่าง อาสดารู้สึกว่าท้องของเขาขมวดเกร็งด้วยความเครียด
“วิไล”
เสียงนั้นทำให้หญิงสาวหันกลับมาที่อาสดาอีกครั้ง แต่เธอกลับเห็นผู้ชายอีกคนที่คุ้นหน้ามายืนอยู่ด้วย “ตำรวจ…”
“ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง” หัสยุทธพูด เขาจำเป็นต้องถ่วงเวลาให้นานที่สุดเพื่อให้คนด้านล่างกางเบาะลมให้เรียบร้อยก่อน “สบายดีนะ”
“รู้จักชื่อฉันได้ยังไง”
“ผู้จัดการสาขาบอก”
สีหน้าของเธอดูตกใจ “เขาบอกตำรวจเหรอ”
“ใช่ แลกกับการปล่อยตัวเขาไป”
“ปล่อยไปได้ยังไง มันเป็นคนวางแผนการทั้งหมด”
หัสยุทธขมวดคิ้ว “แผนอะไร”
“ตำรวจถูกมันหลอกแล้ว มันเป็นคนจ้างให้พวกเราปล้นธนาคารมันเอง ที่ตุ่นต้องตายก็เพราะมัน ที่พี่โอ่งต้องตายก็เพราะมัน ฉันอยากจะฆ่ามันจริงๆ”
“ถ้าอย่างนั้นเธอก็ต้องมีชีวิตอยู่เพื่อไปให้การปรักปรำนายวิรุฬในชั้นศาล”
อิ๋วนิ่งไป คงจะกำลังใช้ความคิด แต่อีกด้านของถังน้ำสแตนเลส อาสดาพยายามหามุมที่จะพุ่งเข้าไปรวบตัวเธอออกมาจากจุดวิกฤต
“แต่ฉันก็จะต้องเข้าคุกด้วย”
“ไม่กี่ปี ถ้าเธอให้ความร่วมมือกับตำรวจ ฉันจะขอลดหย่อนโทษให้”
“คนมีเงินอย่างไอ้วิรุฬ ติดคุกไม่กี่ปีเดี๋ยวมันก็คงได้ออกมา ฉันจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับมันหรอก ฉันจะไปหาสามีของฉัน”
อาสดายังไม่สามารถเข้าไปชาร์จตัวเธอได้หัสยุทธรู้ดี เขาต้องพยายามหาเรื่องคุยกับเธอไปเรื่อยๆ
“เธอหมายถึงใคร คนที่ปล้นธนาคารกับเธอเหรอ”
วิไลไม่ตอบ
“เขาเป็นสามีของเธอเหรอ”
เธอยังคงเงียบ
“เขารู้ใช่ไหมว่าเธอเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขา”
ประโยคนี้ทำให้หัวใจของวิไลหล่นวูบ ความรู้สึกผิดในจิตใจยังคงหลงเหลืออยู่ แม้ว่ามันจะถูกปกปิดไว้มากแค่ไหนแต่มันก็ยังมี น้ำตาของเธอเริ่มรื้น มันเป็นจังหวะที่หัสยุทธต้องเพิ่มความระมัดระวัง แต่มันก็ช่วยเปิดโอกาสให้อาสดาเข้าไปใกล้คนร้ายที่กำลังสูญเสียสมาธิได้ง่ายขึ้น
“มันเป็นเรื่องไม่ถูกต้องไม่ใช่เหรอที่พี่น้องจะมีความสัมพันธ์กันแบบนั้น มันผิดทั้งกฎหมาย ผิดทั้งศีลธรรม”
“ฉันไม่รู้! เขาก็ไม่รู้! พวกเราไม่รู้เข้าใจไหม!” เธอฟูมฟาย “แต่รู้แล้วจะเป็นยังไง ใครจะมาสนใจเรา เราก็อยู่ในโลกที่ไม่มีใครใส่ใจอยู่แล้ว พวกเราเป็นขยะ”
“ไม่มีใครเป็นขยะ แต่เด็กที่เกิดขึ้นมาอาจจะพิการ เธอรู้เรื่องนี้รึเปล่า”
“อะไรนะ…ไม่” วิไลส่ายหน้า
“พ่อแม่ที่มีสายเลือดเดียวกันมีโอกาสเสี่ยงที่จะให้กำเนิดลูกที่ผิดปกติได้ เราจะพาเธอไปตรวจดีไหม”
“ลูกของฉัน…ลูกของเรา”
วิไลดูช็อกกับสิ่งใหม่ที่เธอได้รู้ ในวินาทีนั้นหัสยุทธยกมือข้างซ้ายขึ้น อาสดาซึ่งพยายามเข้ามาประชิดตัว รีบพุ่งเข้าหาเธอทันที หญิงสาวหันไปเห็นร่างของนายตำรวจในตอนที่เขาจะถึงตัวพอดี เธอพยายามดิ้นรนขัดขืนแล้วเท้าข้างหนึ่งของเธอก็เหยียบพลาด…
“กรี๊ดดดดดดดดด…”
“อาส…”
“คนตกตึกๆ”
คนด้านล่างหวีดร้องขึ้นพร้อมกับวิไลและเสียงตะโกนของหัสยุทธ เมื่อร่างของอาสดากับหญิงสาวร่วงจากดาดฟ้าชั้นที่สามลงไปที่พื้นด้านล่างพร้อมกัน นายตำรวจเจตนาที่จะไม่ปล่อยเธอให้ร่วงลงไปคนเดียว เขากอดเธอไว้แน่น เคราะห์ดีที่เบาะยางเป่าลมด้านล่างนั้นทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ หัสยุทธชะโงกหน้าลงไปดูเห็นโอบเกียรติกับวุฒิภาศส่งสัญญาณมือมาบอกว่าคนทั้งคู่ปลอดภัยดี