ทดลองอ่าน เจรจาต่อ-ตาย ตอน ราคะ บทที่ 10-บทที่ 11 – หน้า 8 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

LOVE

ทดลองอ่าน เจรจาต่อ-ตาย ตอน ราคะ บทที่ 10-บทที่ 11

“นางสาวมัลลิกา ลีหะนุตเป็นอะไรกับคุณครับ”

“ฮะ…ฮ้า ใครนะครับ ผมไม่รู้จัก” วิรุฬส่ายหน้าเป็นพัลวัน

ถวิลอ่านเอกสารที่อยู่ในมือของเขาฉบับหนึ่งด้วยน้ำเสียงอันราบเรียบ “นางสาวมัลลิกามีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จำนวนสองบัญชี ซึ่งหนึ่งในสองบัญชีนั้นได้รับการโอนเงินจากคุณเป็นประจำทุกเดือน ส่วนอีกบัญชีมีการเคลื่อนไหวของเงินตลอดเวลา ฝ่ายตรวจสอบพบว่าบัญชีนี้เป็นบัญชีที่เปิดไว้เพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ และโดยการตรวจสอบกับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นางสาวมัลลิกา ลีหะนุตเป็นนักเล่นหุ้นในตลาดทุนและตลาดทองคำ คราวนี้พอจะจำได้รึยัง”

เหมือนปลายทางของอุโมงค์ถูกปิดตาย ไม่มีแสงสว่างใดส่องลอดออกมาได้ วิรุฬเริ่มก้มหน้าต่ำกว่าเดิม ไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับใคร ความกลัวที่ถูกกดไว้นานเป็นปีกำลังจะถูกเปิดเผยออกมา เขากำลังจนตรอก…

“และผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพนักงานในสาขาของคุณ…ใช่ไหม” ถวิลถามย้ำแต่ก็ยังคงไม่มีคำตอบ “เกินเยียวยาจริงๆ ผมให้โอกาสคุณในการรับสารภาพ แต่คุณก็ยังอุตส่าห์โยนความผิดไปให้คนอื่น”

“ผะ…ผม… ท่านเห็นใจผมเถอะครับ ผมผิดไปแล้ว” ร่างอวบนั้นสั่นเทิ้ม ไม่มีใครเห็นว่าเขาร้องไห้ แต่หัวไหล่ที่ลู่ลงกับใบหน้าที่ก้มต่ำแทบจะชิดทรวงอกนั้นบอกให้รู้ว่าเขากำลังสำนึกผิด “ท่านน่าจะเห็นแก่สิ่งที่ผมทำเพื่อธนาคารบ้าง ถ้าวันนั้นผมไม่ช่วยเหลือพนักงานกับลูกค้าก็อาจจะมีคนตาย ธนาคารก็จะพลอยเสียชื่อเสียงไปด้วยนะครับ”

คำพูดของเขาเพิ่มความโกรธให้ถวิล ผู้จัดการเขตไม่ตอบโต้วิรุฬด้วยคำพูดแต่เขากลับกดอินเตอร์คอมที่โต๊ะเพื่อเรียกเลขานุการของตน

“เชิญสารวัตรหัสยุทธเข้ามาข้างในได้”

การที่ตำรวจถูกเรียกตัวมาอีกครั้งนั้นทำให้วิรุฬเสียขวัญมากกว่าเดิม เพราะเขาไม่คิดว่าธนาคารจะเรียกตำรวจมาจับกุมเขาทันทีอย่างนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบสองคนถอยออกจากเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของถวิลแล้วไปนั่งรอที่โซฟารับแขก เพื่อให้ตำรวจทำงานได้ถนัดขึ้น หัสยุทธเดินเข้ามาในห้องนั้นพร้อมกับวุฒิภาศ วิรุฬจำนายตำรวจหนุ่มทั้งคู่ได้ดี คนหนึ่งช่วยชีวิตเขาจากปลายกระบอกปืนของคนร้ายที่ถูกวิสามัญฆาตกรรม ส่วนอีกคนเพิ่งสอบปากคำเขาไปเมื่อไม่นานมานี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ทักทายหรือทำความเคารพใครในห้องเลย คล้ายกับว่าพวกเขาได้พบกันมาก่อนหน้านี้แล้ว

“ผมอยากให้คุณตำรวจช่วยแจ้งข้อกล่าวหาผู้จัดการของเราตอนนี้เลย” ถวิลพูดขึ้นอย่างเหลืออด

“อะไรกันครับ จะแจ้งข้อหาอะไรผม”

หัสยุทธกับวุฒิภาศไม่ได้นั่ง เขายืนอยู่ด้านหลังเก้าอี้ของวิรุฬซึ่งหันมามองคนทั้งคู่ด้วยความระแวง

“ยักยอกทรัพย์ที่เป็นส่วนของธนาคาร และสมรู้ร่วมคิดกับคนร้ายในการปล้นธนาคารของตัวเอง”

หัสยุทธสรุปสั้นๆ แต่คนฟังแทบคลั่งโดยเฉพาะข้อกล่าวหาข้อหลัง คราวนี้ความกลัวยิ่งรุนแรงขึ้น วิรุฬลุกขึ้นยืนทันทีจนวุฒิภาศจำเป็นต้องเข้าไปกุมตัวเขาไว้

“ใจเย็นๆ ผมยังไม่อยากใส่กุญแจมือคุณตอนนี้”

“ปล่อย ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย”

หัสยุทธจ้องตาของเขาอย่างเอาเรื่อง “วิไลสารภาพแล้วว่าคุณเป็นคนจ้างวานให้พวกเขาปล้นธนาคาร โดยมีข้อแม้ว่าถ้าไม่ช่วย คุณจะส่งตัวสามีของเธอให้ตำรวจ”

“วิไลไหน ผมไม่รู้จัก”

“ผู้หญิงที่เป็นตัวประกันเหมือนคุณไงครับ ไม่รู้จักได้ยังไงในเมื่อคุณสนับสนุนการแปลงโฉมของเธอทุกอย่าง”

“พวกคุณอย่ามามั่วโยนความผิดให้ผมดีกว่า ผมอาจจะเอาเงินของธนาคารไปใช้ก็จริง แต่เรื่องปล้น ผมไม่รู้เรื่อง อย่าเอาคุกมาให้ผมสิคุณถวิล”

คนถูกพาดพิงลุกขึ้นยืนบ้าง เขาเดินออกจากโต๊ะทำงานของตัวเองเพื่อมาเผชิญหน้ากับวิรุฬ

“ผมไม่มั่วแน่ กว่าที่เราจะเชิญคุณมาในวันนี้เราทุกคนทำงานกันหนักมาก ทั้งฝ่ายธนาคาร ฝ่ายตำรวจ เรามีหลักฐานทุกเรื่อง”

“หลักฐานอะไร” เขายังคงท้าทาย

หัสยุทธช่วยตอบ “คุณมีปัญหาเรื่องการเงิน คุณทุจริตแล้วพยายามปกปิดมันด้วยการสร้างเรื่องที่ใหญ่กว่าเพื่อเลื่อนการตรวจสอบออกไปอย่างน้อยก็สามถึงหกเดือน แล้วในระหว่างนั้นคุณคิดว่าจะสามารถหาเงินมาใช้คืนได้ทัน คุณพยายามให้คนร้ายนำเงินสดออกไปให้ได้มากที่สุดในช่วงเวลาที่พนักงานเองก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีเงินในลิ้นชักทั้งหมดเท่าไร คุณต้องการให้ทุกอย่างดูคลุมเครือและตรวจสอบได้ยากเพื่อโยนความผิดให้เป็นเรื่องของการปล้น แต่คุณกลับขุดหลุมฝังตัวเองด้วยวิธีการดังกล่าว เพราะมันซับซ้อนเกินกว่าที่เด็กบ้านแตกสักคนหรือสองคนจะคิดได้ พวกเขาเป็นแค่โจรลักเล็กขโมยน้อย แต่คุณกลับสร้างให้พวกเขาเป็นนักปล้นธนาคาร แล้วมองดูพวกเขาถูกวิสามัญฆาตกรรมไปต่อหน้าต่อตา”

นายตำรวจร่างใหญ่กัดฟันพูด เขานึกรังเกียจความเห็นแก่ตัวของคนที่สังคมเห็นว่ามีพร้อมทุกอย่าง แต่กลับเอารัดเอาเปรียบคนที่ด้อยกว่าตนเองทุกด้าน

“ตอนนี้ตำรวจกำลังเชิญตัวคุณมัลลิกามาพบเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม”

“อย่ายุ่งกับเขา!” วิรุฬเพิ่งเริ่มมีอารมณ์โกรธ

“ทำไม…เธอสำคัญยังไง”

“อย่ายุ่งกับเธอ เธอไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้”

“เกี่ยวสิ ถ้าเธอรับเงินที่คุณทุจริตไปจากธนาคาร เธออาจจะเข้าข่ายฟอกเงินก็ได้ เรารู้มาว่าเธอมีทรัพย์สินที่เป็นคอนโดมีเนียม ห้องเช่า ที่ดิน และรถยนต์อีกสองคัน คุณรู้เรื่องนี้ไหม”

วิรุฬสะบัดตัวน้อยๆ เพื่อให้หลุดออกจากการเกาะกุมของวุฒิภาศ จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้อีกครั้ง เขาเริ่มร้องไห้และเป็นการร้องแบบไม่เหลือมาดของนักบริหารทางการเงินอีกต่อไป

Comments

comments

Continue Reading

More in LOVE

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com