X
    Categories: LOVEทดลองอ่านเจ้าบ่าวขบวนสุดท้าย

ทดลองอ่าน เจ้าบ่าวขบวนสุดท้าย บทที่ 5

หน้าที่แล้ว1 of 2

บทที่ 5

โปรดสัตว์ได้บาป

ร้อน…เหมือนไก่กำลังถูกย่างอยู่ในเตาเผา พลิกไปทางไหนก็ร้อนวูบวาบไปหมด

กังสดาลพยายามปรือตาขึ้นมองภาพตรงหน้า แต่เปลือกตากลับหนักอึ้ง เธอต้องใช้ความพยายามอยู่ครู่ใหญ่จึงเห็นว่าคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เป็นผู้ชายร่างใหญ่ กรอบหน้าของเขาบึกบึนแบบบุรุษ แต่เครื่องหน้ากลับมีความหวานละมุนแบบผู้หญิง

“คุณคะ!”

เสียงของเธอแหบโหย มือเรียวบางฝืนยกขึ้นไขว่คว้าขอความช่วยเหลือ แต่อีกฝ่ายกลับปัดมือเธอออก ก่อนเปรยด้วยน้ำเสียงฉุนกึก

“คุณคะ ปิดฮีตเตอร์ ฉันร้อน!”

ไม่เพียงแต่พูด มือเรียวบางกลับป่ายปะไปทั่วเพื่อควานหาไอเย็น แต่กลับคว้าเจอแต่ ‘ของแข็ง’

“บ้าฉิบ! ขับให้มันเร็วๆ หน่อย แล้วก็เร่งแอร์ด้วย แม่นี่จะกินหัวฉันอยู่แล้ว”

ฉายสบถเป็นภาษาเกาหลี รีบปัดมือหญิงสาวให้พ้นไปจากต้นขาก่อนจะยัดหมอนอิงให้หญิงสาวกอดไว้

ข่มความวูบวาบที่พุ่งเข้าเล่นงานจนกายหนุ่มเดือดพล่าน ความแกร่งกร้าวกลางกายพานจะกำเริบเสิบสาน

เขาเสมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยหวังจะข่มความฟุ้งซ่านให้สงบราบคาบ แต่หารู้ไม่ว่ากลับสบช่องให้โจรสาวยื่นหน้าเข้ามาส่งจมูกฟุดฟิดเหมือนหมาล่าเนื้อ พอแน่ใจแล้วว่าเป้าหมายที่ต้องการอยู่ตรงหน้าก็วางมือทาบลงบนกำแพงเย็นเฉียบตรงหน้าที่ขยับขึ้นลงได้

ริมฝีปากแดงอิ่มเผยอขึ้น นัยน์ตากลมใสแจ๋วช้อนมองเหยื่ออันโอชะ แต่คนที่กำลังจะถูกปล้นสวาทกลับเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ

“คุณสวยจัง!”

หากคำพูดนี้หลุดออกจากปากผู้ชายคงมีดวลหมัดกันบ้าง แต่พอหลุดจากปากผู้หญิงอ้อนแอ้นซึ่งกำลังก่ายเกยอยู่บนตักพลางจ้องริมฝีปากเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย คาสโนว่าหน้าหวานก็ไม่รู้จะตอบกลับยังไง ยังไม่ทันห้ามปรามโจรปล้นสวาท เธอก็เลื่อนหน้าเข้ามาทาบริมฝีปากลงบนกลีบปากหยักสวยของเขาอย่างแผ่วเบาคล้ายเด็กน้อยที่กำลังจุ๊บแก้มคุณปู่คุณย่าเวลาได้ขนมหวาน

เพียงชั่วพริบตาเธอก็ผละออก หมดความสนใจริมฝีปากร้อนผ่าวที่นึกว่าจะเย็นละมุนละไม แต่คนถูกปล้นจูบหน้าตาเฉยกลับเบิกตาโพลงเพราะเรียวปากนุ่มละมุนยังทิ้งเชื้อไฟไว้ในหัวใจ ฉายจึงตวัดวงแขนรัดเอวคอดกิ่วไว้ในอ้อมแขนท่ามกลางการดิ้นรนผลักไสไม่หยุด

“อย่ายุกยิก เดี๋ยวเจอของแข็งหรอก!”

โจรสาวขี้เมาไม่เข้าใจว่า ‘ของแข็ง’ ที่ว่าคืออะไร จึงพยายามดิ้นหนีไอร้อนผ่าวชวนอึดอัด แต่อ้อมแขนแข็งแรงกลับกระชับแน่นขึ้นพลางเอื้อมมือไปปัดช่องแอร์ริมประตูคนนั่งให้หันมาหา หญิงสาวในอ้อมแขนจึงเริ่มสงบและซุกหน้ากับอกกว้างอย่างเต็มอกเต็มใจ แถมยังถูหน้ากับเสื้อเชิ้ตสีขาวของตนราวกับลูกแมวขี้อ้อนอีกแน่ะ

“เย็นขึ้นไหม”

“อือ!”

แล้วหญิงสาวก็ผล็อยหลับไป มาสะดุ้งตัวอีกทีตอนรู้สึกว่าถูกอุ้มเข้ามาที่ไหนสักแห่งซึ่งมีไฟส่องสว่าง บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยหินอ่อนและมีสีทองดูหรูหราไปหมด

“ที่หนายยย”

เสียงอ้อแอ้ถามเป็นภาษาไทยแต่ชายหนุ่มไม่ได้ตอบ กลับกระชับวงแขนแน่นขึ้นแล้วเดินดิ่งเข้าสู่ลิฟต์โดยสาร

“ปล่อย!”

“ขืนปล่อยก็ร่วง จะเอาไหม!”

ชายหนุ่มขึ้นเสียง แสร้งทำทีจะคลายอ้อมแขนจนหญิงสาวรู้สึกว่ากำลังจะร่วงลงไปในเหวจึงรีบคว้าต้นคออีกฝ่ายไว้มั่น

“ม่ายยย!”

ชายหนุ่มลอบเบะปาก กลอกตามองเพดานลิฟต์ด้วยความระอา ยั่วดีนักปล้ำเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราวเลยดีไหม ขยันก่อแต่เรื่อง

แต่คนอย่างฉายน่ะเหรอจะปล้ำคนเมา รู้ถึงไหนอายถึงนั่น คาสโนว่าฉายไม่เคยลักหลับใคร เขาตัดสินใจผลักความคิดชั่วร้ายทิ้งไปแล้วเดินดุ่มๆ ออกจากลิฟต์ตรงไปยังห้องสูทชั้นบนสุดของโรงแรมหรูกลางกรุงโซล

คนขับรถจัดแจงเปิดประตูและทิ้งคีย์การ์ดไว้ที่ชั้นวางของข้างประตูก่อนทิ้งเจ้านายไว้กับหญิงสาวในอ้อมแขน ห้องพักกว้างแบ่งเป็นโถงรับแขกขนาดใหญ่ตรงกลาง สุดทางเดินมีประตูบานเลื่อนซึ่งซ่อนห้องนอนไว้ภายใน ฉายชั่งใจไม่นานก็ตัดสินใจวางเธอลงบนโซฟาตัวเขื่องสีดำ

เขาไม่ใช่นักบุญแล้วก็ไม่ใช่สุภาพบุรุษ เรื่องอะไรจะจ่ายเงินหลักแสนเพื่อนอนบนโซฟาแล้วปล่อยให้โจรสาวตัวแสบปล้นเตียงนอนหลังใหญ่หน้าตาเฉย

เธอทิ้งตัวดิ่งฟุบหน้าแผ่หลาบนโซฟาตัวใหญ่โดยไม่สนใจว่าใครบางคนจะยืนอึ้งกิมกี่ ไม่แน่ใจว่าระหว่าง ‘เสียดาย’ กับ ‘โล่งอก’ เขารู้สึกอย่างไหนมากกว่ากัน

 

 

โปรดติดตามตอนต่อไป

หน้าที่แล้ว1 of 2

Comments

comments

No tags for this post.
Jamsai Editor: