เจิ้งหลินเทียนน้อยใจมาก คิดว่าเสื้อผ้าของตนเองไม่ได้สกปรกสักหน่อย
แต่หานต้งก็ยังอบรมเขาไปยกหนึ่ง
ดูมาตั้งแต่ต้นจนจบ หานต้งล้วนอบรมสั่งสอนเจิ้งหลินเทียนตลอด แม้จะบอกว่าทำเพื่อสุขอนามัยของอาหารหรือเพื่อรสสัมผัสของอาหาร แต่ดูแล้วก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะทำให้คนรู้สึกว่าทำเกินกว่าเหตุไปบ้าง
เนื้อหาพวกนี้ถ้าจะตัดต่อเข้าไป อาจจะไม่เป็นผลดีต่อพวกเขาเท่าไรนัก แต่พอคิดถึงความต้องการของทีมผู้กำกับแล้ว…คอนเทนต์และสไตล์ที่ต่างกัน แย่งซีนให้ได้ เจียงเหมยอิ่งกัดฟันแล้วตัดต่อมันเข้าไป
เดิมทีใบหน้าด้านข้างก็พิสูจน์ให้เห็นถึงความจริงจังและความรับผิดชอบของหานต้งที่มีต่อลูกค้าแล้ว ก็แค่ให้ดูเข้มงวดมากขึ้นอีกสักหน่อย ที่เธอตัดต่อเข้าไปก็คงไม่เลวมั้ง
ฟางเข่อเข่อได้รับวิดีโอตัวอย่างที่เธอตัดต่อ ดูไปรอบหนึ่งก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “หานต้งเข้มงวดจริงๆ เลย”
เจียงเหมยอิ่งกุมศีรษะ เอ่ยเสียงเบา “จะเพิ่มเรตติ้งได้หรือเปล่า”
แววตาน่ากลัวของฟางเข่อเข่อมองมาที่เธอ “เถ้าแก่สุดหล่อที่เข้มงวดแบบนี้ ด่าคนด้วยเสียงน่าฟังขนาดนี้”
“?”
“เธอคิดว่าจะเพิ่มเรตติ้งไม่ได้เหรอ”
“…”
เจียงเหมยอิ่งรายงานความคืบหน้าของทีมโพสต์โปรดักชั่นของพวกเธอให้ทีมผู้กำกับทราบ ถามว่าสามารถใช้ท็อปปิก ‘เถ้าแก่ที่เข้มงวดจนถึงขั้นจู้จี้จุกจิก’ มาทำเป็นไฮไลต์ของสัปดาห์นี้ได้หรือไม่
บรรดาหัวหน้าดูวิดีโอแล้ว เพื่อเพิ่มเรตติ้งนั้นไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่า…
“เราถามความยินยอมจากเจ้าตัวก่อนเถอะ ไม่งั้นถ้าเขาเอาเรื่องขึ้นมาคงไม่ดีแน่”
ดังนั้นผู้ช่วยผู้กำกับจึงเริ่มถามความเห็นของผู้กำกับต่อหน้าเจียงเหมยอิ่ง ผลที่ได้รับกลับมากลับกลายเป็นว่า “ตามใจพวกเขาก็แล้วกัน”
ใบหน้าผู้ช่วยผู้กำกับเต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วน “ดูเหมือนว่าที่ร้านของพวกเขาจะยุ่งมาก ก็เลยบอกว่าตามใจพวกเรา ไม่เป็นไร”
เจียงเหมยอิ่งกำลังจะพูด “งั้น…”
“งั้นก็ทำตามกระบวนการของเธอตอนนี้เถอะ” ผู้กำกับทำการตัดสินใจ
พูดแบบนี้แล้ว เจียงเหมยอิ่งก็เดินกลับห้องสตูดิโอไปกับฟางเข่อเข่ออย่างอารมณ์ดี ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป
ไม่นาน เทป ‘ทัวร์ชิมร้านบะหมี่โหย่วเจียน’ ของรายการ ‘ทัวร์ชิมทั่วจีน’ ก็ออนแอร์อย่างเป็นทางการ
หลังจากออนแอร์ เรตติ้งของรายการก็พุ่งพรวดอย่างที่คิดไว้ ทีมผู้กำกับหัวเราะชอบอกชอบใจ ทว่าหลังจากนั้นไม่เกินสองวัน ทั้งทีมทำรายการรวมไปถึงทั้งบริษัทต่างก็ยิ้มไม่ออก
รายการสัปดาห์นี้ทำให้เกิดประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ ความเห็นแตกออกเป็นสองเสียง และศูนย์กลางของการโต้เถียงอันรุนแรงนี้ก็คือหานต้ง
มีคนบอกว่าหานต้งเป็นคนมีสปิริตในการทำงานและพิถีพิถัน จึงไปกินอาหารที่ร้านบะหมี่ของเขาได้อย่างสบายใจ
แต่ก็ยังมีคนอีกมากที่ตำหนิหานต้งว่าทำเกินกว่าเหตุ จู้จี้จุกจิก ปฏิบัติกับลูกศิษย์อย่างจอมเผด็จการและกดขี่ข่มเหงพนักงาน
ถึงขั้นมีคนไปค้นหาเวยป๋อของหานต้งและโพสต์ด่าเขา
อืม โชคร้ายที่เวยป๋อนั่นก็คือเชฟแคปนั่นเอง
เจียงเหมยอิ่งและฟางเข่อเข่อในฐานะคนตัดต่อและทำไฟนอลจึงถูกกดดันอย่างหนัก เนื้อหาต้นฉบับยาวมาก ข้อบกพร่องในนิสัยของหานต้งที่ถูกเปิดเผยออกไปไม่ใช่การปล่อยหลุดโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เป็นสิ่งที่ทีมงานเบื้องหลังทั้งสองคนจงใจทำ หานต้งก็เหมือนกับพวกเผด็จการไม่ใช่หรือไงกัน
ทีมผู้กำกับทั้งยินดีทั้งกังวล ด้านหนึ่งคิดว่าการที่รายการดังขึ้นมาเป็นเรื่องดี อีกด้านหนึ่งก็กลัวว่าจะเป็นการสร้างความวุ่นวายให้กับทางหานต้ง เพราะพวกเขาได้ยินมาว่าเบื้องหลังครอบครัวของหานต้งไม่ธรรมดา ดังนั้นจะไปตอแยด้วยไม่ได้