With Love
ทดลองอ่าน เชฟคนนี้มีรักมาเสิร์ฟ! บทที่ 2-บทที่ 3
3
วันนี้หลังเลิกงานเจียงเหมยอิ่งวางแผนว่าจะไปหาแพทย์ประจำตัวของเธอที่คลินิกจิตเวช หรือก็คือเซียวอิ่นจางที่เป็นพี่ชายข้างบ้านซึ่งโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก หลังจากติดต่อกับเซียวอิ่นจางแล้ว เขาก็บอกว่าจะมารับเจียงเหมยอิ่งไปที่คลินิก
เซียวอิ่นจางกับรุ่นน้องของเขาคนหนึ่งเปิดคลินิกจิตเวชส่วนตัวด้วยกัน ตอนนี้ที่คลินิกมีจิตแพทย์สี่คน พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง ก่อนหน้านี้ที่เจียงเหมยอิ่งเรียนหนังสือและทำงานอยู่ที่ปักกิ่ง เซียวอิ่นจางจะไปปักกิ่งสองครั้งเป็นประจำทุกปีเพื่อไปตรวจอาการให้เจียงเหมยอิ่ง
ตอนนี้เจียงเหมยอิ่งย้ายมาทำงานที่ฝูเฉิงแล้ว เธอมักจะกลับไปพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ในช่วงนี้กับเซียวอิ่นจางเป็นประจำ เพื่อที่เขาจะได้เข้าใจอาการป่วยของเธอ
ก่อนถึงเวลาเลิกงาน เจียงเหมยอิ่งหมายจะปลีกตัวออกไปก่อนเวลาแต่ก็ไม่สำเร็จ เธอถูกผู้กำกับหลิวรั้งตัวไว้
ผู้กำกับหลิวเรียกเธอไปที่ห้องทำงาน พอเห็นหน้าก็ซักถามยกใหญ่ “เสี่ยวเจียง ไปร้านบะหมี่โหย่วเจียนมาแล้วเหรอ ขอโทษเถ้าแก่หานหรือยัง ฝั่งนั้นว่ายังไงบ้าง ทำไมไม่เห็นเขาติดต่อมาหาเราล่ะ ทางที่ดีน่าจะให้เขาติดต่อกลับมาหาเราสักหน่อย ฉันจะได้ขอโทษเขา”
“…” เจียงเหมยอิ่งห่อไหล่แล้วพูดเสียงอ่อย “ผู้กำกับหลิวคะ ฉันยังไม่ได้ไป…”
“อะไรนะ”
“ฉันยังไม่ได้ไปขอโทษ…” ออกศึกยังไม่ทันคว้าชัย ตัวตายเสียก่อนไปครั้งแรกไม่ทันสำเร็จ เจียงเหมยอิ่งก็ล้มเลิกกลางคันแล้ว ต่อให้ไปอีกครั้งก็ไม่กล้าพูดเรื่องที่ต้องขอโทษอยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้นช่วงนี้เธอก็ไม่ได้ไปที่ร้านบะหมี่โหย่วเจียนอีกเลย
ผู้กำกับหลิวร้อนใจ “โอ๊ย เสี่ยวเจียง ทำไมเธอไม่ไปล่ะ เรื่องนี้มันสำคัญมากนะ ถ้าเถ้าแก่หานโกรธเรา คิดว่าเราทำไม่ดีล่ะก็ มันจะส่งผลกระทบกับรายการของเราไปจนถึงทั้งบริษัทของเรามากมายมหาศาลเลยนะ!”
เจียงเหมยอิ่งไม่เข้าใจว่าทำไมร้านบะหมี่เล็กๆ ถึงมีความสามารถมากมายขนาดนี้ได้ ผู้กำกับหลิวยิ่งพูดยิ่งร้อนใจ ลุกขึ้นเข้ามาใกล้เจียงเหมยอิ่งและพูดถึงความร้ายแรงอย่างจริงจัง
เจียงเหมยอิ่งยกยิ้มแข็งทื่อ เอ่ยว่า “ฉันว่า…เถ้าแก่หานดูเหมือนจะไม่ได้แคร์เรื่องนี้เลยนะคะ…”
“เขาไม่แคร์แต่เราไม่แคร์ไม่ได้! เขาเสียชื่อเสียง จะส่งผลกับทั้งวงการอาหารเชียว!” ผู้กำกับหลิวตีหลังมือเธอ เอ่ยอย่างสลดหดหู่ “เสี่ยวเจียง เธอจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ นี่คือภารกิจทางการเมืองที่สำคัญและเร่งด่วนที่สุดของเธอในตอนนี้ ต้องทำให้สำเร็จ!”
เจียงเหมยอิ่งเอ่ยอย่างเก้อกระดาก “แต่ผู้กำกับหลิวคะ พวกเราเป็นบริษัทเอกชน…ก็แค่พาร์ตเนอร์เอาต์ซอร์ซของช่องรัฐ…”
“เอกชนแล้วยังไง! บริษัทเอกชนจะมีภารกิจทางการเมืองไม่ได้เหรอ ฉันจะเพิ่มโบนัสให้เธอ เธอต้องหาเวลาไปขอโทษเดี๋ยวนี้ อนุญาตให้เธอนำของขวัญไปเยี่ยมด้วยได้ แล้วเอาใบเสร็จมาเบิกกับบริษัท”
“…”
ผู้กำกับหลิวยังคงพร่ำไม่หยุดว่าต้องซื้อของขวัญแบบไหน หานต้งถึงจะชอบ
เจียงเหมยอิ่งสงสัยมากจริงๆ สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะถาม “ผู้กำกับหลิวคะ…เถ้าแก่หานคนนี้…ตกลงว่าเป็นใครกันแน่ คุณถึงได้ซีเรียสขนาดนี้”
ผู้กำกับหลิวได้ยินคำถามของเธอก็เบิกตากว้างทันใด ราวกับเห็นมนุษย์ดึกดำบรรพ์ก็ไม่ปาน “นี่เธอไม่รู้หรอกเหรอ”
“…” เธอต้องรู้ด้วยหรือไง
เจียงเหมยอิ่งมองเขาอย่างใสซื่อ
“หานต้ง เถ้าแก่หานไง!” สองมือของผู้กำกับหลิวค้ำโต๊ะ พูดอย่างตื่นเต้นว่า “นายน้อยของซานเว่ยฟางไงล่ะ! เชฟระดับเลิศที่มีพรสวรรค์ที่สุดจนถึงตอนนี้!”
“…” เจียงเหมยอิ่งหน้านิ่วคิ้วขมวด ผ่านไปสักพัก นึกสงสัยว่าตนเองหูเพี้ยน จึงถามอีกครั้งว่า “อะไรนะคะ”
“ซานเว่ยฟาง! นายน้อย!”
เจียงเหมยอิ่งกะพริบตา ครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดก็เอาลำดับสัมพันธ์ในคำพูดของผู้กำกับหลิวมาเชื่อมเข้าด้วยกัน
นายน้อยของซานเว่ยฟางคือหานต้ง?
ล้อเล่นน่า
ซานเว่ยฟางเป็นบริษัทเครือข่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มระดับไฮคลาสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ภัตตาคารระดับมิชลินในเครือครองอันดับหนึ่งในประเทศ ราคาแปรผันตรงกับมาตรฐานในการปรุงอาหาร เรียกได้ว่าเป็นภัตตาคารที่บรรดาสังคมไฮโซชอบไปกันมากที่สุด
ถึงเจียงเหมยอิ่งจะไม่เข้าใจในวงการอาหาร แต่ก็พอได้ยินชื่อเสียงของซานเว่ยฟางมาบ้าง
ทว่าเรื่องของนายน้อยแห่งซานเว่ยฟางเธอรู้ไม่มากเท่าไร รู้แค่ว่าทุกร้านของซานเว่ยฟางล้วนเป็นอสังหาริมทรัพย์ของตัวเอง ซานเว่ยฟางมีสินทรัพย์และคอนเน็กชั่นมากมายมหาศาล นายน้อยคนนี้ดูเหมือนจะยังอายุน้อยอยู่ มีพรสวรรค์ในด้านการทำอาหารมาก แต่ไม่ลงรอยกับที่บ้าน
เรื่องอื่นก็ไม่รู้แล้ว
ตอนนี้จะให้เจียงเหมยอิ่งเอาหานต้งที่เธอตั้งข้อรังเกียจกับนายน้อยของซานเว่ยฟางเชื่อมเข้าด้วยกัน ก็รู้สึกเหลือเชื่อเกินไปหน่อย
แต่ท่าทางของผู้กำกับหลิวนั้นจริงจังมาก ในใจของเจียงเหมยอิ่งก็รวนเรขึ้นมา เริ่มคิดพิจารณาว่าเธอเข้าใจผิดไปหรือเปล่า หานต้งของร้านบะหมี่โหย่วเจียนคนนี้อาจจะไม่ใช่หานต้งเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ของเธอคนก่อนหน้า
แต่พอเจียงเหมยอิ่งนึกย้อนกลับไป ก็นึกขึ้นได้ว่าตอนที่เธอเพิ่งใช้เบอร์นี้ก็มักจะได้รับสายจากคนที่เรียกตัวเองว่า ‘พ่อของหานต้ง’ อีกฝ่ายก็มีข้อความเสียงมาว่า ‘ไอ้เด็กนรกถึงกับทิ้งกิจการของครอบครัวเรา! ภัตตาคารในเครือมันไม่ดีหรือไงฮะ! ไม่ใช่แค่ว่ามีพรสวรรค์เรื่องทำอาหารนิดหน่อยหรือไง ไปประกาศปาวๆ ว่าความคิดไม่ลงรอยกับฉัน นึกว่าตัวเองแน่สักแค่ไหนกันเชียว หนีไปจากฉันแล้วก็ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ!’
“…” เจียงเหมยอิ่งเม้มริมฝีปากแน่น บนหน้าผากมีเหงื่อเย็นๆ ซึมออกมา
เยี่ยมไปเลย ดูเหมือนว่าเธอจะยิ่งยืนยันได้แล้วว่านี่ก็คือคนคนเดียวกัน
ผู้กำกับหลิวยังพูดไม่หยุด “เสี่ยวเจียง? เสี่ยวเจียง! วันจันทร์นี้เธอต้องไปขอโทษนะ”
เจียงเหมยอิ่งยิ้มขมขื่น “ผู้กำกับหลิว…ฉันไม่เอาโบนัสแล้ว โบนัสทั้งเดือนนี้ให้คุณหมดเลยดีไหมคะ ฉันไม่อยากไปขอโทษแล้ว”
ผู้กำกับหลิวเอ่ยอย่างจริงจัง “ไม่ต้องกลัวเสี่ยวเจียง หานต้งไม่กินเธอหรอกน่า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะคิดว่าเธอเป็นสาวสวยแล้วเลี้ยงข้าวเธอก็ได้ ฝีมือทำอาหารของหานต้งดีมากนะ”
เจียงเหมยอิ่งสั่นศีรษะและเบะปาก
เธอไม่ได้กลัวหานต้ง แต่กลัวว่าตนเองจะทนไม่ไหวจนเอาโทรศัพท์มือถือกระแทกหน้าหานต้ง