With Love
ทดลองอ่าน เชฟคนนี้มีรักมาเสิร์ฟ! บทที่ 2-บทที่ 3
4
ช่วงนี้เจียงเหมยอิ่งส่งสูตรอาหารให้หานต้งไม่น้อยเลย และเธอก็ยังปฏิเสธค่าลิขสิทธิ์สูตรอาหารที่หานต้งเสนอมาครั้งแล้วครั้งเล่า
ตอนนี้คิดๆ ดูแล้วก็ใจดีจนตามืดบอดไปแล้วจริงๆ
เจียงเหมยอิ่งพูดถึงหานต้งให้เซียวอิ่นจางฟัง น้ำเสียงเต็มไปด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “คนพรรค์นี้ เหมือนที่พ่อเขาพูดไว้ไม่มีผิด ไร้มนุษยธรรม”
คนที่เกลียดไม่ว่าจะแสดงข้อดีมากมายแค่ไหน ก็ยังคงเกลียดอยู่วันยังค่ำ
เซียวอิ่นจางหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก “บางทีนี่อาจจะมีอะไรเข้าใจผิดกัน เธอก็อย่าตัดสินเอาเองสิ”
เจียงเหมยอิ่งส่ายศีรษะ “เขาเป็นผู้ชายใจแคบ เกลียดชะมัด”
“แต่เขาก็จะเป็นคนช่วยชีวิตเธอต่อจากนี้นะ” เซียวอิ่นจางลูบศีรษะเธอ พูดปลอบใจเบาๆ “ถึงยังไงขอแค่เธอกินอาหารที่เขาทำก็พอ ไม่จำเป็นต้องไปคลุกคลีกับเขาก็ได้ล่ะมั้ง”
เจียงเหมยอิ่งเบ้ปาก ดึงดันต่อ “จำเป็นต้องคลุกคลีน่ะสิ ฉันยังไม่ได้เอานามบัตรของผู้กำกับให้เขาเลย!”
“…” เซียวอิ่นจางยิ้มโดยไร้คำพูด
“ถ้าทำภารกิจไม่สำเร็จ ไม่ใช่แค่ผู้กำกับหลิวนะ พอถึงเวลานั้นแม้แต่บอสก็มาโทษฉัน แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ” เจียงเหมยอิ่งพูดอย่างกลัดกลุ้ม “ไม่รู้ทำไมต้องให้ฉันไปทำเรื่องแบบนี้ด้วย” ถ้าจะโทษก็โทษที่เธอตัดต่อวิดีโอที่เต็มไปด้วยการปะทะอารมณ์แบบนั้นออกมาในตอนที่สมองฟุ้งซ่าน
เซียวอิ่นจางเห็นเธอคิดได้แล้วก็ตบบ่าเธอเบาๆ “เอาล่ะ งั้นครั้งหน้าเธอก็เอานามบัตรให้ลูกศิษย์ของเขา หรือไม่ต่อไปก็สั่งดีลิเวอรี่ไปส่งที่บริษัท จะได้ใกล้หน่อย”
“แต่ถ้าสั่งดีลิเวอรี่ก็รับประกันไม่ได้ว่าจะเป็นหานต้งทำเองนี่” เจียงเหมยอิ่งจนปัญญา
จุดนี้เองก็น่าเหลือเชื่อมาก ตอนอยู่ที่ร้านเธอสามารถแยกออกได้อย่างง่ายดายว่าอาหารจานไหนหานต้งเป็นคนทำ จานไหนเจิ้งหลินเทียนเป็นคนทำ เพราะถ้าเห็นแล้วรู้สึกพะอืดพะอม อยากอาเจียน นั่นก็คืออาหารที่เจิ้งหลินเทียนทำ
เธอรู้ว่ามีแค่อาหารที่หานต้งทำเท่านั้นเธอถึงจะกินมันได้
ตอนนี้มาถึงทางตันแล้ว เจียงเหมยอิ่งไม่อยากเจอหานต้งคนหน้าตายคนนั้นอีกเลยจริงๆ
เซียวอิ่นจางโน้มน้าวอยู่นาน ในที่สุดเจียงเหมยอิ่งก็ตกปากรับคำ ไปกินอาหารที่ร้านบะหมี่โหย่วเจียนต่อ อย่างน้อยก็เพื่อบรรเทาอาการป่วยของตนเองไปก่อน
วันต่อมาเจียงเหมยอิ่งเลิกงานก่อนเวลา แต่งตัวอย่างประณีตบรรจง ฉวยโอกาสตอนที่ในร้านคนน้อยๆ เชิดหน้าวางท่า ก่อนจะเดินเข้าไปในร้านอย่างสง่าผ่าเผย
หวงหรูหรูเห็นเจียงเหมยอิ่งเข้าประตูมาก็ตกใจ วันนี้คุณเจียงสวมชุดเดรสสีดำ สวมรองเท้าส้นสูงสีดำ ใส่ต่างหูห่วงใหญ่คู่หนึ่ง ริมฝีปากทาด้วยสีแดงเพลิง ใส่แว่นตาดำอันใหญ่ ออร่าเปล่งประกายสุดๆ!
ทะเลาะกับเถ้าแก่ไปแล้วเมื่อวันก่อน วันนี้จะมาก่อเรื่องอีกหรือไง
หวงหรูหรูกระวนกระวาย ยังไม่ทันได้ไปเรียกหานต้งที่อยู่ในห้องครัวก็ถูกเจียงเหมยอิ่งเรียกไว้ “สั่งอาหารค่ะ!”
เสียงนั้นดังมาก แต่ฟังแล้วก็อ่อนแรงมากเช่นกัน
เธอรีบวิ่งเข้าไป ยกยิ้มน้อยๆ ตรงมุมปากแล้วทักทาย “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าต้องการอะไรคะ”
เจียงเหมยอิ่งไม่ถอดแว่นตาดำ เธอใช้มันปกปิดแววตาตื่นกลัวและขาดความมั่นใจของตนเอง
เธอเชิดคางขึ้นและเผยอริมฝีปากแดงเล็กน้อย “บะหมี่เนื้อตุ๋นน้ำแดง!”
หวงหรูหรูเซอร์ไพรส์มาก คงเพราะเจียงเหมยอิ่งมาร้านตั้งหลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่สั่งอาหารจานหลัก
หวงหรูหรูจดไปถามไป “ดะ…ได้ค่ะ ไม่ทราบว่าใส่ต้นหอมหรือผักชีไหมคะ เอาเผ็ดหรือเปล่าคะ”
แววตาของเจียงเหมยอิ่งที่อยู่ใต้แว่นดำล่อกแล่กไปมา ชั่วขณะนี้ใจเธอเต้นจนแทบกระดอนออกมา โชคดีที่คนอื่นไม่เห็นสีหน้าแววตาของเธอ เพราะตอนนี้ในดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวล
เธอไม่แน่ใจว่าหลังจากสั่งบะหมี่ไปแล้วตนเองจะกินได้สักกี่คำ บะหมี่ชามนั้นที่เจิ้งหลินเทียนให้เมื่อครั้งก่อนเธอกินไปได้แค่สองคำก็ยกให้ฟางเข่อเข่อ ตอนนี้สั่งชามใหญ่ขนาดนี้ กินทิ้งกินขว้างเกินไปแล้ว
“เอ่อ…เอ่อ…เอาหมดเลย” เจียงเหมยอิ่งตอบคำถามของหวงหรูหรูอ้อมๆ แอ้มๆ เสียงกลับมาอยู่ในระดับปกติ
หวงหรูหรูพยักหน้า หลังจากจดออเดอร์แล้วก็เสียบสมุดและปากกาไว้ที่กระเป๋าผ้ากันเปื้อน ก่อนจะไปสั่งออเดอร์ที่ครัว ยังไม่ทันถึงประตูห้องครัว จู่ๆ หานต้งกลับเดินออกมาขวางหวงหรูหรูไว้
หานต้งยื่นมือไปหยิบสมุดที่โผล่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อของหวงหรูหรู กวาดตามองออเดอร์บนสมุด จากนั้นก็เดินไปหาเจียงเหมยอิ่งที่นั่งอยู่กลางร้าน
หานต้งวางสมุดลงบนโต๊ะ สองมือค้ำยันโต๊ะไว้แล้วก้มมองเจียงเหมยอิ่ง เจียงเหมยอิ่งถูกเขาจ้องจึงรู้สึกหวั่นใจอยู่หน่อยๆ
“คุณแน่ใจนะครับว่าจะสั่ง” หานต้งถามเธอเสียงต่ำ
เสียงของหานต้งทุ้มต่ำน่าฟัง ตอนที่ตั้งใจมองเขาพูดทำเอาเธอหัวใจเต้นรัว
เจียงเหมยอิ่งเห็นหานต้งหน้าตึงตั้งแต่เขาออกมา เธอตื่นเต้นมาก สองมือกำหมัดแน่นอยู่ใต้โต๊ะ อารมณ์ที่ปกปิดอยู่ภายใต้แว่นดำ เพราะกังวล กล้ามเนื้อจึงเกร็งเล็กน้อย
หานต้งมองออกว่าเจียงเหมยอิ่งก็แค่สั่งบะหมี่เนื้อด้วยความโมโห เธอคงจะกินได้แค่ไม่กี่คำ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบฝีมือการทำอาหารของเขาก็ตาม เขาไม่อยากเห็นเหตุการณ์กินทิ้งกินขว้างเกิดขึ้นอีก
“คุณเจียง อาหารที่ผมทำ มีตรงไหนที่ไม่ดีหรือเปล่าครับ คุณบอกมาได้เลย” หานต้งถาม
เจียงเหมยอิ่งส่ายหน้า
หานต้งยืดตัวตรง ไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้อีก และเปลี่ยนเรื่องพูด “วันนี้ผมรับนามบัตรไม่ได้ ส่วนคำขอโทษผมรับไว้ ครั้งที่แล้วผมเองก็พูดไม่ถูก ขอโทษคุณด้วยครับ”
เจียงเหมยอิ่งเบิกตากว้าง ตกตะลึงจนพูดไม่ออก
นี่มันอะไรกัน ตบหัวแล้วลูบหลังหรือไง
หานต้งพูดจบ เห็นเจียงเหมยอิ่งพยักหน้าอย่างตกอยู่ในภวังค์ก็หันกลับเข้าไปในห้องครัว เขาพูดขอโทษไม่เก่ง คำขอโทษนี้ทำให้เขาต้องเตรียมใจอยู่นานมาก
ไม่นานบะหมี่ก็มาเสิร์ฟ และก็ยังคงเป็นบะหมี่ที่หานต้งทำเองกับมือ
ในร้านมีคนไม่มาก หานต้งนั่งโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆ กับประตูห้องครัว มองเจียงเหมยอิ่งเป็นครั้งคราว
เมื่อเจียงเหมยอิ่งเห็นบะหมี่ควันฉุยมาเสิร์ฟ แววตาก็เต็มไปด้วยความปีติยินดี ในใจของหานต้งดำดิ่ง คิดว่าตนเองคงจะเข้าใจเจียงเหมยอิ่งผิดไปจริงๆ ใครว่าเธอไม่ชอบอาหารที่เขาทำกัน
ผลสุดท้ายความคิดนั้นก็คงอยู่ได้ไม่นาน หานต้งเหมือนถูกตบหน้า
เจียงเหมยอิ่งกินบะหมี่ชามนั้นไม่หมด ไม่สิ ต้องบอกว่ากินเส้นบะหมี่ไปได้แค่สามคำ ไม่ได้แตะกระทั่งน้ำซุปและเนื้อ จากนั้นก็วางตะเกียบและช้อนลงเตรียมเช็กบิล
เจียงเหมยอิ่งก็ยังดูดี สุขภาพแข็งแรง นอกจากผอมนิดหน่อยก็มองไม่ออกเลยสักนิดว่าไม่เจริญอาหาร
อารมณ์โมโหที่ยากจะอธิบายปะทุขึ้นมาในใจของหานต้ง
เธอไม่เคารพอาหาร และก็ไม่ชอบฝีมือทำอาหารของเขาจริงๆ ด้วยสินะ
เขาเห็นเจียงเหมยอิ่งเรียกหวงหรูหรูไป หลังจากจ่ายเงินก็คุยอะไรกันสักอย่างเสียงเบา จากนั้นก็ยัดของใส่ในมือหวงหรูหรูแล้วเดินออกจากประตูร้านไป
หานต้งเรียกหวงหรูหรูมาทันทีแล้วถาม “เธอให้อะไรไว้”
หวงหรูหรูล้วงเอานามบัตรสองใบออกมาจากกระเป๋าผ้ากันเปื้อน “เอ่อ อันนี้ค่ะ คุณเจียงฝากฉันเอามาให้คุณ”
หานต้งมองแวบนึงก็เห็นว่าบนนั้นมีชื่อของผู้กำกับแซ่หลิว เขาพลันหงุดหงิดใจ ไม่พูดจาสักคำ ลุกขึ้นยืนแล้วออกไปตามเจียงเหมยอิ่ง
“รอเดี๋ยว” หานต้งตะโกนเรียกเจียงเหมยอิ่ง
เจียงเหมยอิ่งชะงัก ก่อนจะหันมาหาเขาตัวแข็งทื่อ “มีอะไรเหรอคะ”
นัยน์ตาของเธอล่อกแล่ก ไม่กล้ามองหานต้ง เธอแอบยัดนามบัตรให้หวงหรูหรู แถมยังกำชับหวงหรูหรูไว้ว่าต่อไปเธอจะสั่งดีลิเวอรี่ ต้องพยายามให้หานต้งเข้าครัวให้ได้”
คิดไม่ถึงว่าหานต้งจะตามมาเร็วขนาดนี้
หานต้งสีหน้าเย็นชา “เรื่องครั้งที่แล้วถึงผมจะพูดไม่ดี แต่ผมก็ยังอยากถามคุณเจียงสักหน่อย”
“คะ?”
“อาหารที่ผมทำมีอะไรที่คุณไม่ชอบหรือเปล่า”
เจียงเหมยอิ่งเอ่ยอย่างแปลกใจ “ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอคะว่าไม่มี”
“งั้นทำไมไม่แตะบะหมี่ชามนั้นเลย”
“ฉันกินแล้ว ก็แค่กินน้อยไปหน่อย…” เจียงเหมยอิ่งพูดอย่างรู้สึกผิด
พ่อครัวทุกคนไม่ชอบที่ความทุ่มเทของตนเองถูกทำให้สิ้นเปลืองหรอก โดยเฉพาะคนที่เกิดมาในตระกูลด้านอาหารอย่างหานต้ง เขาพยายามปรับปรุงคุณภาพให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป และมีใจเคารพในอาหาร
บะหมี่ชามนั้นไม่มีอะไรที่ไม่ดี แต่เจียงเหมยอิ่งป่วยเป็นโรคเบื่ออาหาร และก็ไม่ยอมบอกใคร
“ถ้าคุณไม่ชอบกินอาหารที่เราทำ คุณจะเปลี่ยนร้านก็ได้” หานต้งแนะนำ
แววตาของเจียงเหมยอิ่งเต็มไปด้วยความร้อนรน เธอพยายามอธิบาย “ไม่ใช่นะคะ ไม่ใช่ไม่ชอบ…”
“งั้นทำไมล่ะ” หานต้งถาม
เจียงเหมยอิ่งไม่รู้จะอธิบายเหตุผลอันซับซ้อนของตัวเองออกมาอย่างไร อ้ำๆ อึ้งๆ อยู่นาน พูดไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว
ดูเหมือนว่าจะเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
เธอเห็นคนหลายคนล้อมตัวเธอในอดีตไว้ เสียงหัวเราะแหลมดังขึ้นรอบๆ ตัว ใบหน้าของเธอในอดีตแทบจะเคลื่อนเข้ามาจนชิด
เสียงเสียดหูของเธอในตอนนั้นเอ่ยถาม ‘งั้นนายก็บอกมาสิ ถ้านายไม่ได้เอาไปแล้วใครเอาไป’
เสียงแตกหนุ่มของคนอีกคนหัวเราะแหบแห้งและพูดว่า ‘ฮ่าๆๆ แก้วใบละแปดหมื่นเยนของเธอแค่ใบเดียว ไม่มีค่าพอให้เป็นของเล่นของพวกเราด้วยซ้ำ’
รูม่านตาของเจียงเหมยอิ่งหดลงในทันใด หัวของเธอราวกับถูกของหนักกระแทกอย่างรุนแรง จู่ๆ เธอก็สั่นสะท้านไปทั้งร่าง เมื่อได้สติคืนมา เธอก็ตระหนักได้ว่าตนเองไม่ได้อยู่ในโรงเรียน คนตรงหน้าคือหานต้ง
“ทำไมคุณถึงได้รั้นนัก! ทุกคนต่างก็มีเรื่องที่ไม่อยากพูดถึงกันทั้งนั้นแหละ!” เจียงเหมยอิ่งขึ้นเสียงสูง มองเขาอย่างโมโห แล้วก็หมุนกายจากไป
หานต้งยังไม่ทันได้ตะโกนเรียก เจียงเหมยอิ่งก็วิ่งหนีหายไปในพริบตา
ความเร็วในการวิ่งและสภาพร่างกายยังดีมาก ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนคนป่วย หานต้งรู้สึกแค่ว่าเจียงเหมยอิ่งเป็นคนแปลกๆ
เขากลับไปถึงร้าน หวงหรูหรูก็เข้ามาถามอย่างกังวล “เถ้าแก่ นามบัตรนี้จะเอายังไงดีคะ”
“…” หานต้งรับนามบัตรมา เหลือบมองชื่อของผู้กำกับหลิวและถอนหายใจ “เก็บไว้เถอะ” ขณะที่พูด เขาเพิ่งเห็นว่าข้างใต้ยังมีนามบัตรอีกใบ จึงหยิบออกมาดู
หวงหรูหรูบอกว่า “เถ้าแก่ เมื่อกี้คุณเจียงบอกฉันว่าต่อไปถ้าเธอสั่งอาหาร ต้องพยายามทำให้คุณเข้าครัวให้ได้ แถมยังไม่ให้ฉันบอกคุณด้วย ฉันคิดว่าเธอน่าจะชอบฝีมือทำอาหารของคุณนะคะ อาจจะมีเหตุผลอะไรที่ทำให้กินไม่ค่อยลงล่ะมั้ง เถ้าแก่?”
หานต้งไม่ได้ฟังที่หวงหรูหรูพูด เขาจ้องเบอร์ติดต่อของเจียงเหมยอิ่งที่อยู่บนนามบัตร จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
นี่มัน…เป็นเบอร์มือถือที่เขาเคยใช้เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วก่อนที่จะออกจากบ้านไม่ใช่เหรอ