ทดลองอ่าน เชลยรักกักใจ – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

14 วัน 14 เรื่อง

ทดลองอ่าน เชลยรักกักใจ

สิบสองแคว้นในใต้หล้านี้ กำลังทหารของเป่ยโม่กลับมีถึงหนึ่งในสามของทหารทั้งหมดจากแผ่นดินทางตะวันตกเฉียงเหนือ เมื่อสิบกว่าปีก่อนนั้นมีเจ็ดแคว้นได้ร่วมมือกันสู้รบกับแคว้นเป่ยโม่ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะแพ้ราบคาบ ถูกกองทหารของเป่ยโม่สังหารหมู่ไปกว่าสามแสนนาย เลือดนองบนพื้นดินนานถึงสามเดือนก็ยังไม่แห้งเหือดไป

ถึงแม้ชีวิตขององค์หญิงแห่งแคว้นหนานฉู่จะมีค่ามากมายเพียงใด แต่ในตอนที่นางได้ติดตามหมอเทวดาผู้เป็นอาจารย์ของนางไปช่วยดูคนเจ็บที่กองกำลังทหารชาวหนานฉู่ในสนามรบนั้น ชีวิตของนางล้วนเทียบไม่ได้กับทหารหาญที่สิ้นชีพไปในการสู้รบ ยิ่งได้เห็นศพกองซ้อนทับกันประหนึ่งกองภูเขา กระจัดกระจายไปทั่วด้วยตาของตนเอง กลิ่นคาวเลือดและภาพน่าสลดหดหู่ใจในตอนนั้นแม้จะผ่านมาหลายปีแล้ว หากยังคงทำให้นางฝันร้ายเกี่ยวกับมันอยู่บ่อยครั้งจนถึงตอนนี้

หลังจากการสู้รบในครานั้น เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยของแต่ละแคว้น เป่ยโม่จึงบังคับให้ส่งตัวองค์ชายองค์หญิงมาในฐานะตัวประกัน ร่างกายของนางอ่อนแอขี้โรค เดิมทีไม่ควรเป็นนางที่มา หากแต่ผู้ที่จะสามารถสืบราชบัลลังก์แคว้นหนานฉู่ได้มีเพียงองค์หญิงทั้งสามพระองค์ แต่เมื่อเดือนก่อนองค์หญิงรองที่เคยมาเป็นตัวประกันให้เป่ยโม่นานสิบกว่าปีก็เพิ่งจากโลกนี้ไป

“หากสวรรค์มีตา ท้ายที่สุดแต่ละแคว้นบนแผ่นดินนี้อาจมีวันที่ได้รับความยุติธรรม” ไป่ซั่งเสียนกล่าวอย่างมีความหวัง

“ตอนที่กองกำลังทหารจากเจ็ดแคว้นร่วมมือกันต่อต้านเป่ยโม่ มีคนพูดถึงเรื่องความยุติธรรมหรือไม่” ฉู่เหลียนเฉิงส่ายหน้าพลางพูดช้าๆ ว่า “ผู้ชนะเป็นกษัตริย์ ผู้แพ้กลายเป็นผู้ร้าย เป็นเหตุผลที่ไม่เปลี่ยนมาตั้งแต่โบราณกาล คำว่ายุติธรรมนี้มาจากปากของราษฎร สุดท้ายแล้วทั้งท่านและข้าที่ล้วนเป็นเชื้อพระวงศ์ แต่กลับช่วยอะไรราษฎรของตนเองไม่ได้ ท่านไม่รู้สึกหรอกหรือว่าพวกเรามิต่างอะไรกับขอทานเลย”

ไป่ซั่งเสียนตกตะลึง มองดวงตาเป็นประกายคู่นั้นบนใบหน้าตอบผอมของนางก็ไม่อาจละสายตาออกไปได้อีก

สตรีที่แคว้นซีไป่ส่วนใหญ่จะมีจิตใจอ่อนโยน ส่วนสตรีจากตระกูลเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงก็ไม่ค่อยปรากฏกายอยู่ในวงสังคม แต่ราษฎรสองในสามที่เป็นหญิงภายในแคว้นหนานฉู่กลับไม่เหมือนกัน สตรีหนานฉู่นั้นรับผิดชอบทำมาค้าขายไม่ต่างอะไรกับบุรุษ เมื่อเขามองฉู่เหลียนเฉิงที่ร่างกายเหมือนจะอ่อนแอขี้โรค แต่ก็ยังสามารถพูดวิพากษ์วิจารณ์ต่อการปกครองออกมาได้อย่างเฉียบคม ทำให้เขายิ่งรู้สึกนับถือนาง

“ความเห็นของข้าทำให้ท่านตกใจเสียแล้ว โปรดให้อภัยด้วย” ฉู่เหลียนเฉิงเห็นสีหน้าประหลาดใจของเขาจึงได้โค้งตัวคำนับเพื่อเป็นการขอขมา

“ไม่…” ไป่ซั่งเสียนพึมพำเล็กน้อยแล้วเหลือบมองนางด้วยรอยยิ้ม “ที่องค์หญิงกล่าวมาล้วนมีเหตุผล ข้านั้นมีความสุขอยู่รอบกายแต่กลับไม่เคยรู้เลยว่านั่นคือความสุข”

ฉู่เหลียนเฉิงยิ้มบางๆ ส่งกลับไป เข้าใจแล้วว่าองค์ชายจากซีไป่ท่านนี้เป็นเช่นที่คนเคยเล่าลือกันว่าเป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ มีบุคลิกสุขุมสง่างาม และเพียบพร้อมด้วยมารยาทจริงๆ

“องค์หญิงเหลียนเฉิงเพิ่งมาถึงที่นี่ หากมีเรื่องใดที่ท่านไม่รู้หรือไม่เข้าใจเกี่ยวกับเมืองหลวงก็มาถามกับข้าได้” ไป่ซั่งเสียนกล่าวอย่างมีน้ำมิตร

“ขอบคุณองค์ชายมาก” ฉู่เหลียนเฉิงสังเกตเห็นคนอื่นๆ เดินกันไปไกลแล้ว จึงหยิบกล่องยาออกมาจากถุงผ้าที่นางพกติดกายแล้วรีบวางเม็ดยาลงบนมือเขา “นี่เป็นยาสมุนไพรร้อยชนิด ช่วยขับพิษ ขับลม หากท่านไม่รังเกียจ ข้าอยากแบ่งปันยาให้ท่าน ยาสมุนไพรร้อยชนิดนี้ปรุงได้ยากมาก หนึ่งปีปรุงได้เพียงยี่สิบเม็ดเท่านั้น องค์ชายโปรดเก็บรักษาไว้ให้ดีด้วย”

“ของล้ำค่าเช่นนี้ เจ้าเก็บไว้กินเถอะ ร่างกายเจ้าไม่ค่อยดี กินบำรุงตนเองให้มากหน่อยจะดีกว่า”

ไป่ซั่งเสียนอยากจะนำเม็ดยาใส่คืนมือของนาง แต่นางกลับก้าวถอยหลังก้าวหนึ่งเอามือไพล่ไปข้างหลัง

“เคยได้ยินว่าองค์ชายซั่งเสียนเป็นผู้มีจิตใจดี มีปัญญาและเฉลียวฉลาด ให้ข้าได้เป็นตัวแทนราษฎรของแคว้นซีไป่ปกป้องชีวิตของท่านเถอะ” นางกล่าวพร้อมกับจ้องมองตาเขาอย่างเปิดเผย

เห็นนางร่างกายอ่อนแอขี้โรค แต่ดวงตาบนใบหน้าของนางคู่นั้นกลับทอประกายสงบเย็นได้อยู่ เขาจึงพลั้งปากพูดออกไป

“ยาล้ำค่าเช่นนี้ เจ้าควรจะเก็บไว้ให้ดีๆ ไม่ใช่หรือ เจ้านี่…ช่างแปลกเสียจริง”

“องค์ชายกับข้าต่างไม่ได้เป็นญาติสนิทมิตรสหายกัน แต่วันนี้ท่านกลับออกตัวโต้แย้งกับองค์ชายแคว้นอื่นเรื่องที่ร่างกายข้าอ่อนแอเช่นกัน…มิใช่หรือไร”

ทั้งคู่มองตากันพร้อมหัวเราะออกมา ระหว่างที่เดินไปพวกเขาต่างได้พูดคุยหัวเราะผ่อนคลาย ราวกับเป็นสหายที่รู้จักกันมานาน

ครั้นเมื่อระยะทางไปตำหนักเชียนชิวเหลืออีกเพียงไม่ถึงร้อยก้าว ฉู่เหลียนเฉิงก็ขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นมา “เครื่องหอมนี่กลิ่นออกจะแรงเกินไปหรือไม่”

ไป่ซั่งเสียนลองหายใจเข้าลึกๆ ก็ถึงกับต้องรีบยกแขนเสื้อขึ้นมาปิดจมูก “มันหอมเกินไปจริงๆ”

“แม้เป่ยโม่มั่งคั่ง แต่กำยานกับกลิ่นชะมดก็ไม่จำเป็นต้องใช้มากขนาดนี้” นางหลับตาลง ตั้งใจสูดลมหายใจเข้าลึกอย่างช้าๆ

“แค่ดมเจ้าก็แยกออกแล้วหรือว่าเป็นกลิ่นอะไร” เขาทำตาโต

“มีกลิ่นของกำยานกับหญ้าอ้ายเฉ่า…” ฉู่เหลียนเฉิงพยายามแยกกลิ่น แต่กลับรู้สึกว่ากลิ่นหอมรุนแรงเช่นนี้เหมือนกับกำลังกลบกลิ่นอะไรบางอย่างอยู่

“ขออนุญาตบังอาจถาม ชื่อรองขององค์หญิงเหลียนเฉิงคือหม่าอี่ใช่หรือไม่”

ไป่ซั่งเสียนเห็นนางยิ้มจนตาโค้งกลายเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวก็พลันหัวเราะออกมา

หลังจากที่เดินไปได้สักพัก เหล่าองครักษ์ที่เดินตามตัวประกันมาก็ถูกกันให้ออกไป เหลือเพียงคนกลุ่มนี้ไว้ภายใต้ ‘ความคุ้มกัน’ ของขันที เมื่อพวกองค์หญิงองค์ชายเดินมาถึงชานบันไดตำหนักเชียนชิวต่างก็ถูกจัดเรียงให้ยืนเป็นแถว

ฉู่เหลียนเฉิงกับไป่ซั่งเสียนยืนอยู่ด้วยกัน ประสานมือโค้งตัวลงแล้วพูดพร้อมเพรียงกันว่า

“ขอฮ่องเต้เป่ยโม่มีพระพลานามัยแข็งแรง”

ขณะที่ฉู่เหลียนเฉิงกำลังโค้งตัวลงนั้น นางกลับได้กลิ่นที่ทำให้ขนลุกขนพอง กลิ่นที่แม้ในความฝันนางก็ไม่อาจลืมไปได้ นางตัวสั่นน้อยๆ ได้ยินเหล่าองค์ชายองค์หญิงแถวข้างหน้าพูดเสียงกระซิบว่า

“ได้ยินว่าฮ่องเต้เป่ยโม่ไม่ได้ออกมาว่าราชการถึงสามวันแล้ว ใครเข้าไปถวายความเคารพก็ไม่ยอมออกมา ไม่แน่ว่าสุขภาพฮ่องเต้อาจจะ…”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in 14 วัน 14 เรื่อง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com