หลังงานเลี้ยงเสร็จสิ้น ราชครูเว่ยที่กำลังจะออกไปก็เห็นนางกำนัลขององค์หญิงฉี่เคอนางหนึ่งย่องเข้ามาข้างๆ เขาอย่างเงียบเชียบและพูดเบาๆ ว่า “ท่านอ๋องขอเชิญท่านราชครูไปพบ มีบางเรื่องอยากจะสนทนาด้วยเจ้าค่ะ”
เมื่อราชครูเว่ยก้าวเข้าไปในตำหนักชั้นในของหนานเจียงอ๋องก็ต้องตกใจกับฉากในยามค่ำคืน โคมไฟในตำหนักแกว่งไกว ม่านพลิ้วไหว รวมถึงกลิ่นหอมละมุนที่ยังอบอวลอยู่ในอากาศ สตรีผู้ดำรงตำแหน่งหนานเจียงอ๋องคนใหม่ได้ถอดชุดพิธีการออกไปแล้ว เปลี่ยนมาสวมชุดกระโปรงไหมสีขาวยาวกรอมเท้า ข้างในสวมผ้าเอี๊ยมสีแดงปักด้วยด้ายสีทอง เนินอกนูนอวบอิ่ม ผมยาวสยายคลุมไหล่ สวมใส่ชุดเหมือนสตรีชาวฮั่นทุกประการ
ขณะนี้นางนอนเอนกายอยู่บนเตียง นัยน์ตาคู่โตเย้ายวนมีเสน่ห์มองมาทางราชครูเว่ยพลางกล่าวว่า “ท่านราชครูเหน็ดเหนื่อยในค่ายทหารมาหลายเดือนเพื่อปราบปรามความวุ่นวายในหนานเจียง อีกทั้งไม่ได้พาอนุมาปรนนิบัติรับใช้ด้วย เห็นทีว่าคงอึดอัดเต็มทีแล้ว ข้าไม่มีสิ่งใดจะตอบแทน นอกจากเต็มใจเป็นหมอนให้ท่านนอนหนุน เพื่อให้ท่านราชครูพักผ่อนนอนหลับอย่างสบายใจ”
พูดพลางนางก็แอ่นอกขึ้นเล็กน้อยเพื่ออวดเน้นสัดส่วนเรือนร่างโค้งเว้าอันงดงามของตน ในยามราตรีที่เงียบสงัดและมีสาวงามอยู่ตรงหน้า ขอเพียงราชครูเว่ยมิใช่คนตาบอด จะต้านทานเนื้อติดมันที่ป้อนมาถึงปากเช่นนี้ได้อย่างไรเล่า
หากเป็นราชครูเว่ยในอดีตซึ่งไม่เคยปล่อยให้ตนเองอดอยากมาแต่ไหนแต่ไร หลังสงครามเสร็จสิ้น หากดื่มสุราเลิศรสจนหมดแล้วก็เป็นต้องหาความสุขกับสาวงามสักคนเพื่อผ่อนคลายให้เต็มที่สักหนหนึ่ง ถึงเป็นรางวัลตอบแทนอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่พึงให้แก่ตนเอง
ในเวลานี้สุรากำลังออกฤทธิ์ได้ที่ กลิ่นหอมรัญจวนใจในอากาศก็กระตุ้นความต้องการที่หลับใหลมานานหลายเดือนเสียด้วย ราชครูเว่ยอดที่จะก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวไม่ได้ สายตาเย็นชาของเขาทอประกายเร่าร้อนเล็กน้อย องค์หญิงฉี่เคอแย้มยิ้มอย่างพึงพอใจยิ่งขึ้น ค่อยๆ ทิ้งตัวลงบนเตียง ผมยาวแผ่สยาย ดวงตาทรงเสน่ห์หวานฉ่ำหยาดเยิ้ม ริมฝีปากบางเผยอออกน้อยๆ ราวกับเชิญชวนด้วยลีลาท่าทางมั่นใจและพึงพอใจเต็มเปี่ยม
บุรุษร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ข้างเตียง ก้มลงมองหญิงสาวทรงเสน่ห์บนเตียงพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะค้อมตัวลงและยื่นมือออกไป…เมื่อฝ่ามือใหญ่เคลื่อนไปสัมผัสใบหน้าของหญิงสาว ในมือกลับมีมีดสั้นเหล็กเย็นเฉียบสะท้อนประกายคมมีดวางทาบอยู่บนลำคอขาวระหงของนาง และกดไปทีหนึ่งจนเป็นรอยแผลลึกมีเลือดซึมออกมา “ไม่ทราบว่าหนานเจียงอ๋องใส่อะไรลงไปในกระถางกำยาน กลิ่นช่างหอมรัญจวนจริงเชียว!”
รอยยิ้มที่มุมปากขององค์หญิงฉี่เคอถึงกับชะงักค้างในบัดดล นางมองใบหน้าอันหล่อเหลาของราชครูเว่ยด้วยสีหน้าย่ำแย่เต็มทน “ฉี่เคอมิกล้าวางแผนใดต่อท่านราชครู แค่เพิ่มเครื่องหอมเพื่อสร้างบรรยากาศเท่านั้น! ท่านราชครู ฉี่เคอไม่ขออะไรมาก หากท่านรังเกียจไม่เต็มใจที่จะรับฉี่เคอเป็นภรรยา เช่นนั้นโปรดให้บุตรที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขของท่านแก่ข้าสักคน เพื่อให้เชื้อสายของท่านสามารถปกครองดินแดนหนานเจียงอันกว้างใหญ่แห่งนี้ด้วยเถิด…”
หากกล่าวว่าชายหนุ่มที่มีความทะเยอทะยานย่อมสามารถต้านทานเสน่ห์ความงามของสตรีได้แล้วไซร้ แต่เขาจะต้านทานต่อการล่อใจจากอำนาจได้หรือ องค์หญิงฉี่เคอตระหนักถึงความกังวลของราชครูเว่ยเป็นอย่างดีที่ไม่ต้องการผนวกหนานเจียงเข้ากับต้าเว่ย แต่หากได้รับโอกาสให้บุตรของเขาสืบทอดบัลลังก์หนานเจียงอ๋องอย่างถูกต้องชอบธรรม เขาจะต้านทานไหวหรือไร จู่ๆ องค์หญิงฉี่เคอก็เรียกความมั่นใจของนางขึ้นมา นางเชื่อมั่นว่าคืนนี้ต้องสามารถรั้งตัวชายหนุ่มที่ตนเฝ้าชื่นชมหลงใหลมานานไว้ได้แน่ ทันทีที่เขาเต็มใจที่จะให้นางตั้งครรภ์ นางก็มั่นใจเต็มเปี่ยมว่าด้วยลีลาบนเตียงของตน เว่ยเหลิ่งเหยาจะต้องตกอยู่ในห้วงเสน่หาจนถอนตัวไม่ขึ้น ลืมบรรดาอนุทั้งหลายที่ตกอันดับพวกนั้นไปเสียสิ้นแน่ๆ! เมื่อถึงตอนนั้นหนานเจียงอ๋องผู้สูงศักดิ์ทรงเกียรติอย่างนางจะไม่คู่ควรกับท่านราชครูได้อย่างไร การเป็นภรรยาเอกของเว่ยเหลิ่งเหยาก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรอีกต่อไปแล้ว!
ทว่าคมมีดที่จิ้มเข้ามาในเนื้อนุ่มก็เป็นการให้คำตอบอย่างเย็นชาแก่นางแล้ว “ดูเหมือนว่าองค์หญิงฉี่เคอจะทรงลืมสิ่งที่กระหม่อมเคยพูดเอาไว้ไปหมดสิ้นแล้วสินะพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมหาใช่คนที่องค์หญิงสามารถบงการชีวิตได้ เดิมทีคิดไว้ว่าจะทำให้ราษฎรอยู่กันอย่างสงบสุข ชนเผ่าต่างๆ อยู่ร่วมกันอย่างสันติ หากหนานเจียงอ๋องเต็มใจที่จะรักษาสันติภาพ กระหม่อมก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนและนำความสงบสุขมาสู่หนานเจียงนี้ แต่หากหนานเจียงอ๋องไม่ยินยอม ทึกทักเอาเองว่าผู้แซ่เว่ยเป็นคนไร้ความสามารถถึงกับต้องยืมครรภ์ของสตรีเพื่อรักษาความสงบสุขแล้วล่ะก็ เช่นนั้นกระหม่อมก็พร้อมที่จะใช้กองทัพม้านับสิบหมื่นพิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์ไปเลยว่าไม่เพียงแต่เทือกเขาที่ขวางกั้นเท่านั้น ต่อให้เป็นยอดเขาที่สูงตระหง่านเพียงใดก็ต้องถูกทหารต้าเว่ยของกระหม่อมเหยียบย่ำจนแหลกลาญราบเป็นหน้ากลองอย่างแน่นอน!”
เลือดสีแดงสดไหลออกจากลำคอขององค์หญิงฉี่เคอลงมาจนเปื้อนชุดกระโปรงสีขาวราวหิมะอย่างรวดเร็ว ความเจ็บปวดที่ยากจะบรรยายนี้ทำให้องค์หญิงฉี่เคอตื่นจากความหลงใหลในตัวราชครูเว่ยทันที