14 วัน 14 เรื่อง
ทดลองอ่าน เทพน้อยแห่งหายนะ
ภรรยาผู้ใหญ่บ้านระงับความคิดทั้งหมดไว้ ยิ้มหน้าบานพูดอย่างเกรงอกเกรงใจ “นางหนูหรู คนมาก็พอแล้ว ไยต้องมากมารยาทเอาของเหล่านี้มาด้วย เจ้าเอากลับไปให้แม่ของเจ้ากับน้องชายกินเถิด พวกเจ้าสามแม่ลูกมีชีวิตความเป็นอยู่ลำบาก” แม้ปากนางจะกล่าวเช่นนี้ ทว่าสองมือกลับคว้าตะกร้าไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“ส่วนของท่านแม่กับน้องชายข้าจัดเตรียมไว้ให้ต่างหากอีกห่อหนึ่ง อีกทั้งชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาจะไม่ลำบากเช่นนั้นอีกแล้ว ท่านไม่ต้องเป็นห่วง”
“ไม่ลำบากแล้ว เช่นนั้นก็ดี สิ่งของเหล่านี้ของเจ้าข้าก็จะรับไว้แล้วกัน” ได้ยินเหมยหรูเซียนกล่าวเช่นนี้ ภรรยาผู้ใหญ่บ้านก็ยิ้มจนหุบปากไม่ลง ก่อนจะเลิกม่านมุกเอาของไปเก็บที่เรือนด้านหลัง “นางหนูหรู เข้ามานั่งเถิด ข้าจะไปเรียกท่านลุงผู้ใหญ่บ้านของเจ้า”
“เจ้าค่ะ” เหมยหรูเซียนตามภรรยาผู้ใหญ่บ้านเข้าไปในด้านใน
นางยิ้มพลางมองภรรยาผู้ใหญ่บ้านเอาของที่นางเอามาให้เข้าไปที่เรือนด้านหลังด้วยท่าทางดีอกดีใจ ตอนแรกนางกังวลว่าภรรยาผู้ใหญ่บ้านจะไม่รับของของนาง เวลานี้รับไว้แล้ว เชื่อว่าคงจะต้องเป่าลมข้างหมอน* ข้างหูผู้ใหญ่บ้าน เลือกที่ดินที่ดีให้นางเป็นแน่
ภรรยาผู้ใหญ่บ้านมาถึงห้องกินข้าวก็หยิบของในตะกร้าออกมาแล้วผงกศีรษะด้วยความพอใจอย่างมาก ไม่ต้องพูดถึงสุราที่อย่างน้อยๆ มีสามชั่ง* ขาหมูตุ๋นหอมฉุยมันวาวกับอาหารตุ๋นสุกอย่างอื่น ของเหล่านี้ในหมู่บ้านหาซื้อไม่ได้ ดูจากสิ่งของก็มองออกถึงน้ำใจของนางแล้ว ยังมีขนมอบกล่องนี้กับขนมหวาน นางหนูนี่คงรู้ว่านางมีลูกที่อยู่ในวัยไม่เล็กไม่โตกำลังชอบกินขนมหวานอยู่หลายคน ถึงได้เอาใจเตรียมขนมอบขนมหวานมาให้เป็นพิเศษ
ไม่เลวเลย! ต้องบอกให้ตาแก่ช่วยจัดการธุระของนางหนูนี่ให้เรียบร้อย ไม่แน่วันหน้าอาจมีของขวัญขอบคุณที่ดียิ่งกว่านี้
คิดมาถึงตรงนี้ภรรยาผู้ใหญ่บ้านจึงเข้าไปในห้องด้วยท่าทางพออกพอใจและปลุกผู้ใหญ่บ้านที่ยังงีบช่วงบ่ายอยู่
พักใหญ่ ผู้ใหญ่บ้านที่ยังมีท่าทางงัวเงียเล็กน้อยก็เดินออกมาจากด้านใน “นางหนูเหมย ได้ยินว่าเจ้าเรียกหาข้า”
“ท่านลุงผู้ใหญ่บ้าน ต้องขออภัยด้วยที่มารบกวนเวลาพักผ่อนของท่าน” เหมยหรูเซียนรีบลุกขึ้นยืน โค้งคำนับขออภัย
ผู้ใหญ่บ้านโบกๆ มือ “ไม่เป็นไร เดิมเวลานี้ข้าก็ควรลุกขึ้นมาอยู่แล้ว ตั้งใจมาหาข้ามีธุระอันใดหรือ”
“เรื่องเป็นเช่นนี้ ท่านลุงผู้ใหญ่บ้าน ข้าอยากจะขอให้ท่านช่วยท่านแม่กับพวกเราพี่น้องไปที่ว่าการตำบลยื่นขอขึ้นทะเบียนราษฎร์เป็นเอกเทศให้พวกเรา”
“พวกเจ้าจะยื่นขอขึ้นทะเบียนราษฎร์เป็นเอกเทศหรือ แต่ว่า…นางหนูสกุลเหมย จะยื่นขอขึ้นทะเบียนราษฎร์ต้องมีบ้านเป็นของตนเอง”
“ท่านลุงผู้ใหญ่บ้าน เรื่องนี้ข้ารู้ดีและก็เป็นสาเหตุหลักที่ข้ามาหาท่านในวันนี้ ข้ากับท่านแม่คิดจะซื้อที่ดินในหมู่บ้านต้าเคิงและปลูกบ้าน อยากจะขอคำชี้แนะจากท่านว่าในหมู่บ้านเรามีที่ว่างเปล่าจะขายหรือไม่”
พอนางเอ่ยคำพูดเหล่านี้ออกมา ผู้ใหญ่บ้านถึงกับตะลึงงันไปทั้งร่าง “นางหนูสกุลเหมย เจ้าบอกจะซื้อที่ดินปลูกบ้าน นี่…ในตัวเจ้ามีเงินหรือไม่”
เหมยหรูเซียนพยักหน้าหนักๆ หลังจากปรับเปลี่ยนเรื่องที่พบเห็ดหลิงจือเล็กน้อย ก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมารวดเดียว “มีเจ้าค่ะ ขอบอกท่านอย่างไม่ปิดบัง เมื่อวานข้ากับท่านแม่ยังมีน้องชายอีกคน หลังจากเราสามคนถูกไล่ออกมาจากบ้านท่านตาก็ไม่มีที่ไป จำต้องไปอาศัยอยู่ที่ศาลเทพแห่งขุนเขา ตอนข้าไปหาผลไม้ในป่า บังเอิญไปเจอเห็ดหลิงจือสองดอกหนึ่งใหญ่หนึ่งเล็ก วันนี้พอเช้าขึ้นมาก็เอาเห็ดหลิงจือดอกเล็กไปขายให้ร้านยาที่ตำบล จากนั้นก็เอาเห็ดหลิงจือดอกใหญ่ไปขายที่อำเภอคังติ้ง จึงได้มีเงินมาซื้อที่ปลูกบ้าน”
“เห็ดหลิงจือ?!”
“ใช่เจ้าค่ะ ข้าไปที่อำเภอเอาเห็ดหลิงจือใหญ่ดอกนั้นไปขาย ได้เงินมาไม่น้อย” นางชูนิ้วมือขึ้นมาสามนิ้ว
“สามร้อย…”
ผู้ใหญ่บ้านเบิกตากว้างทันที แม้แต่ที่ด้านหลังม่านมุกที่แกว่งไกวก็มีเสียงอุทานดังขึ้น
เหมยหรูเซียนหยักยกมุมปากเงียบๆ นางจงใจให้ภรรยาผู้ใหญ่บ้านได้ยิน ภรรยาผู้ใหญ่บ้านเป็นหญิงปากยาวประจำหมู่บ้านต้าเคิง เรื่องที่นางรู้ ไม่ถึงครึ่งวันทุกคนในหมู่บ้านก็จะได้รู้โดยทั่วกัน เช่นนี้ทั้งหมู่บ้านก็จะได้รู้ว่าเงินของพวกนางไม่ใช่มีที่มาไม่ชัดเจน และตัดขาดความคิดที่ไม่ชอบด้วยเหตุผลของบ้านสกุลจย่าไปด้วยเลย
หลังจากผู้ใหญ่บ้านพอจะสงบความตื่นตระหนกตกใจลงได้บ้างแล้ว ก็ระบายลมหายใจออกมาแล้วพยักหน้าติดๆ กัน “เช่นนั้นก็ดีๆ ไม่รู้ว่าเจ้าอยากได้ที่แถวไหน” เขาหมุนตัวไปทางช่องประตูที่ทะลุไปเรือนด้านหลังพลางร้องเรียก “ยายแก่ เอาแผนผังแสดงที่ดินในหมู่บ้านของเรากับกองกระดาษที่ข้าวางอยู่บนโต๊ะมาให้หน่อย”
ครู่เดียวภรรยาผู้ใหญ่บ้านก็ถือของหอบใหญ่ออกมา ทั้งยังรินน้ำหวานชามหนึ่งมาให้เหมยหรูเซียนอย่างเอื้ออารี “นางหนูหรู น้ำหวานนี่ดื่มแล้วชื่นใจ ข้าแช่เย็นไว้ในบ่อเพิ่งเอาขึ้นมา”
“ขอบคุณมากเจ้าค่ะ” นางกำลังรู้สึกกระหายน้ำพอดีจึงไม่เกรงใจ ยกชามขึ้นดื่มคำโต
ผู้ใหญ่บ้านคลี่แผนผังแสดงที่ดินของหมู่บ้านต้าเคิง ชี้ที่ดินให้ดูหลายแห่ง “นางหนูหรู ที่ดินที่มีจุดสีแดงเหล่านี้เป็นที่ดินไม่มีเจ้าของ และเหมาะที่จะสร้างบ้าน เจ้าดู ข้าจะบอกราคาให้เจ้ารู้ก่อน ไร่นาที่นี่เราคิดคำนวณเช่นนี้ ไม่ว่าจะใช้เพาะปลูกหรือสร้างบ้านก็จะคิดคำนวณโดยดูว่าเป็นที่นาชั้นหนึ่ง* ที่นาชั้นรอง ที่นาชั้นเลว แยกเป็นหมู่ละสิบตำลึง แปดตำลึง ห้าตำลึงตามลำดับ”
“ไม่มีปัญหา ขอข้าดูก่อน” สายตาของเหมยหรูเซียนจับนิ่งไปที่ที่ดินเหล่านั้น แล้วชี้ไปยังที่ว่างเปล่าผืนหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากศาลเทพแห่งขุนเขา “ผู้ใหญ่ ข้าอยากได้ที่นี่ ที่ดินผืนนี้ราคาเท่าไร”