รานีสั่งเด็ดขาดว่าช่วงงานหมั้นห้ามสารินลงมาข้างล่างเด็ดขาด สารินก็เชื่อฟังแต่โดยดีจึงหมดเวลากับการเข้าห้องโน้นออกห้องนี้อย่างไม่รีบร้อน ไม่ใช่เพราะทำความสะอาดหรอก แค่กำลังหาอะไร ‘เด็ดๆ’ มาป่วนคนพวกนี้เล่นเท่านั้น
ด้วยความที่รู้จักพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงมานาน สารินจึงรู้ตื้นลึกหนาบางว่าทั้งสองชอบไม่ชอบอะไรและซ่อนอะไร ‘เด็ดๆ’ ไว้ตรงไหนบ้าง โดยเฉพาะแม่เลี้ยงของเธอ
ปกติรานีมักขลุกอยู่ในห้องพระเป็นเวลานาน ไม่ใช่เพราะมีศรัทธาต่อองค์เทพจนไม่อยากให้ใครมาขัดขวางการสวดมนต์หรอก แต่เพราะรานีต้องการตรวจเช็กขุมสมบัติซึ่งซ่อนอยู่ใต้แท่นบูชาต่างหาก
สารินรู้ความลับนี้โดยบังเอิญก่อนเข้าคุกจึงนับวันรอทวงบัญชีแค้น แล้วจะมีอะไรล้างแค้นคนตระหนี่ถี่เหนียวได้ดีกว่าเรื่องเงินทองเล่า
ในห้องสี่เหลี่ยมขนาดกลางมีแท่นบูชาขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านในสุดทางขวามือ รอบด้านวางตู้หนังสือ อุปกรณ์บูชา เบาะสำหรับรองนั่ง และกล้องวงจรปิดสามตัวซึ่งเล็งไปทางแท่นบูชาทั้งสามตัว ตอกย้ำว่าขุมสมบัติมหาศาลซ่อนอยู่ใต้เทวรูปซึ่งมีผ้าคลุมสีแดงคลุมทับอยู่อีกหนึ่งชั้น
เพราะรู้นิสัยดีว่ารานีเป็นคนเค็ม กล้องวงจรปิดที่ใช้อยู่เป็นประจำจึงไม่ใช่กล้องที่สามารถเชื่อมสัญญาณส่งตรงเข้ามือถือตามสมัยนิยม แต่เป็นกล้องรุ่นดึกดำบรรพ์ที่เดินสายเชื่อมต่อกับทีวี จะเปิดข้อมูลแต่ละทีก็ยุ่งยาก ข้อสำคัญคือไม่เคยมีใครสนใจจะเปิดด้วยซ้ำ
สารินวางถังน้ำซึ่งมีน้ำขุ่นคลั่กจากการทำความสะอาดลงบนพื้นหินขัด พิงไม้ถูพื้นไว้ข้างประตู ก่อนเดินไปหยุดอยู่หน้าแท่นบูชา เธอหยิบเทวรูปพระแม่อุมาวางบนพื้นโดยไม่เกรงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์แต่อย่างใด เพราะเชื่อลึกๆ ว่าเทพเทวาที่ดีไม่มีทางสิงสถิตอยู่กับคนจิตใจอัปรีย์พวกนี้หรอก
หีบไม้ทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่สามารถบรรจุหญิงสาวรูปร่างเพรียวบางได้หนึ่งคนปรากฏขึ้นเมื่อดึงผ้าคลุมสีแดงออก มีแม่กุญแจล็อกแน่นหนาถึงสองชั้น แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาเพราะเพื่อนร่วมห้องขังเคยสอนสารินสะเดาะกุญแจมาแล้ว ไม่ว่าจะรูกุญแจแบบไหนหญิงวัยกลางคนผู้นั้นก็สามารถสะเดาะได้โดยง่าย
‘เหลืออีกแค่สองอาทิตย์จะหนีทำไม เราล่ะจะหนีไหม ป้าจะสอนให้’ อดีตช่างทำกุญแจมือเปรยยิ้มๆ
‘ไม่หนีค่ะ หนูไม่ได้ทำผิด’
หญิงวัยกลางคนหัวเราะเบาๆ มองเธอด้วยสายตาของคนที่ผ่านโลกมานาน
‘มีใครในนี้บ้างยอมรับว่าทำผิด ถูกใส่ร้ายกันทั้งนั้น เอาเถอะ ไหนๆ ก็ติดคุกแล้ว เอาเป็นว่าป้าจะสอนวิชาให้ ออกจากคุกได้เมื่อไรเอ็งจะเอาไปใช้แก้แค้นคนที่ใส่ร้ายเอ็งก็ยังไม่สาย’
สารินดึงกิ๊บดำที่เสียบผมออกหนึ่งตัว ง้างมันออกจนเกือบเป็นเส้นตรง ก่อนแยงเข้าไปในรูกุญแจ ขยับตามจังหวะที่อดีตเพื่อนร่วมห้องขังสอนอยู่ครู่หนึ่ง แม่กุญแจก็หลุดออกอย่างง่ายดาย เธอเปิดหีบออกก็พบธนบัตรหนึ่งร้อยดอลลาร์สหรัฐปึกใหญ่เรียงอย่างเป็นระเบียบทางซ้ายมือ ขณะที่ด้านขวาเป็นทองแท่งและทองรูปพรรณกองพะเนินเทินทึกส่องแสงอร่ามจับตา
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียน้ำใจที่แม่เลี้ยงอุตส่าห์เก็บหอมรอมริบสมบัติเหล่านี้ไว้ใช้กับสามีจอมลวงโลก สารินก็จะช่วยใช้สมบัติเหล่านี้ให้สมกับที่รานีหามาอย่างเหนื่อยยากก็แล้วกัน หญิงสาวหยิบถุงซิปล็อกออกจากกระเป๋ากางเกง ก่อนยัดเงินดอลลาร์ปึกใหญ่หลายปึกตามด้วยทองแท่งและทองรูปพรรณลงไป พอเต็มแล้วก็เปลี่ยนถุงใหม่ไปเรื่อยจนในหีบไม่เหลือทองแม้แต่ก้อนเดียว
สารินมองเงินดอลลาร์สองปึกในหีบพลางแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียม เธอเดินไปเปิดพัดลมดูดอากาศก่อนโยนเงินใส่ถาดเหล็ก จุดไฟเผาจนเงินก้อนโตกลายเป็นเพียงเศษธุลีไร้ค่า ควันจากการเผาลอยออกไปนอกหน้าต่างก็จริง เสียดายที่คนในงานมัวยุ่งวุ่นวายจึงไม่มีใครสังเกตเห็น
เธอรอจนธนบัตรไหม้หมดเกลี้ยงแล้วจึงพรมน้ำดับเปลวไฟจนมอดสนิท ก่อนจะโกยเศษธนบัตรเหล่านั้นเข้าหีบแล้วนำเทวรูปกลับไปวางไว้ดังเดิม
รานีจะหาว่าสารินเป็นลูกอกตัญญูคงไม่ได้ เพราะเธออุตส่าห์เผาเงินไปให้แม่เลี้ยงล่วงหน้าแล้ว ตายเมื่อไรค่อยตามไปใช้ในนรกก็แล้วกัน!