บทที่ 5 อกหักซะแล้ว
ได้ยินวิทยุบอกว่าหลังจากปีใหม่เมืองฝูเฉิงจะเริ่มดำเนินการใช้กฎใหม่กับบริการรถร่วมโดยสาร เหมียวเหมี่ยวเล่นอินเตอร์เน็ตเพื่อค้นดูเงื่อนไขของกฎใหม่ เมื่อเทียบกับสถานะของตัวเองแล้วถึงได้โล่งใจ อย่างน้อยเธอก็ยังทำอาชีพนี้ต่อไปได้ ยังหารายได้เพิ่มเพื่อสะสมไว้จ่ายค่ารถได้
ทว่าเมื่อเหมียวเหมี่ยวเช็กเงินเก็บในบัญชีก็พบว่าเงินเก็บไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย เงินที่ฝากไว้ก็ยังเป็นค่าลิขสิทธิ์การ์ตูนเสียส่วนใหญ่ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะจ่ายเงินค่ารถคืนได้ แต่ว่าคิดไปทำไปก็แล้วกัน ข้อดีที่สุดของเหมียวเหมี่ยวก็คือเธอมองโลกในแง่ดี
แต่เมื่อเหมียวเหมี่ยวที่มองโลกในแง่ดีเห็นว่าในตู้เก็บของเหลืออาหารแมวเพียงกระป๋องเดียว ขนทั้งร่างกายก็พลันลุกซู่ เธอรีบไปเช็กดูอาหารเม็ด ก็พบว่าอาหารเม็ดเองก็เหลือแค่มื้อสุดท้ายแล้ว
“เหมียว…” เสี่ยวทู่ยกหางขึ้นอย่างสง่างาม ย่างเท้าเข้ามาข้างกายเหมียวเหมี่ยว ใช้หางเกี่ยวพันน่องของเธอ เดินวนได้รอบหนึ่ง ศีรษะที่มีขนปุกปุยก็แนบถูกับน่องของเหมียวเหมี่ยว มันกระดิกหูวนอีกรอบ จ้องมองอาหารเม็ดที่อยู่ในมือของเธอเงียบๆ เร่งทาสให้เทอาหารเร็วขึ้นอย่างไร้ซุ่มเสียง
เหมียวเหมี่ยวเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น “เสี่ยวทู่ คือว่า…ระยะนี้แม่ยุ่งกับการหาเงิน ก็เลยลืมซื้อของกินไว้ให้ ถ้าไม่รังเกียจล่ะก็ ไปกินข้าวที่ร้านก๋วยเตี๋ยวที่ชั้นล่างกับแม่มั้ยจ๊ะ”
เสี่ยวทู่หรี่ตาลง ลงเสียง ‘หึ’ เบาๆ หางแกว่งไกวด้วยความรำคาญใจ เบือนหน้าแล้วจึงวิ่งหนีไป จากนั้นก็ปีนขึ้นไปบนหลังแอร์ตั้งพื้นอย่างกับกษัตริย์ที่กำลังออกตรวจตราข้าราชบริพารและราษฎรของตน มองนางทาสผู้ละอายต่อตนอยู่จากด้านบน
ถูกปฏิเสธเข้าแล้วสินะ
เหมียวเหมี่ยวทำได้เพียงนำอาหารเม็ดมื้อสุดท้ายกับอาหารกระป๋องคลุกเคล้าเข้าด้วยกันแล้วเทลงในชามใส่อาหาร ร้องเรียกให้เสี่ยวทู่มากิน เสี่ยวทู่วิ่งเข้ามา ส่งเสียง “ครืดๆ” ด้วยความดีใจอยู่ในลำคอ เหมียวเหมี่ยวยื่นมือออกไปลูบหัว มันก็ไม่ได้อารมณ์เสียใส่
เหมียวเหมี่ยวเอ่ยขอโทษกับมัน “แม่จะไปซื้ออาหารให้ ขอโทษมากๆ เลย ลืมไปจริงๆ น่ะ ไม่ได้ตั้งใจหรอกนะ แม่รักแกที่สุดเลย จุ๊บๆ!” เอ่ยไปเหมียวเหมี่ยวก็วอนหาเรื่องอยากจะอุ้มเสี่ยวทู่ขึ้นมาจุ๊บสักที ก็เลยถูกอุ้งเท้าเสี่ยวทู่ยันเอาไว้ที่หน้าผากไม่ให้เธอก่อกวน
“เหมียว…” เสี่ยวทู่ร้องออกมาด้วยความรำคาญใจ
เหมียวเหมี่ยววางมันลงด้วยความหดหู่ เสี่ยวทู่ก็ก้มหน้าก้มตากินอาหารทันที
เธอจ้องมองท่าทางการกินอาหารด้วยความพึงพอใจ เสียง “ครืดๆ” ของเสี่ยวทู่เงียบลงสักครู่หนึ่ง สมองก็ขาดการควบคุมอีกครั้งทำให้คิดถึงฟางไหลหยางขึ้นมา ใบหน้าด้านข้างของฟางไหลหยางภายใต้แสงอาทิตย์ รอยยิ้มที่มุมปาก แล้วก็เวลาที่เขาพูดถึง ‘เหมียวไก่ฉีก’ ด้วยสายตาเปล่งประกาย
ถ้าเกิดว่าทั้งสองฝ่ายต่างมีใจต่อกัน…เรื่องจะงดงามแค่ไหนกันนะ
เหมียวเหมี่ยวอดคิดเพ้อเจ้อไม่ได้ พวงแก้มทั้งสองแดงซ่าน เธอเอามือปิดหน้าแล้วค่อยๆ ลูบเสี่ยวทู่
“ฉันคิดบ้าอะไรอีกแล้วเนี่ย ไม่ใช่ต่างคนต่างมีใจให้กันสักหน่อย เขาก็แค่ชื่นชม ‘เหมียวไก่ฉีก’ เท่านั้นเอง…” คิดถึงตรงนี้เหมียวเหมี่ยวก็รู้สึกซึมเซาอยู่เล็กน้อย
“ไม่คิดแล้ว!” เหมียวเหมี่ยวตบตีใบหน้าแล้วลุกขึ้นจากพื้นห้อง จัดแต่งทรงผมนิดหน่อย ยังไม่ได้กินข้าวเลยนี่นา เธอไม่ได้แต่งหน้าแต่งตาก็แบกกระเป๋าสะพายทั้งหน้าสดออกจากบ้านไป
อาหารเม็ดแพงมาก เหมียวเหมี่ยวเปิดเครื่องคิดเลขในมือถือคำนวณออกมาก็พบว่าหลังจากซื้ออาหารเม็ดแล้วช่วงนี้เธอคงจะทำได้แค่แทะหมั่นโถวประทังชีวิต เหมียวเหมี่ยวถอนหายใจด้วยความระทมทุกข์ แล้วขับรถไปยังซูเปอร์มาร์เก็ต ระหว่างทางก็ซื้อของกินนิดๆ หน่อยๆ เข้าครัว
เหมียวเหมี่ยวซื้อของเสร็จก็เปิดแอพฯ เรียกรถปาปา คิดว่าจะรับสักสองบิลแล้วค่อยกลับบ้าน เธอกำลังเตรียมวางของลงในท้ายรถ แอพฯ เรียกรถปาปาก็ส่งบิลมาให้แล้ว