คุณลุงผิวคล้ำคนนั้นยังคงถามต่อไปว่า “วันหนึ่งเธอได้เงินเท่าไหร่กัน จะสบายกว่าไปแต่งงานกับคนมีเงินได้ยังไงล่ะ จริงมั้ย?”
คำพูดดูถูกคนอื่นขนาดนี้ทำให้เธอไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก
“…เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับลุงนี่คะ” เหมียวเหมี่ยวโกรธขึ้นมาทันที แต่อย่ามีเรื่องจะดีกว่า เหมียวเหมี่ยวพยายามอย่างที่สุดที่จะผ่อนคลายน้ำเสียงของตัวเอง เมื่อเอ่ยจบ เธอก็อยากเปิดประตูรถเพื่อขึ้นรถ
คิดไม่ถึงว่าคุณลุงผิวคล้ำคนนั้นจะไวกว่าเธอไปก้าวหนึ่ง มือใหญ่ผลักประตูรถของเหมียวเหมี่ยวเอาไว้ ประตูรถที่เพิ่งเปิดเป็นช่องจึงถูกปิดลง
เหมียวเหมี่ยวรู้สึกได้ถึงเรี่ยวแรงมหาศาลของอีกฝ่าย ใจเริ่มเต้นรัว เธอไม่ยินดีจะปะทะกับอีกฝ่ายตัวต่อตัว โดยเฉพาะเมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองอยู่ในสถานะอ่อนแอกว่า แต่เธอก็ไม่มีแม้แต่ที่จะหลบซ่อนตัว ทำให้ไฟแห่งความคับแค้นภายในใจยิ่งเผาไหม้แรงขึ้นทุกขณะ
“คุณลุงคะ ฉันยังต้องไปรับผู้โดยสารอีก หลีกทางให้ฉันขึ้นรถด้วยค่ะ” เหมียวเหมี่ยวในตอนนี้ยังสามารถสงบจิตใจพูดกับอีกฝ่ายอย่างสุภาพได้อยู่
แต่ว่าคุณลุงคนนั้นเห็นว่าเหมียวเหมี่ยวพูดเสียงเล็กเสียงน้อย ไม่ได้มีท่าทีกระวนกระวาย ก็เริ่มรุกคืบเข้ามาอีก
เขาทำท่าจะแย่งมือถือของเหมียวเหมี่ยวไป ปากก็พูดว่า “รับผู้โดยสารอะไรล่ะ คนวงนอกอย่างเธออย่าหวังจะเป็นสุขเลย เอาเบอร์โทรศัพท์ของผู้โดยสารให้ฉัน ฉันจะไปรับเอง”
เหมียวเหมี่ยวตกใจกับมือที่ยื่นเข้ามากะทันหัน ถอยหลังไปสองก้าว เอ่ยถามด้วยเสียงสูง “จะทำอะไรน่ะ”
เหมียวเหมี่ยวโมโหกับอากัปกิริยาของเขามาก ใบหน้าก็พลันเคร่งขรึมขึ้นมา จดจ้องอีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยม
ถูกเหมียวเหมี่ยวจ้องอย่างนี้ คุณลุงผิวคล้ำก็ยังคงไม่พอใจท่า “ฉันจะช่วยเธออยู่นี่ไง เห็นว่าเด็กสาวอายุยังน้อยอย่างเธอจะไปรับผู้โดยสารนี่” เอ่ยไปเขาก็ยังคงเอื้อมมือมาแย่งมือถือของเหมียวเหมี่ยวไป
“นี่เป็นบิลที่ฉันรับมานะ! มีสิทธิ์อะไรมาแย่ง!” เหมียวเหมี่ยวตะโกน มาแย่งของคนอื่นไปฟรีๆ แบบนี้ เป็นครั้งแรกเลยที่เหมียวเหมี่ยวรู้สึกโกรธจนปอดจะระเบิด
“ดีจะตาย จะมาโกรธอะไรล่ะ ไม่รู้จักการเคารพผู้ใหญ่เอ็นดูเด็กเล็กหรือไง? อายุยังน้อยก็ไม่มีมารยาทขนาดนี้เชียวเหรอ” คุณลุงผิวคล้ำรู้อยู่แก่ใจว่าเหมียวเหมี่ยวหวาดกลัวเขา ก็ยิ่งพูดจาเลอะเทอะไปใหญ่ “พ่อแม่เธอสอนมายังไง ไม่มีการศึกษาเอาซะเลย”
คนรอบข้างค่อยๆ สนใจการทะเลาะกันตรงนี้ ผู้คนที่เดินผ่านกันเป็นกลุ่มๆ หยุดฝีเท้าอยู่ไม่ไกลนัก แอบกระซิบกระซาบพากันจ้องมองมาทางนี้
ได้ยินคำพูดที่คุณลุงคนนี้เอ่ยออกมา ไฟในใจของเหมียวเหมี่ยวก็พลันลุกโชน ทำให้เธอโต้ตอบด้วยเสียงอันเฉียบขาด “ใครไม่มีการศึกษากันแน่! ไสหัวไปเลยนะ!” เอ่ยไปก็จะหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมา แยกเขี้ยวยิงฟันอยากจะพุ่งตัวเข้าไปไล่คุณลุงผิวคล้ำ
จู่ๆ ก็มีแขนข้างหนึ่งยื่นมาจากทางซ้าย มือใหญ่จับกระเป๋าของเธอเอาไว้ ถือโอกาสกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขนอันโอบอ้อมอารีและอบอุ่น
เหมียวเหมี่ยวรู้สึกว่าตรงหน้ามืดไปหมด ไม่ทันได้รู้ตัวก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ไม่ทราบว่าแฟนของผมไปชนคุณตรงไหนหรือเปล่า”
คุณลุงผิวคล้ำเห็นชายหนุ่มหล่อเหลาสูงใหญ่ตรงหน้า ใจก็พลันเข็ดขยาด เขาขับรถแท็กซี่มาหลายสิบปี เจอคนมาทุกประเภท มองปราดเดียวก็ดูออกว่าคนหนุ่มสีหน้าไม่เป็นมิตรที่สวมชุดพิถีพิถันทั้งตัวตรงหน้าเขาคนนี้ไม่ใช่คนที่เขาจะเอาความด้วยได้ ก็รีบโบกไม้โบกมือแล้วหัวเราะ “อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก เห็นทำอาชีพเดียวกันก็เลยอยากคุยด้วยหน่อยน่ะ”
เขาพูดเสียดูเป็นเรื่องเล็ก ภายในใจของเหมียวเหมี่ยวยังคงคุกรุ่น กำหมัดได้ก็อยากจะตอบโต้กลับไป ทว่าถูกฟางไหลหยางรับเอาไว้แทน แล้วก็ถือโอกาสจับมือของเธอไว้ไม่ยอมปล่อย