ทดลองอ่าน แมวบ้านข้าเป็นท่านอ๋อง – หน้า 34 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

14 วัน 14 เรื่อง

ทดลองอ่าน แมวบ้านข้าเป็นท่านอ๋อง

นั่นสิ สมจริงเหลือเกิน เสียงร้องไห้ของเด็กๆ ยังดังอยู่ข้างหูบอกเขาว่าอย่าตายนะ เป็นเสียงที่สั่นคลอนหัวใจอย่างรุนแรง อีกทั้งก่อนตายเขายังไม่ทันได้เจอซย่าหมิ่น ไม่ทันได้บอกลานาง…ไม่สิ โง่เง่าอะไรอย่างนี้! เขาเป็นถึงหลิ่นอ๋องผู้สูงส่ง จะมัวคิดถึงบ้านนั้นไปด้วยเหตุใดกัน คนพวกนั้นก็แค่ข้ารับใช้ที่เคยปรนนิบัติเขา แค่สละชีวิตตอนเป็นแมวเพื่อปกป้องก็ถือว่าเขาโง่เหลือเกินแล้ว คิดเสียว่าเป็นแค่ความฝันแล้วลืมความทรงจำนี้ไปนั่นล่ะดีที่สุด การกลายเป็นแมวถือเป็นรอยด่างที่สร้างความอัปยศให้ชีวิต เขาควรต้องลบมันทิ้งไปให้หมดถึงจะถูก

ลิ่นจื่อเชินสั่งให้ตนเองมองข้ามความรู้สึกปวดแปลบอ้างว้างที่เกิดขึ้นในใจ แล้วย้ำกับตนเองว่าเขาในเวลานี้ได้กลับมาเป็นหลิ่นอ๋องผู้ทรงอำนาจอีกครั้ง คิดว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นความฝันแล้วลืมไปเสียดีกว่า

 

บ้านสกุลซย่าทั้งหลังตกอยู่ในบรรยากาศหดหู่เศร้าสร้อยจากการตายของมีมี

ซย่าหมิ่นรู้ตอนกลับถึงบ้านว่ามีมีสู้กับงูพิษจนตัวตายเพื่อปกป้องเด็กๆ นางอยากรักษามัน แต่ก็สายเกินการณ์ เพราะมีมีหมดลมไปแล้ว

หญิงสาวเสียใจมาก ถึงอย่างไรก็เป็นแมวที่เลี้ยงมาตั้งหนึ่งเดือน รู้สึกผูกพันราวกับเป็นคนในครอบครัว ย่อมต้องอาลัยอยู่ดี นอกจากนั้นมีมียังไม่เหมือนแมวทั่วไป มันชอบวางท่าเย่อหยิ่งสูงส่ง ฟังภาษาคนรู้เรื่อง ซ้ำยังมักจะปรายตามองคนอย่างเหยียดๆ จากนี้ไปนางคงจะหาแมวเช่นนี้ไม่ได้อีกแล้ว

น้องชาย น้องสาว และหลานๆ ล้วนร้องไห้ด้วยความเสียใจ แต่แมวตายแล้วไม่ฟื้นคืน ซย่าหมิ่นจำใจต้องนำมันไปฝัง โดยฝังไว้ในสวนหลังบ้านแล้วทำป้ายหน้าหลุมศพให้แทนคำขอบคุณที่มันช่วยชีวิตคนในครอบครัว

“มีมี ขอบใจนะ บุญคุณของเจ้าครั้งนี้ข้าจะไม่ลืมเลยชั่วชีวิต” ซย่าหมิ่นพูดกับป้ายหน้าหลุมศพ แล้วหันไปบอกหลานชาย “มา ขอบใจมีมีสิ”

“มีมี ขอบใจนะที่ช่วยข้า…” น้ำตาหยดใหญ่ๆ ร่วงพรูลงมาตามแก้มเสียงเอ๋อร์ สุดท้ายเด็กชายก็ร้องไห้โฮ “มีมี อย่าตายนะ!”

เฉี่ยวเอ๋อร์พลอยสะเทือนใจตามไปด้วย จากที่สะอื้นอยู่แล้วก็ร้องไห้หนักกว่าเดิม “มีมี…อย่าตายนะ…อย่าตายนะ…”

“เอาล่ะๆ นิ่งได้แล้ว…” ป้าอิ๋นฮวาปลอบโยนเด็กสองคน กระนั้นตนเองก็ต้องยกมือเช็ดน้ำตาไปด้วย

ขนาดเด็กหนุ่มอย่างซย่าจื้อยังตาแดงก่ำ อดจะหลั่งน้ำตาไม่ได้ ส่วนซย่าเจวี้ยนสะอื้นเบาๆ ตลอดเวลาพลางเช็ดน้ำตาไม่หยุด

ซย่าหมิ่นที่เป็นพี่สาวคนโตจึงต้องกลั้นน้ำตาแล้วปลอบโยนทุกคน “มีมีไปเกิดใหม่แล้วล่ะ ทีนี้ได้ไปเกิดเป็นลูกของครอบครัวดีๆ มันจะต้องมีความสุขมากแน่ พวกเจ้าเอาแต่ร้องไห้เช่นนี้ มันจะไปอย่างไม่หมดห่วงนะ”

เสียงเอ๋อร์ถามอย่างไร้เดียงสา “มีมีไม่ไปเกิดเป็นแมวแล้วหรือขอรับ ข้าอยากเลี้ยงมีมีอีกครั้ง”

หญิงสาวยิ้มอย่างเข้าใจ “เกิดเป็นคนดีกว่าเกิดเป็นแมว มันจะต้องมีชีวิตที่ดีมากแน่”

เฉี่ยวเอ๋อร์ถามบ้าง “แล้วมีมีจะยังจำพวกเราได้หรือไม่เจ้าคะ”

“มันไม่มีวันลืมเจ้าหรอก” เฮ้อ ดื่มน้ำแกงยายเมิ่ง ไปแล้ว จะยังจำได้อย่างไรเล่า

ซย่าหมิ่นเห็นหลานๆ เสียใจมากก็อดคิดในใจไม่ได้ว่าไว้ค่อยหาแมวดำที่หน้าตาเหมือนกันมาเลี้ยงอีกตัว แต่นางไม่ได้พูดออกมา เพราะต่อให้เหมือนกันเพียงใดก็ไม่ใช่มีมี

“เอาล่ะ พวกเรามาขอบใจมีมีแล้วบอกลามันกันดีกว่า พูดกับมันให้มากๆ ต้องยิ้มแย้มแจ่มใสล่ะ อย่าร้องไห้” นางพูดกับน้องๆ และหลานๆ

ทุกคนได้ยินดังนั้นก็พยายามกลั้นน้ำตาแล้วบอกลามีมี

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in 14 วัน 14 เรื่อง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 1-2

บทที่ 1 อู๋เซี่ยวเซี่ยวไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนเองที่เป็นผู้จัดการดารามือทองมากประสบการณ์จะถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 5-6

บทที่ 5 ตามที่บทละครเขียนไว้แขวนโคมแดงคือการเปิดประตูเรือนทำงานเป็นนางคณิกา แม้หูซื่อจะทำเช่นนี้จริงๆ ยามจวนตัว แต่คำพูด...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฟูมฟักจอมราชัน บทที่ 3-4

บทที่ 3 อู๋เซี่ยวเซี่ยวเปิดกระจกรถเล็กน้อยด้วยสีหน้าเรียบเฉย ให้กลิ่นค่อยๆ ระบายออกไป จากนั้นสตาร์ตรถ เหยียบคันเร่งขับรถ...

ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน

ทดลองอ่าน ลำนำฝูหรงเคียงกระเรียน บทนำ-บทที่ 1.2

บทนำ บนโลกนี้มีการเดินทางข้ามกาลเวลาที่สมบูรณ์แบบอยู่หรือไม่ น่าจะมีอยู่ หยางหวั่นก็คือคนโชคดีที่ได้เดินทางข้ามกาลเวลาคร...

community.jamsai.com