เหล่าคนที่ยืนมุงพากันหูผึ่ง คนที่หยุดยืนดูด้วยความอยากรู้มีมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ทันไรหน้าร้านยาเหรินเต๋อก็เนืองแน่นไปด้วยฝูงชน
ชาวบ้านจำนวนมากยืนอออยู่หน้าร้าน เสียงคาดคะเนบาดหูดังขึ้นทุกที ซย่าซื่อโมโหจนอยากกรากเข้าไปปิดปากซย่าหมิ่นนัก ทว่าสิ่งที่ทำได้มีเพียงปั้นยิ้มอธิบายอย่างใจเย็น “นายผู้เฒ่าหวังบอกว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด อยากจะปรับความเข้าใจกับเจ้า เขาไม่ถือสาที่เจ้าลงไม้ลงมือกับเขา ที่ยืนกรานจะช่วยเจ้าปรับปรุงร้านยาก่วงจี้ใหม่ให้ได้กลับมาเปิดกิจการอีกครั้งก็เพราะอยากให้เจ้ายกโทษให้อย่างไรล่ะ”
“เช่นนั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นท่านป้าก็ไม่ต้องเหนื่อยแล้วล่ะ ข้าไม่ชอบนายผู้เฒ่าหวัง ไม่อยากแต่งงานไปเป็นภรรยาใหม่เขา ท่านป้าไม่ต้องคอยนัดแนะให้ข้าไปตรวจโรคให้เขาตามลำพังแล้วนะ ทำเช่นนี้ชื่อเสียงของข้าจะด่างพร้อย” ซย่าหมิ่นโต้กลับไปตรงๆ อย่างไม่คิดจะไว้หน้าผู้เป็นป้า เปิดโปงความจริงว่าอีกฝ่ายพยายามทำลายชื่อเสียงนางเพื่อบีบบังคับให้แต่งงาน
ซย่าซื่อฟังแล้วแทบกระอัก นางเด็กนี่กล้าพูดออกมาโต้งๆ ว่านางจงใจทำลายชื่อเสียง คนอื่นได้ฟังจะมองนางอย่างไร
หญิงสูงวัยคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าซย่าหมิ่นมีไหวพริบฉับไวเกินกว่าจะติดกับ ทุกครั้งที่ไปตรวจโรคให้ฝ่ายชายจะพาคนอื่นไปด้วยเสมอ ซ้ำยังไม่ยอมดื่มแม้แต่ชา แล้วจะเอาโอกาสที่ใดวางยาได้ นอกจากนั้นนางไม่รู้เลยว่าซย่าหมิ่นจะดุร้ายถึงเพียงนี้ แค่ถูกนายผู้เฒ่าหวังจับมือนิดเดียวก็ถึงกับยกเท้าถีบกล่องดวงใจอีกฝ่าย ทีนี้ผู้เฒ่าหวังเลยโมโห บอกว่าไม่คิดจะแต่งงานอีกแล้ว แผนการของนางจึงล้มเหลวหมด
แน่นอนว่าเพื่อตำรับยาและเพื่อปกป้องชื่อเสียงของตน ซย่าซื่อจำต้องฝืนใจฉีกยิ้ม สวมบทบาทญาติผู้ใหญ่ที่แสนอารีเล่นละครให้คนนอกดูต่อไป
“หมิ่นเอ๋อร์ เจ้าเข้าใจผิดนะ ป้าเห็นว่านายผู้เฒ่าหวังท่าทางสง่าผ่าเผยจึงมองว่าเขาเป็นตัวเลือกคู่ครองที่ดี ไม่คิดว่าจะเป็นพวกตัณหาจัด นอกจากนั้นป้ายังไม่เคยคิดจะบีบบังคับให้เจ้าแต่งงานด้วย หากเจ้าไม่อยากแต่งก็ไม่ต้องแต่ง ค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงร้านยาก่วงจี้ถือเสียว่าป้าให้เจ้าแล้วกัน หากสามารถช่วยเหลือเจ้าให้เปิดร้านยาก่วงจี้ขึ้นมาใหม่ได้ พ่อแม่เจ้าที่ล่วงลับไปแล้วก็จะสบายใจ”
พูดเสียสวยหรู ตอนแรกไม่ยอมให้ความช่วยเหลือนาง เพิ่งจะมาช่วยอะไรเอาตอนนี้? วางแผนมาอย่างดีว่าจะช่วยนางปรับปรุงซ่อมแซมร้าน ให้พวกนางย้ายออกไปอยู่ที่อื่น อีกฝ่ายทำไปเพื่ออะไร
ก็เพื่อตำรับยาอย่างไรเล่า!
ซย่าหมิ่นสรุปเช่นนี้ได้เพราะผู้เป็นป้าเคยถามเรื่องตำรับยากับนางอยู่บ่อยๆ ซ้ำร้ายบ้านนางยังเคยถูกขโมยขึ้นมาหลายครั้ง แต่น่าแปลกที่ของมีค่าในบ้านยังอยู่ครบ แล้วยัง…
‘ระวังซย่าซื่อ บุรุษ บังคับให้แต่งงาน กับดัก ตำรับยา’
นางนึกถึงข้อความที่เห็นบนกระดาษเมื่อหนึ่งเดือนก่อน
ใครเป็นคนเขียนกันนะ
ลายมือหวัดชุ่ย ตัวใหญ่โย้เย้ พูดได้เต็มปากว่าลายมือน่าเกลียด ซ้ำบนกระดาษยังมีรอยเท้าแมวและขนสีดำของแมวติดอยู่หลายเส้น นางเห็นแล้วจึงนึกถึงมีมีเป็นอันดับแรก
มีมีจะมีความสามารถพิเศษเขียนหนังสือเตือนภัยนางได้จริงๆ อย่างนั้นหรือ