เพิ่งจะได้เห็นเชื้อพระวงศ์ครั้งแรกในชีวิตก็เป็นคนใหญ่คนโตระดับนี้ ชาวบ้านแต่ละคนหวาดหวั่นยำเกรงเสียไม่มีดี ขณะส่งเสียงคำนับอย่างพร้อมเพรียง “ขอทรงพระเจริญพันปีพันๆ ปี!”
ซย่าหมิ่นคุกเข่าตามคนอื่นๆ ไปด้วย สักพักหนึ่งถึงเพิ่งตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้น นางได้เจออ๋องผู้หนึ่งในเมืองเฉาหยางแห่งนี้! ความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมบอกนางว่าหลิ่นอ๋องเป็นชายผู้ได้ฉายาว่า ‘ดาวอสูร’ รูปกายหล่อเหลางดงาม ความประพฤติเลวทรามโหดเหี้ยม เนื่องจากเป็นที่ไว้วางใจของจักรพรรดิจึงมีอำนาจมากล้นชนิดเรียกลมเรียกฝนได้ ใครเห็นเป็นต้องกลัวเกรง เวลานี้ดาวอสูรมาที่เมืองเฉาหยาง บอกว่าจะวางเดิมพันข้างนาง ถามนางว่าห้าร้อยตำลึงพอหรือไม่…ความคิดแรกของซย่าหมิ่นก็คือนางไปโชคดีมาจากที่ใดกันนะ
ซย่าหมิ่นกระวนกระวายในใจ อยู่ๆ ก็มีเงินก้อนโตร่วงลงมาตรงหน้า แต่นางไม่มีท่าทางดีใจอย่างคนถูกหวยเลยสักนิด เท่าที่เห็นในละครย้อนยุค การเงยหน้าขึ้นมองชนชั้นสูงเป็นสิ่งไม่บังควร นางเลยทำได้แค่มองชายเสื้อคลุมกับรองเท้าของหลิ่นอ๋องที่เคลื่อนเข้ามาใกล้ขึ้นทีละน้อยจนหยุดลงตรงหน้า…เอ๋? เหตุใดเขาถึงได้เดินเข้ามาตรงหน้านางเล่า
ลิ่นจื่อเชินมองชาวบ้านที่คุกเข่าเรียงราย แล้วเดินเข้ามาตรงหน้าซย่าหมิ่นด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอนางในร่างมนุษย์ ไม่รู้เพราะเหตุใดถึงได้เกิดความตื่นเต้นยินดีขึ้นในใจอย่างน่าประหลาด ความยินดีนี้สะสมตัวตั้งแต่ได้ฟังนางปะทะคารมกับผู้เป็นป้าเมื่อครู่ ในใจคิดว่าสตรีผู้นี้ฉลาดดังที่คาด ถึงได้ไม่ตกหลุมพรางผู้คิดร้าย ไม่เสียแรงที่เขาอุตส่าห์ลำบากลำบนเขียนข้อความเตือนไว้
“เงยหน้าขึ้นมา” เขาสั่ง
ซย่าหมิ่นเงยหน้าขึ้นมาอย่างหวาดๆ แล้วประสานสายตากับชายหนุ่ม
นางรู้อยู่แล้วว่าหลิ่นอ๋องเป็นหนุ่มรูปงาม แต่ความงามที่ว่านั้นนางเพิ่งจะได้ประจักษ์วันนี้ ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าหล่อเหลาบาดตายิ่งกว่าดาราที่เคยเห็นในโทรทัศน์เสียอีก เครื่องหน้าทุกส่วนสมบูรณ์แบบไปหมด หาที่ติไม่เจอแม้แต่นิดเดียว เรียกได้ว่างามล่มชาติล่มเมือง บุคลิกดูอันตราย ทว่ามีเสน่ห์ชวนลุ่มหลงแบบผู้ชายร้ายๆ แค่มองอย่างเดียวก็เคลิ้มจนไม่รู้เหนือรู้ใต้แล้ว
ซย่าหมิ่นรีบก้มหน้า นางไม่คิดว่าตนเองจะเคลิ้มไปกับความงามของเขา แค่สัมผัสอันตรายของเขาได้ต่างหาก กลัวว่าหากจ้องมากๆ เข้าเขาจะโมโห
เดิมทีลิ่นจื่อเชินคิดว่าตนจะวางท่าสูงส่งทรงอำนาจได้เมื่ออยู่ต่อหน้าหญิงสาวผู้นี้ แต่แล้วเขากลับพบว่าเขาไม่ชอบเห็นนางทำตัวต่ำต้อย คุกเข่าหมอบกราบ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองเขาเหมือนอย่างคนอื่น จึงสั่งไปว่า “เจ้า…ลุกขึ้นได้”
แม้จะนึกฉงนอยู่ในใจ แต่ซย่าหมิ่นก็ลุกขึ้นโดยดี แล้วพยายามห้ามตนเองไม่ให้ถอยหนีเมื่อเห็นอ๋องหนุ่มสาวเท้าเข้ามาหา
เขาคิดจะทำอะไรกันนะ
ลิ่นจื่อเชินเดินเข้ามาใกล้แล้วเพ่งพิศนางอย่างถ้วนถี่
ตอนที่ยังเป็นแมว เขาต้องแหงนหน้ามองนางตลอด มาตอนนี้สามารถมองนางอย่างคนตัวสูงกว่าได้แล้ว ตัวนางหดลงเหลือเล็กบางนิดเดียวเท่านั้น มองลงไปจากมุมนี้ เขาเห็นนางได้เต็มตา
“ข้าบอกว่าจะพนัน โดยช่วยออกทุนให้เจ้าห้าร้อยตำลึง เจ้าเห็นเป็นอย่างไร” เขาถามขึ้น
ซย่าหมิ่นสัมผัสได้ถึงความชื้นของเหงื่อบนฝ่ามือ หลิ่นอ๋องผู้สูงส่งซ้ำยังได้ฉายาว่า ‘ดาวอสูร’ บอกว่าจะช่วยออกทุนห้าร้อยตำลึง ให้นางเปิดร้านยาก่วงจี้ขึ้นมาอีกครั้ง นี่เป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ เขาจะ…มีเจตนาไม่ชอบมาพากลแอบแฝงหรือไม่
เพราะรูปโฉมนางอย่างนั้นหรือ
ไม่ นางไม่ได้งดงามมากมายอะไร ไม่เข้าตาเขาหรอก…
แล้วนาง…ปฏิเสธได้หรือไม่
“ข้าอยากทราบว่า…เหตุใดท่านอ๋องถึงได้จะช่วยข้า” นางรวบรวมความกล้าถามออกไปตรงๆ