บทที่ห้า
วันรุ่งขึ้น ซย่าหมิ่นได้รับหนังสือสัญญาสองฉบับที่ลิ่นจื่อเชินให้คนนำมาให้ นางกลัวว่าจะมีหลุมพรางซ่อนอยู่ข้างในจึงอ่านสัญญาโดยละเอียด ในนั้นระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเป็นการให้ยืมเงิน ไม่มีเงื่อนไขแปลกๆ เห็นดังนี้ก็ค่อยโล่งอก แต่ดอกเบี้ยที่สูงถึงหนึ่งร้อยตำลึงทำให้นางกัดฟันก่นด่าอยู่ในใจ พอองครักษ์นามหวังเจาผู้นั้นมองมา นางก็รีบยิ้มบอกว่าไม่มีอะไรแล้วลงนามในสัญญา
หลังจากลงนามและประทับตราเสร็จ ซย่าหมิ่นก็ส่งสัญญาคืนให้หวังเจาพร้อมฉุกใจอะไรบางอย่าง เหตุใดชายผู้นั้นถึงได้รู้ชื่อแซ่และที่อยู่นางได้นะ แต่คิดดูอีกที เขาเป็นถึงอ๋อง อยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับนางคงไม่ใช่เรื่องยาก
จัดการเรื่องสัญญาเรียบร้อย ซย่าหมิ่นก็ได้รับตั๋วเงินจำนวนห้าร้อยตำลึงมาอย่างรวดเร็ว ดวงเนตรงามเป็นประกายวาววับ
ห้าร้อยตำลึงช่างเป็นเงินมากมายอะไรอย่างนี้ ชาวบ้านทั่วไปมีรายรับต่อเดือนไม่กี่ตำลึง เงินห้าร้อยตำลึงจึงถือว่ามหาศาล!
ซย่าจื้อกับซย่าเจวี้ยนก็ไม่เคยเห็นตั๋วเงินจำนวนเท่านี้มาก่อนในชีวิต พากันมาลูบๆ คลำๆ พลางฮือฮากับความสูงค่าของมัน
ซย่าหมิ่นใจคอไม่ดีอยู่เหมือนกันที่ถือตั๋วเงินราคาสูงถึงเพียงนี้ ชาวบ้านร้านตลาดรู้กันทั่วว่านางได้เงินห้าร้อยตำลึงจากหลิ่นอ๋อง นางกลัวจะถูกชิงทรัพย์ จึงไหว้วานให้หวังเจาช่วยอารักขาตนไปส่งที่ร้านฝากเงิน ห้าร้อยตำลึงมากเกินไป จำต้องแตกเป็นเงินปลีกเสียก่อน
หญิงสาวไม่รู้ว่าความจริงองครักษ์หนุ่มได้รับคำสั่งจากผู้เป็นนายให้คุ้มกันนางไปร้านฝากเงินอยู่แล้ว และนางก็ไม่จำเป็นต้องกังวลแต่อย่างใด ทุกคนรู้กันทั่วว่าเงินจำนวนนี้ หลิ่นอ๋องเป็นคนให้ยืม หากถูกปล้นชิงหรือเกิดเหตุใดๆ ที่ทำให้แผนเปิดกิจการใหม่ของนางไม่ประสบผลสำเร็จขึ้นมา ดาวอสูรอย่างลิ่นจื่อเชินอาจมาเอาเรื่องถึงที่ ดังนั้นไม่มีใครกล้าบ้าบิ่นริอ่านแตะต้องเงินจำนวนนี้ของนางแน่นอน
หลังฝากเงินเรียบร้อยแล้ว ซย่าหมิ่นก็วางแผนอย่างอารมณ์ดีว่าจะบริหารเงินก้อนนี้อย่างไร ในเมื่อเป็นเงินที่ยืมมา นางต้องใช้ทุกอย่างระมัดระวังยิ่ง จะสุรุ่ยสุร่ายไม่ได้
ก่อนอื่นนางจัดการปรับปรุงซ่อมแซมร้านยาก่วงจี้ ทำป้ายร้านเสียใหม่ สร้างบรรยากาศที่แปลกไปจากเดิมเพื่อดึงดูดสายตาลูกค้า ถัดจากนั้นคือการซื้อตัวยาจำเป็นเข้าร้านให้ครบ ตู้เก็บยาที่เคยว่างเปล่ากลับมาเต็มไปด้วยยา กลิ่นยาหอมอบอวลไปทั้งร้าน ชวนให้หัวใจอิ่มเอมยิ่งนัก
ต่อมาคือหมอตรวจโรคประจำร้าน ซย่าหมิ่นไปเชิญหมอเฉินที่เคยทำงานแต่เดิมกลับมาอีกครั้ง หมอเฉินมีประสบการณ์มานานกว่าสามสิบปี เป็นหมอชราคนดังสมัยที่ร้านยาก่วงจี้ยังรุ่งโรจน์ ได้รับความเชื่อถือจากชาวเมืองอย่างกว้างขวาง
เห็นได้ชัดว่าสตรีเช่นนางเป็นหมอตรวจโรค ผู้คนไม่เชื่อถือ ดังนั้นการจ้างหมอชายจึงเป็นสิ่งจำเป็น ไว้รอให้กิจการร้านยาก่วงจี้เข้าที่เข้าทาง ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากทุกคนอีกครั้ง นางเชื่อว่าก็จะค่อยๆ มีคนมาให้นางรักษาเอง
จากนั้นซย่าหมิ่นพาน้องชายน้องสาวไปพิมพ์ใบประกาศ อาณาจักรต้าเซียวมีการพิมพ์แล้ว จะพิมพ์เท่าไรก็ได้ทั้งนั้น ที่น่าท้อใจก็คือต่อให้เห็นคนโยนใบประกาศร้านยาก่วงจี้ทิ้งพื้นเหมือนเป็นขยะ นางก็ยังต้องแจกต่อแผ่นแล้วแผ่นเล่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ใบประกาศได้ผล วันแรกที่ร้านยาก่วงจี้เปิดกิจการใหม่ก็มีคนมาจนแน่นร้านจริงๆ เสียดายที่ไม่ได้มาตรวจโรค แต่มาดูว่าหญิงที่ได้รับความช่วยเหลือจากหลิ่นอ๋องเช่นนางหน้าตางดงามเพียงไรถึงได้เข้าตาเชื้อพระวงศ์หนุ่ม บุรุษบางคนเห็นว่านางได้เงินก้อนมาก็บอกว่าจะแต่งงานกับนาง ทว่าโดนป้าอิ๋นฮวาไล่ตะเพิดไปหมด
ถัดจากนั้นวันที่สอง…วันที่สาม…ในที่สุดก็มีคนไข้จริงๆ มาให้รักษา ล้วนแต่มาหาหมอเฉินโดยเฉพาะ เพราะเป็นคนไข้เก่าตั้งแต่ร้านยาก่วงจี้ยุคก่อน
วันที่สี่ มีแต่คนที่ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา นางจึงรับเป็นคนไข้ตรวจโรคให้
ครั้นพอวันที่ห้า…ในร้านก็เหลือแต่นางกับหมอเฉิน นางเบื่อเสียจนอยากหาว
วี้…วี้…
ซย่าหมิ่นกลอกตามอง แล้วลุกพรวดขึ้นมากางมือตบเมื่อเห็นยุงตัวหนึ่งบินอยู่ตรงหน้า แต่ตบไม่โดน