ไป๋จู๋ โกฐสอ ไป๋จี๋ ไป๋เลี่ยน โป่งรากสนขาว ไป๋เสา…ล้วนเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวพรรณให้ขาวใส ลดจุดด่างดำ สิวและฝ้า เอามาทำมาสก์เพื่อความงามหรือทำครีมทาสิวเพื่อผิวเรียบเนียนก็ดีทั้งนั้น
แน่นอนว่าการนำสมุนไพรเหล่านี้มาทำเครื่องประทินความงามชั้นดีไม่ใช่เรื่องยากสำหรับซย่าหมิ่น เพราะนางเคยร่วมทำงานวิจัยกับแผนกความงามของโรงพยาบาลที่บ้านมาแล้ว รังสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ความงามที่ทั้งขายดีและได้รับเสียงชื่นชมจากลูกค้า นอกจากมาสก์ สบู่สมุนไพรก็ได้รับความนิยมมาก ซ้ำยังมีหลากหลายสูตร ดังนั้นนางจึงคิดว่าตนเองน่าจะลองดูสักตั้ง
นางอยากทดลองทำขี้ผึ้งพอกหน้าก่อน ขี้ผึ้งพอกหน้าก็คือมาสก์ในยุคปัจจุบันนั่นเอง นางเคยร่วมศึกษาค้นคว้ากับแผนกความงาม รู้ว่าสมัยถังนิยมขี้ผึ้งพอกหน้ากันอย่างมาก ขี้ผึ้งนี้ทำจากสมุนไพรธรรมชาติที่มีสรรพคุณบำรุงผิวพรรณ นางถามจากพ่อค้าร้านสมุนไพรมาแล้ว ตลับหนึ่งราคาไม่ใช่เล่นๆ ส่วนใหญ่มีแต่พวกฮูหยินกับคุณหนูตระกูลร่ำรวยใช้กัน นางเลยเกิดความคิดว่าน่าจะทำขี้ผึ้งพอกหน้าราคาย่อมเยาออกขาย
โชคดีที่ซย่าหมิ่นยังจำสูตรทำขี้ผึ้งแบบโบราณได้และเคยทดลองทำจนสำเร็จมาแล้วด้วยความอยากรู้ ตอนนี้ร้านยาก่วงจี้มีสมุนไพรครบถ้วน นางจึงรีบตีเหล็กเมื่อร้อนลองทำดู โดยนำสมุนไพรที่ต้องใช้มาหั่นและบดให้ละเอียด แช่ทิ้งไว้ในสุรานึ่งคืน จากนั้นนำไปเคี่ยวบนเตาให้ส่วนผสมค่อยๆ งวดลงจนเหนียว ขั้นตอนนี้ค่อนข้างยุ่งยากและซับซ้อนมากทีเดียว
ในที่สุดซย่าหมิ่นก็ทำขี้ผึ้งพอกหน้าตลับแรกสำเร็จ ขี้ผึ้งขาวขุ่น โปร่งแสงเล็กน้อย พอกหน้าแล้วสัมผัสได้ว่าผิวนุ่มลื่นขึ้น หากใช้ต่อเนื่องเป็นประจำจะยิ่งได้ผลลัพธ์ที่ดี นางตั้งชื่อขี้ผึ้งตลับนี้ว่า ‘ขี้ผึ้งโฉมอัปสร’
วันนี้ซย่าจื้อเลิกเรียนกลับมาเดินเข้าบ้านก็เห็นคนสี่คนนอนอยู่บนตั่ง ทำเอาเขาถอยหลังติดๆ กันหลายก้าวด้วยความตกใจ
“พี่ใหญ่ พวกท่าน…พวกท่านเป็นอะไรไป” เขายกมือสั่นระริกชี้คนเหล่านั้น
ซย่าหมิ่น ซย่าเจวี้ยน แล้วก็หลานทั้งสองหน้าขาววอกจากโคลนสีขาวขุ่นที่พอกอยู่ โผล่มาให้เห็นแค่ลูกตา รูจมูก แล้วก็ปาก ดูราวกับผีหน้าขาวอย่างไรอย่างนั้น
“พี่รอง นี่เป็นขี้ผึ้งพอกหน้าที่พี่ใหญ่คิดค้น พอกแล้วช่วยให้งามขึ้นได้” ซย่าเจวี้ยนพูดอย่างชื่นชม
“ท่านอาใหญ่ ข้าก็จะงามขึ้นเหมือนกันหรือเจ้าคะ” เฉี่ยวเอ๋อร์ถาม
“ใช่แล้ว เฉี่ยวเอ๋อร์จะงามขึ้นอย่างแน่นอน” ซย่าหมิ่นตอบ
“ข้าก็อยากงามขึ้นเช่นกัน” เสียงเอ๋อร์ส่งเสียงตะโกนแบบเด็กๆ
จากนั้นดวงตาสี่คู่ก็เหลือบมองไปทางซย่าจื้ออย่างพร้อมเพรียง คล้ายกำลังเชิญชวนเขาว่า ‘มางามไปด้วยกันกับพวกเราสิ’ ทำเอาเด็กหนุ่มถอยกรูดไปอีกหลายก้าว เพราะยังไม่อยากมีสภาพเหมือนผี…
ซย่าหมิ่นออกคำสั่ง “จับตัวเขาไว้”
หนึ่งเค่อให้หลังเมื่อป้าอิ๋นฮวากลับจากจ่ายตลาดแล้วเดินเข้ามาเห็นใบหน้าขาววอกห้าดวงอยู่ในบ้าน นางก็อุทานด้วยความตกใจ “พวกท่าน…เป็นอะไรกัน…”
ซย่าหมิ่นยิ้มละไม “ป้าอิ๋นฮวา นี่เป็นขี้ผึ้งพอกหน้าที่ข้าทำขึ้นมา พอกแล้วผิวจะเนียนนุ่ม กระจ่างใส ท่านเองก็มาพอกด้วยกันสิ”
หญิงสูงวัยถอยหนีไปก้าวหนึ่ง “มะ…ไม่ต้องหรอก ข้าอายุปูนนี้แล้ว…”
“สตรีจะวัยใดก็รักสวยรักงามทั้งนั้น”
ป้าอิ๋นฮวาเลยถูกลากเข้าไปร่วมทดลองด้วยเหตุนี้ มีเพียงหมอเฉินที่นั่งประจำร้านผู้เดียวเท่านั้นที่รอดตัว