ซย่าหมิ่นผลิตขี้ผึ้งโฉมอัปสรออกมาอย่างมั่นใจ ด้วยความคิดที่ว่าสตรีรักสวยรักงามเป็นนิสัย นางจึงเชื่อมั่นว่าขี้ผึ้งพอกหน้านี้จะช่วยฟื้นฟูกิจการร้านยาก่วงจี้ขึ้นมาได้
แต่ผลลัพธ์กลับออกมาตรงข้าม นางแขวนแผ่นป้ายประกาศขนาดใหญ่ไว้หน้าร้าน บรรยายสรรพคุณขี้ผึ้ง ทั้งยังไปสั่งพิมพ์ใบปลิวใหม่ โดยเขียนคำว่า ‘ราคาพิเศษ’ ตัวใหญ่ๆ แต่วางขายอยู่หลายวันก็ยังไม่มีลูกค้ามาซื้อ
ความจริงก็ใช่จะไม่มีลูกค้าเสียทีเดียว…
หญิงมีเรือนกลุ่มหนึ่งชะเง้อคอมองอยู่หน้าร้าน หนึ่งในนั้นผิวหน้าขรุขระ ซย่าหมิ่นรีบพุ่งเข้าไปหาทันที แล้วฉีกยิ้มพูดกับคนที่ผิวมีปัญหาว่า “คารวะท่านลูกค้า มาซื้อขี้ผึ้งโฉมอัปสรใช่หรือไม่ ซื้อตอนนี้ได้ราคาพิเศษนะเจ้าคะ…”
สตรีที่ผิวไม่ดีถูกคนอื่นดึงไปข้างหลังแล้วพากันกระซิบกระซาบ “ข้าว่าอย่าดีกว่า บรรยายสรรพคุณเสียเลิศลอย ใครจะไปรู้ว่าใช้แล้วหน้าจะกระดำกระด่างหรือไม่…”
“นั่นน่ะสิ นางยังสาวยังแส้ จะรู้จักผสมยาเป็นได้อย่างไรเล่า หากทาแล้วหน้าเน่าขึ้นมา…”
อะไรทาแล้วหน้าเน่า! ซย่าหมิ่นพยายามอธิบายอย่างระมัดระวัง “ข้าสืบทอดวิชาแพทย์จากท่านพ่อ รับรองว่าไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน ขี้ผึ้งโฉมอัปสรนี้ข้าศึกษามาแล้วอย่างละเอียด ทดลองใช้เองก็ได้ผลดี ข้าจะลองพอกให้ตอนนี้ก็ได้นะเจ้าคะ…”
“ข้าอยากลอง…”
“ไปเถิดน่า อย่าเชื่อเลย บ้านข้ามีตำรับที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ลองเอาไปทำทาดู…”
“แต่…”
“ไปเร็ว…”
ซย่าหมิ่นจึงได้แต่ยืนมองลูกค้าที่อยากซื้อขี้ผึ้งถูกดึงไปต่อหน้าต่อตา ในใจโมโหเสียไม่มีดี
การเขียนป้ายและพิมพ์ใบปลิวประกาศขายขี้ผึ้งโฉมอัปสรช่วยดึงความสนใจของสตรีในเมือง หลายคนมาชะเง้อชะแง้คอมองหน้าร้าน แต่ไม่เชื่อถือในตัวนางหรือไม่ก็มีอคติกับร้านยาก่วงจี้จึงไม่กล้าเข้ามาซื้อ
เหตุใดขายขี้ผึ้งบำรุงความงามถึงได้ยากเย็นอย่างนี้นะ…นางแหงนมองฟ้าพลางทอดถอนใจ
“พี่สาว ได้ยินว่าท่านทำสิ่งที่เรียกว่าขี้ผึ้งโฉมอัปสรออกขายหรือ ดูท่าจะขายไม่ค่อยดีเท่าไรเลยนะ ท่านต้องลำบากแล้วจริงๆ”
ซย่าหมิ่นหันไปมองตามเสียง เห็นซย่าซื่อกับหลี่อวิ๋นเม่ยเดินเข้ามา ข้างหลังมีบ่าวไพร่ติดตามหลายคน ดูยิ่งใหญ่ทรงอำนาจ
ปกติไม่ยักมา ทีวันนี้ล่ะมาได้ คงรู้ว่าขี้ผึ้งของนางขายไม่ได้เลยตั้งใจจะมาเยาะเย้ยล่ะสิ! ซย่าหมิ่นฉีกยิ้มรับศึก “ขี้ผึ้งโฉมอัปสรนี้เป็นยาดีที่ข้าค้นคว้าขึ้นอย่างตั้งใจ ต้องใช้เวลาให้คนรู้จักเสียก่อน ใจร้อนไม่ได้”
ซย่าซื่อแย้มยิ้ม ความชิงชังที่มีต่อหลานสาวซุกซ่อนอยู่ในแววตา “เห็นเจ้าเหน็ดเหนื่อยถึงเพียงนี้ ป้าอยากช่วยอะไรเจ้าบ้าง เสียดายเจ้าไม่ยอมรับความช่วยเหลือ ป้าก็ไม่อยากฝืนใจ เดี๋ยวคนอื่นจะเข้าใจผิดเอาได้ว่าป้าคิดร้ายกับเจ้า”
หลี่อวิ๋นเม่ยยกมือขึ้นมาเป่าเล็บที่เคลือบสีเอาไว้อย่างสวยงาม “ท่านแม่พูดถูก ออกเรือนไปเสียดีกว่า ท่านแม่หาคู่ครองดีๆ ไว้ให้ข้า ข้าเคยเห็นเขาแล้ว หน้าตาหล่อเหลาสง่างาม ทั้งยังนิสัยดี ข้าจะต้องมีชีวิตคู่ที่สมบูรณ์พร้อมอย่างแน่นอน”
“หมิ่นเอ๋อร์ ตอนที่น้องอวิ๋นของเจ้าแต่งงาน เจ้าต้องมาร่วมดื่มสุรามงคลด้วยล่ะ ต่อให้เจ้าโกรธแค้นข้าที่เป็นป้าอย่างไร พวกเราก็ยังเป็นครอบครัวเดียวกันนะ” ซย่าซื่อยกมือป้องปากพลางกล่าวยิ้มๆ
สองแม่ลูกรับส่งบทกัน โอ้อวดใส่ซย่าหมิ่นอย่างจงใจ