“นั่นสินะ” หลี่ชีฉือตอบเนิบๆ “แต่หากมองภาพเล็กก็เท่ากับข้าช่วยสามีตนเอง เขาสบายก็จะเป็นผลดีต่อข้าด้วย หากมองภาพใหญ่ การช่วยผู้อพยพให้ตั้งตัวและการขยายกองทัพช่วยให้ราษฎรมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น เป็นผลดีต่อแดนเหนืออันกว้างใหญ่ และยังประโยชน์แก่บ้านเมืองด้วยเช่นกัน ตัวข้าเองเป็นเชื้อพระวงศ์ เพื่อครอบครัวและแผ่นดินแล้ว เหตุใดจะทำไม่ได้เล่า”
หลัวเสี่ยวอี้ไตร่ตรองตามโดยละเอียด แต่หาช่องโหว่มาแย้งนางไม่เจอแม้แต่ข้อเดียว เขาเบิกตากว้าง แทบอยากจะตบเข่าฉาด “พี่สะใภ้เป็นจูเก่อเลี่ยง* กลับชาติมาเกิดหรือ!”
แค่วาทศิลป์ของนางเพียงอย่างเดียวก็สามารถเรียกลมบูรพาได้แล้ว มิน่าเล่าถึงได้เอาพี่สามอยู่
หลี่ชีฉือแย้มยิ้ม “เช่นนั้นข้าจะถือว่าเจ้าตอบตกลง”
หลัวเสี่ยวอี้ถูมือเข้าหากัน “ข้าน่ะได้อยู่หรอก แต่พี่สามนี่สิหลอกยาก เกรงว่าจะปิดไว้ไม่ได้แน่”
หญิงสาวย้อนในใจ แล้วอย่างไรเล่า รู้ก็รู้ไปสิ ใช่ว่าทำเรื่องเลวร้ายเสียที่ใด
หากแต่ที่เอ่ยออกมาจากปากคือ “เพราะรู้นิสัยพี่สามของเจ้านี่ล่ะ ข้าถึงได้พูดเรื่องนี้กับเจ้าคนเดียว ขอเพียงเจ้าไปจัดการตามที่ข้าบอกก็พอแล้ว”
หลัวเสี่ยวอี้คิดทบทวนโดยละเอียด จากนั้นก็ผงกศีรษะตอบรับ
หลี่ชีฉือเดินเข้าไปหาเขาก้าวหนึ่ง อธิบายแผนการที่คิดไว้ให้ฟังโดยละเอียด
ฝ่ายตรงข้ามพยักหน้ารับ จดจำทุกสิ่งไว้อย่างขึ้นใจ ก่อนจะประสานมือคำนับและเดินกลับออกไปด้วยฝีเท้าเร่งรีบ แม้แต่อารมณ์จะอาลัยกระถางไฟยังไม่มี
จวบจนเดินออกจากจวนมาจับบังเหียนม้า ประโยคหนึ่งก็ดังขึ้นในใจ หรือว่าพี่สามจะเริ่มดวงดีขึ้นแล้ว
พี่สะใภ้ผู้นี้คอยช่วยเหลือสามีทุกอย่าง ไร้ที่ติจริงๆ
หลังหลัวเสี่ยวอี้จากไปไม่นาน ฟ้าก็มืดลง โคมไฟถูกจุดขึ้นในจวน
เมื่อเช้านี้หิมะตกลงมาบางๆ จนเฉลียงทางเดินเปียก บ่าวไพร่จึงช่วยกันทำความสะอาดอย่างพิถีพิถัน เวลานี้ยังเหลือรอยชื้นเล็กน้อย
ฝูถิงที่กลับเข้ามาจากข้างนอกย่างเท้าที่อยู่ในรองเท้าหุ้มแข้งแบบชาวหูเดินไปตามเฉลียง มุ่งหน้าไปทางห้องหนังสือ ทันใดนั้นก็พลันหยุดชะงัก แล้วหันไปมองเรือนใหญ่
นึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนกลางวันขึ้นมาได้ คนที่อยู่ในเรือนหลังนั้นเป็นภรรยาของเขา ไม่ไปถามไถ่บ้างก็กระไรเลย หาไม่จะไม่สมเป็นบุรุษ
เขาเอาแส้ม้าเหน็บเอวไว้ ปลายเท้าเดินเลี้ยวไปอีกทาง
เขาไม่ได้มาเสียนาน ดูเหมือนเรือนใหญ่จะเปลี่ยนไปอีกแล้ว ตรงหน้าประตูแขวนม่านบังลมเนื้อหนาเวลานี้ถูกตลบขึ้นไปเหนือประตู ชายม่านห้อยพู่หลายเส้นแบบที่กำลังนิยมกันในกวงโจว
เขามองกราดเข้าไป กลิ่นกำยานอบอวลอยู่เต็มเรือน ข้างในว่างเปล่า ไม่มีใครสักคน ทว่าร่องรอยของหลี่ชีฉือกลับปรากฏอยู่ในทุกซอกมุมของเรือนหลังนี้
เขากวาดสายตาอีกรอบ ก่อนจะมองไปที่เฉลียงทางเดิน ไม่เห็นสาวใช้สองคนที่คอยติดหน้าตามหลังนางเป็นประจำเช่นกัน
หากหลัวเสี่ยวอี้ไม่ได้พูดให้ฟังว่านางกลับถึงจวนโดยสวัสดิภาพ ป่านนี้เขาคงได้ออกไปตามหาแล้ว