หลัวเสี่ยวอี้รับถุงสุรากลับมา แล้วเพิ่งสังเกตเห็นว่าสีหน้าอีกฝ่ายไม่สู้ดี พอชะโงกเข้าไปเพ่งมองใกล้ๆ ก็เบิกตากว้าง “พี่สาม! แผลท่าน”
ฝูถิงดึงมือออก เห็นเลือดติดมาจนชุ่ม เขาขมวดคิ้วแล้วเอามือป้ายขา “ไม่เป็นไร”
ปากแผลปริเสียแล้ว ไม่รู้ว่าถูกกระเทือนตอนอุ้มหญิงสาวหรือตอนตะโกนเรียกหลัวเสี่ยวอี้กันแน่
ความจริงเขาเริ่มรู้สึกนิดๆ ตั้งแต่ตอนที่เดินออกจากห้องเมื่อครู่
หลัวเสี่ยวอี้ทำท่ายกมือปาดคอตนเอง “ตะขอนั่นแทบเกี่ยวทะลุคอหอยอยู่รอมร่อ ยังจะบอกว่าไม่เป็นไร”
พูดแล้วก็นึกถึงช่วงที่ไล่ล่าพวกสายลับทูเจวี๋ยอยู่หลายวัน
กองบัญชาการฮั่นไห่มีการป้องกันอย่างเข้มงวดแน่นหนามาโดยตลอด สายลับพวกนั้นถูกจับได้คาหนังคาเขาแล้วหนีไปอย่างรวดเร็ว ความจริงงานนี้อยู่ในความรับผิดชอบของเขาซึ่งเป็นขุนพล นึกไม่ถึงว่าพี่สามจะนำกององครักษ์ส่วนตัวไปไล่ล่าด้วยตนเอง
ตอนแรกทุกคนนึกว่าอีกฝ่ายเป็นบุรุษทั้งหมด ระหว่างประมือกันหลัวเสี่ยวอี้จึงไม่ทันระวังสตรี ยังคิดไปว่านางเป็นหญิงชาวบ้านที่หนีเปิดเปิงด้วยความเสียขวัญ จนกระทั่งแม่เสือชาวทูเจวี๋ยผู้นั้นกระโจนเข้าใส่ เกือบใช้ตะขอเกี่ยวหน้าเขาอยู่รอมร่อ
โชคดีที่ฝูถิงเข้ามาบังไว้ให้ ตะขอแหลมคมนั้นจึงเกี่ยวเข้าที่คอ หวุดหวิดจะเฉือนทะลุใต้กราม ส่วนพวกมันก็สบโอกาสหนีไปได้
ตอนนี้มองแผลไม่ค่อยเห็นแล้ว ช่วงวันแรกๆ เจ้าตัวพูดไม่ได้แม้แต่คำเดียว จะกินจะดื่มลำบากไปหมดทุกอย่าง
หากไม่เพราะเหตุนี้ ตอนเข้าค้นโรงเตี๊ยมคงไม่บุกเข้าไปค้นถึงห้องพักชั้นในที่มีแต่สตรีหรอก
หลัวเสี่ยวอี้หวนคิดถึงเหตุการณ์ตอนนั้น พี่สามเข้าไปด้านหลังฉากบังตาอยู่นานจนเขาคิดว่าจับสายลับได้จริงแล้วเสียอีก
ถ้าพี่สามไม่ยกมือปรามไว้อย่างทันท่วงที ทุกคนคงชักดาบบุกตามเข้าไปแล้ว
ใครเลยจะคาดคิดว่าคนที่อยู่หลังฉากบังตาไม่ใช่สายลับ แต่เป็นภรรยาของอีกฝ่าย
เขาชะโงกหน้าเข้าไปดูแผลเลือดอาบบนคอฝูถิงใกล้ขึ้นอีกนิดแล้วขมวดคิ้ว “พี่สาม ข้าว่าเจียดเงินสักก้อนไปซื้อยาชั้นดีที่ว่านั่นดีกว่า ท่านเป็นถึงผู้บัญชาการนะ จะปล่อยให้มีแผลเรื้อรังต่อไปได้อย่างไร”
พวกเขาหาหมอมารักษาแต่แรกแล้ว แต่หมอบอกว่าถ้าอยากหายเร็วต้องใช้ตัวยาหายากสองสามชนิด
ยาแพงๆ มีแค่ตามเมืองเฟื่องฟู อย่าว่าแต่ค่ายาเลย แค่ค่าขนส่งมาที่แดนเหนือก็ต้องใช้เงินไม่น้อยแล้ว
พี่สามของเขามีเงินเท่าไรก็ถมใส่กองทัพหมด ไม่ยี่หระกับอาการบาดเจ็บของตนเอง ใช้แค่ยารักษาบาดแผลทั่วๆ ไป ผ่านไปไม่กี่วันก็กลับมาดื่มสุรากินเนื้อตามปกติ
หากเขาไม่คอยจับตาดูไม่ให้เจ้าตัวพูดหรือขยับมาก น่ากลัวว่าอาการคงยิ่งร้ายแรงหนัก
ทว่า…ตอนนี้ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว
ฝูถิงใช้มือกดแผลเอาไว้เพราะสัมผัสได้ว่าเลือดยังไม่หยุดไหล ได้ยินดังนั้นก็ตวัดตามองฝ่ายตรงข้าม
หลัวเสี่ยวอี้ล้วงตราประทับของเขาออกจากอกเสื้อ แล้วพูดอย่างตัดสินใจเด็ดขาด “พี่สะใภ้ไม่รับเงินจากท่าน ถ้าอย่างไรเอาเงินก้อนนี้ไปซื้อยามาก่อนดีกว่า”
เขารู้นิสัยฝูถิงดี ที่จริงไม่อยากบอกเรื่องนี้ให้รู้เลย แต่ตอนนี้จะมัวพะวักพะวนไม่ได้