บทที่ 91
หลังเปิดศึก เจียงจู่วั่งยกทัพพิชิตเมืองไต้อย่างรวดเร็วด้วยตนเอง แล้วตั้งค่ายใหญ่ขึ้นในบริเวณนี้
เขารับหน้าที่หลายตำแหน่ง ทั้งคอยต้านทัพเป่ยตี๋จากมณฑลซั่วโจวและเหิงโจวซึ่งอยู่ทางซ้าย ทัพกลางของต้าเว่ยจะได้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ทั้งรับผิดชอบป้องกันเยี่ยนเหมิน พร้อมกันนั้นในฐานะผู้บัญชาการใหญ่ของสงครามครั้งนี้เขายังต้องคอยติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์การศึกทั้งหมดในทุกชั่วขณะ เพื่อปรับกลยุทธ์รับมืออย่างทันท่วงทีและรู้แนวทางกำกับการรบโดยรวม ทุกๆ วันจะมีหน่วยสอดแนมสามร้อยนายทำหน้าที่สืบข่าว ม้าเร็ววิ่งรอกระหว่างกระโจมจอมทัพกับกระโจมผู้บัญชาการทัพกลางและทัพขวา ให้เขาได้รับข่าวสารและถ่ายทอดคำสั่งลงไปในเวลาอันสั้นที่สุด
นับแต่เปิดศึกมา เขาทำศึกไปหลายระลอกแล้ว ทัพตี๋ในมณฑลซั่วโจวและเหิงโจวรู้ว่าเขามานั่งบัญชาการด้วยตนเองก็ไม่กล้าเคลื่อนทัพใหญ่มาประชิด สถานการณ์ยังนับว่าสงบนิ่ง
หลายวันก่อนเขาเพิ่งได้รับรายงานการศึกล่าสุดจากทัพขวา ทัพใหญ่ภายใต้การนำของโจวชิ่งกับจางมี่ที่มีแปดดินแดนเป็นกองหนุน บัดนี้การศึกกำลังคืบหน้าอย่างมั่นคง ได้เคลื่อนพลเข้ามณฑลโยวโจวแล้วอย่างราบรื่น
ถัดมาในวันนี้รายงานด่วนจากทัพกลางที่เขาเฝ้ารอมาหลายวันก็ส่งมายังกระโจมใหญ่แล้วเช่นกัน
ด้วยระยะเวลาเดือนกว่า หลังติดค้างอยู่ในขั้นตอนประจันหน้าจนหาทางออกไม่เจอ ในที่สุดทัพกลางก็ตีด่านเทียนกวนแตก ยึดก่วงหนิง และเข้าควบคุมมณฑลเยียนโจวสำเร็จ
ชัยชนะใหญ่ครานี้เป็นผลงานเชิดหน้าชูตาได้เลยทีเดียว แน่นอนว่าต้องรายงานราชสำนักทันทีเพื่อกระตุ้นความฮึกเหิม ผิดกับเหล่าเสนาธิการและรองแม่ทัพที่กำลังตื่นเต้นยินดีอยู่รอบตัว เจียงจู่วั่งหวนคืนสู่ความเยือกเย็นอย่างรวดเร็ว
ในฐานะแม่ทัพเก่าแก่ที่กรำศึกมาช้านาน ชัยชนะเช่นนี้ไม่อาจทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายได้เลย
ชีวิตของเขาผ่านอะไรมาเยอะนัก
ไม่ว่าสงครามครั้งใดก็ตาม ก่อนเปิดฉากรบพุ่งจะสามารถมององค์รวมเพื่อประเมินกำลังของทั้งสองฝ่ายได้เสมอว่าฝ่ายใดได้เปรียบกว่า จากนั้นก็วิเคราะห์หาข้อสรุปว่าจะเปิดศึกได้หรือไม่ ทว่าพอถึงคราวรบจริง แต่ละศึกไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น สถานการณ์พลิกผันได้ในพริบตาเดียว อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น หากเพลี่ยงพล้ำแม้เพียงนิดก็จะส่งผลกระทบต่อผลของสงครามโดยรวม ไม่ใช่ว่าเขาวิตกกังวลไปเองโดยใช่เหตุ
หลังมอบหมายให้คนนำรายงานชัยชนะไปส่งราชสำนัก เจียงจู่วั่งก็เดินมายืนหน้าแผนที่และกระบะทรายที่ใช้ในการรบตามความเคยชิน แล้วเหม่อมองจุดยุทธศาสตร์สำคัญบนนั้น
เป้าหมายปลายทางของสงครามครั้งนี้คือตีเมืองหลวงใหม่ของเป่ยตี๋ให้แตก และขับไล่พวกเป่ยตี๋กลับไปสู่ราชสำนักทางเหนือดั้งเดิม มณฑลโยวโจวและเยียนโจวถือเป็นสวนดอกไม้หลังบ้านและแนวปราการของเมืองหลวงใหม่นี้ เวลานี้เป่ยตี๋เสียมณฑลเยียนโจวไปแล้ว ส่วนมณฑลโยวโจวเป็นที่ตั้งของจวนหนานอ๋องเดิมของชื่อซู เจ้าตัวปกครองที่นั่นมานานปี ถัดจากนี้จะต้องตอบโต้ทัพต้าเว่ยโดยไม่สนใจว่าจะสูญเสียอะไรบ้างเพื่อพลิกสถานการณ์กลับมาให้ได้
สำหรับกำลังรบของเป่ยตี๋และชื่อซูที่เพิ่งขึ้นครองราชย์ เจียงจู่วั่งไม่กล้าดูเบาแม้แต่นิดเดียว
ชัยชนะในเยียนโจวเป็นเพียงการเริ่มต้นอย่างสวยงามเท่านั้น หลังจากนี้ยังมีศึกแล้วศึกเล่าที่ดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ รอให้พิชิตอย่างต่อเนื่อง
แต่แม้จะรอบคอบระมัดระวังอย่างไร เจียงจู่วั่งก็ยังมั่นใจเต็มเปี่ยมมาตั้งแต่ต้น