“อยากรู้หรือ เช่นนั้นข้าบอกให้ก็ได้! รู้บ้างหรือไม่ เวลาได้ยินเขาชื่นชมเจ้าต่อหน้าข้า เหมือนอยากให้เจ้าเป็นบุตรชายเขาใจแทบขาด ข้ารู้สึกอย่างไรบ้าง สมัยเด็กๆ เป็นเช่นนี้ โตขึ้นมา…ก็ยังเป็นเช่นนี้! ใครต่อใครเรียกข้าว่า ‘นายน้อย’ ทว่าตั้งแต่ระดับบนลงไปถึงพวกชาวบ้านใครบ้างมองข้าเป็นนายน้อยจริงๆ กระทั่งทารกวัยสามขวบในเมืองอวิ๋นลั่วยังรู้จักนามแม่ทัพฉางหนิงเลย!…แม่ทัพฉางหนิง!”
เยียนเฉิงเอ่ยนามนั้นซ้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงชิงชังเข้ากระดูก
“ในเมื่อเขาไม่เห็นข้าเป็นบุตรชาย เหตุใดข้าจะทำเพื่ออนาคตตนเองไม่ได้ เขาน่าจะตายเสียตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ ยังมีเจ้าอีกคน! ที่ข้าต้องมีวันนี้ก็เพราะเจ้า! หากโลกนี้ไม่มีเจ้าสักคน หากสมัยเด็กๆ เจ้าไม่มาอยู่บ้านข้า ชีวิตข้าจะตกต่ำเช่นวันนี้หรือ
ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้า! ธิดาหมาป่าตัวอัปมงคล! เจ้ามีแต่นำเคราะห์ร้ายมาให้คนรอบตัว เจ้าทำให้แม่แท้ๆ ของตนเองต้องตาย ทำให้น้าชายตนเองต้องตาย ตอนนี้ยังมาทำให้ข้าต้องตายอีกคน นึกหรือว่าจะจบลงแค่นี้ ข้าจะบอกอะไรให้ นี่มันยังห่างไกลสิ่งที่เจ้าวาดหวังนัก”
เขามองเจียงหานหยวนด้วยแววตาโกรธเกลียดที่ไม่จำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไป รอยยิ้มรื่นรมย์ที่แสนเหี้ยมเกรียมผุดขึ้นบนริมฝีปาก
“…คนรอบตัวเจ้าทุกคนที่มีความเกี่ยวข้องกับเจ้า ทั้งพ่อเจ้า อ้อ ใช่ แล้วยังอ๋องผู้สำเร็จราชการคนนั้นอีก ไม่มีสักคนที่จะโชคดีรอดพ้นไปได้…”
เสียงพูดของเด็กหนุ่มสะดุดลงเพียงเท่านั้น
เจียงหานหยวนชักกระบี่ออกมาแทงตรงไปข้างหน้า ปักเข้ากลางอกอีกฝ่าย
แม้จะมีสีหน้าเจ็บปวดทรมาน เยียนเฉิงก็ยังกระเสือกกระสนกัดฟันเอ่ยคำพูดประโยคสุดท้ายออกมาทั้งที่เนื้อตัวสั่นระริก
“พี่สาว…เจ้า…มันเป็นตัวอัปมงคลตั้งแต่เกิด…”
หญิงสาวนัยน์ตาแดงฉาน สีหน้าเย็นเยียบ
นางยืนหลุบตามองเยียนเฉิงที่ชักกระตุกอยู่ใต้คมกระบี่ตนอย่างเย็นชา แล้วออกแรงเสือกกระบี่เล่มยาวไปข้างหน้าอีกครั้ง
กระบี่แทงผ่านอกทะลุออกข้างหลัง
สุดท้ายนางดึงกระบี่ออกมาถือ ปลายกระบี่ทิ่มลงข้างล่าง ปล่อยให้เลือดไหลไปตามคมกระบี่แล้วร่วงพรูลงสู่พื้นดินตรงปลายเท้าไม่หยุด
นางยืนนิ่งๆ อย่างนั้น มองเยียนเฉิงค่อยๆ หยุดดิ้นจนขาดใจตายสนิท ถึงค่อยหมุนตัวเดินลิ่วๆ ออกมา
ฝีเท้าหนักอึ้งและหน่วงช้าในตอนแรก
เบื้องหน้าปรากฏภาพขึ้น เป็นภาพของมารดาในจินตนาการ ภาพมือเล็กนุ่มนิ่มของทารกหญิงบุตรสาวนายกองควันสัญญาณที่จับปลายนิ้วนางไว้ ภาพใบหน้ายิ้มแย้มที่ไม่เคยลบเลือนไปของน้าชาย ภาพแผ่นหลังว้าเหว่ทว่ายืนหยัดของบิดา
แล้วยังเขา…บุรุษผู้นั่งเด่นสง่าในท้องพระโรง กำลังแหวกคลื่นฝ่าลมช่วยคุ้มกันคนเช่นนาง…
ขอเพียงเขายังไว้เนื้อเชื่อใจ นางก็ขอตั้งสัตย์ว่าจะไม่มีวันทำให้เขาผิดหวัง
ฝีเท้าย่างก้าวเร็วขึ้นเรื่อยๆ และมั่นคงขึ้นทุกที
เยียนเฉิงผิดเสียแล้ว แม้จนลมหายใจสุดท้ายก็ยังเอาแต่จมปลักอยู่กับความหมองเศร้าในวัยเด็ก ไม่ยอมเติบโตขึ้นเลย
นางไม่ใช่ตัวอัปมงคลแต่อย่างใด เป็นสงครามต่างหากที่สร้างหายนะ
สิ่งที่เจียงหานหยวนผู้นี้จะทำคือปิดฉากสงคราม คืนความผาสุกให้แผ่นดิน ให้ใต้หล้าไม่ต้องมีสงครามรบพุ่งอีก!
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 19 ก.ย. 67