บทที่ 93
ที่ฉางอัน ม่านราตรีโรยตัวลงแล้ว
สายลมรำเพยเข้ามาทางหน้าต่างห้องหนังสือ พัดเปลวเทียนให้เต้นไหว ทาบแสงวูบวาบลงบนรายงานหลายฉบับที่วางอยู่บนโต๊ะ
ฉบับแรกซู่เซิ่นฮุยได้รับก่อนฉบับอื่น เป็นข่าวชัยชนะอันหมดจดงดงามของทัพกลาง เจียงหานหยวนกับแม่ทัพสูงวัยทำงานเข้าขากันได้อย่างยอดเยี่ยม ทำลายการคุมเชิงที่เป็นดั่งปราการหินลงได้ เข้าควบคุมมณฑลเยียนโจวสำเร็จ
ตอนได้รับรายงานแจ้งชัยชนะนี้ ซู่เซิ่นฮุยภาคภูมิใจอย่างไร้ที่เปรียบ
เขาไม่อาจไปที่สมรภูมิด้วยตนเอง และยิ่งไม่มีวาสนาจะได้ทำศึกเคียงบ่าเคียงไหล่ ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับนางกลางสนามรบ แต่แม้ตัวจะอยู่ในเมืองหลวง มีกำแพงรายล้อม เพียงแค่หลับตาลงเขาก็ยังสามารถนึกภาพนางถือกระบี่ควบขี่อาชาอย่างองอาจหาใครเสมอเหมือนได้อย่างแจ่มชัด ราวกับว่าเห็นมาเองกับตา
หญิงสาวทำให้เขารู้สึกเป็นเกียรติเหลือล้น นางกำลังทำสิ่งที่คิดให้กลายเป็นความจริง และนำความปีติอันหาที่สุดมิได้มาให้เขา จนเขาได้ตระหนักว่าทุกอย่างที่ทำไปนั้นคุ้มค่า
ทว่ายังไม่ทันได้ละเลียดความอิ่มเอมอันละเอียดอ่อนลึกซึ้งในหัวใจให้มากกว่านี้ รายงานฉบับที่สองก็ส่งมายังฉางอันติดๆ
อวิ๋นลั่วหักหลังต้าเว่ย ด่านซีกวนอยู่ในภาวะคับขัน
ราชสำนักทุ่มกำลังทหารมากมายไปกับด่านซีกวนและนึกว่าที่นั่นแข็งแกร่งมั่นคงดุจปราการโลหะน้ำแกง ทว่าทุกอย่างกลับพังทลายในชั่วข้ามคืน
เรื่องนี้หมายถึงอะไรเล่า ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นย่อมรุนแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
คนทั้งราชสำนักตื่นตระหนกไปตามๆ กัน เจียงจู่วั่งตกเป็นจำเลยคนแรก เสียงแสดงความเคลือบแคลงและเสียงเอาผิดแม่ทัพใหญ่ดังกระหึ่มไปทั่ว เรื่อง ‘วิกฤตฉางอัน’ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันหนาหู
เรื่องนี้ไม่ได้อยู่แต่ในราชสำนัก ยังสะพัดออกไปนอกวังหลวงด้วย ชาวบ้านร้านตลาดโจษจันกันตั้งแต่หัวถนนยันท้ายถนน ผ่านไปไม่นานก็มีข่าวลือว่าด่านซีกวนแตกแล้ว ทัพใหญ่ของเป่ยตี๋กำลังยาตรามาประชิดด่านเซียวกวนอันเป็นประตูใหญ่ทางเหนือของฉางอัน ด่านเซียวกวนเตรียมรับศึกไม่ทัน เวลานี้ใกล้ถูกตีแตกเต็มที ทหารม้าเป่ยตี๋ที่ฆ่าคนเป็นผักปลากำลังจะลงใต้มาถึงฉางอันแล้ว
ข่าวลือแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว ว่ากันว่าเป็นเพราะแรกสุดมีคนเห็นต้าจ่างกงจู่แอบย้ายออกจากสวนกวางซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองหลวงอย่างเงียบเชียบ การกระทำนี้เหมือนจุดชนวน ตระกูลชนชั้นสูงที่อยู่ใกล้เคียงพากันเลียนแบบ ต่างเก็บทรัพย์สินของมีค่าในบ้านขนขึ้นรถม้าเตรียมหนีออกจากฉางอัน ยิ่งตอกย้ำว่าข่าวลือเป็นความจริง ผ่านไปไม่กี่วันทางออกจากเมืองก็เนืองแน่นด้วยรถม้าจนสัญจรไม่ได้ หลังจากนั้นแม้แต่สามัญชนเล็กๆ ยังใช้ชีวิตไม่เป็นสุข เที่ยวสืบถามข่าวคราวไปทั่ว ภายหลังกองทหารประตูนภากาศออกโรงปฏิเสธข่าวลือและสั่งห้ามออกจากเมืองอย่างเฉียบขาด ถึงจะพอระงับการกระจายข่าวลงได้ แต่ทุกคนในเมืองก็ยังอยู่กันอย่างอกสั่นขวัญผวา
หลังจากนั้นรายงานฉบับที่สาม ฉบับที่สี่ และฉบับอื่นๆ ที่เกี่ยวกับความคืบหน้าของการศึกก็ปลิวว่อนสู่ฉางอันราวกับเกล็ดหิมะ
เจียงจู่วั่งตัดสินใจอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด ใช้แผนการที่เหมาะสมที่สุดเท่าที่ตำแหน่งของตนจะอำนวยมารับมือ และผลที่ตามมาก็ช่วยพิสูจน์ว่ากลยุทธ์เหล่านั้นทันท่วงทีและได้ผล
เจียงหานหยวนปราบปรามความไม่สงบในอวิ๋นลั่ว คลี่คลายวิกฤต พาด่านซีกวนกลับมาสู่มือต้าเว่ยอีกครั้ง
เสียงโจษจันเรื่องวิกฤตฉางอันจึงเงียบลงได้เสียที ทว่าก็ไม่ได้มีความหมายแต่อย่างใด
นี่เป็นเพียงการชดเชยเท่านั้น เป็นการชดเชยที่พวกเขาต้องทำ ไม่ได้ทำให้โทษทัณฑ์ที่พวกเขาต้องรับลดลงเลยสักนิด
ผลกระทบทางลบที่อวิ๋นลั่วหักหลังต้าเว่ยจนสร้างความเสียหายมากมายถึงเพียงนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ