แรกสุดปลายหอกชี้ไปหาเจียงจู่วั่ง เขาซึ่งเป็นผู้บัญชาการสูงสุดต้องรับผิดชอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทว่าไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่ภายหลังปลายหอกค่อยๆ เบนไปหาอ๋องผู้สำเร็จราชการคนปัจจุบันอย่างเงียบเชียบ
ตอนนั้นอ๋องผู้สำเร็จราชการไม่ฟังเสียงทัดทานของขุนนางผู้ใหญ่ ยืนกรานจะแต่งตั้งเจียงจู่วั่งมารับหน้าที่สำคัญ ให้ยาตราทัพออกจากเยี่ยนเหมิน ถึงได้เกิดผลเสียเลวร้ายเช่นนี้ตามมาอย่างยากจะลบล้าง
ความคิดนี้ไม่เพียงคุกรุ่นอยู่ในราชสำนักเงียบๆ ยังกระจายออกไปข้างนอกด้วยเช่นกัน
มิหนำซ้ำเทียบกับขุนนางในราชสำนักที่เก็บปากเก็บคำ ไม่มีใครกล้าออกเสียงติติงเขาตรงๆ คำวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องเดียวกันกลับทำได้อย่างไม่ต้องพะวักพะวนเมื่ออยู่ข้างนอก
หากบอกว่าแต่ก่อนราษฎรทั้งแผ่นดินเห็นเขาเป็นเสมือนกระดูกต้นแขนของอดีตฮ่องเต้ เป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการที่ช่วยประคับประคองค้ำจุนฮ่องเต้น้อยได้อย่างสมบูรณ์ไร้ที่ติ บัดนี้เขาเหมือนร่วงตกลงมาจากแท่นบูชาก็ไม่ปาน
ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบในการใช้ชีวิตเพราะอวิ๋นลั่วทรยศต้าเว่ยล้วนยังหวาดหวั่นพรั่นพรึงไม่หาย อารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่ในใจจำต้องมีที่ระบาย…และอาจเป็นไปได้ว่ามีคนคอยชักจูงอยู่เบื้องหลัง…เสียงของราษฎรจึงกระจายตัวอย่างรวดเร็วแล้วเกิดปะทุขึ้นจนระเบิดออกมา
ในเวลาอันสั้นซู่เซิ่นฮุยได้กลายเป็นที่ระบายความโกรธแค้น ไม่ใช่ขุนนางใหญ่ที่ได้รับฝากฝังจากอดีตฮ่องเต้อีกต่อไปแล้ว แต่ก่อนผู้คนมองว่าเขาประเสริฐดีงามมากเท่าไร ตอนนี้ก็มองเป็นคนใจคดลุ่มลึกอ่านยากมากเท่านั้น ราษฎรที่เคยเคารพเลื่อมใสเขา ชื่นชมเขาไม่ขาดปาก มองเขาเป็นเทพเจ้าด้วยซ้ำ มาตอนนี้ต่างพากันปลงอนิจจังว่าคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ
ลองว่าใช้มือผลักเทวรูปลงมาได้ ใช้เท้ากระทืบซ้ำจะยากอะไรเล่า
รัศมีที่เรืองรองอยู่รอบศีรษะเขาหายไปแล้ว เขากลายเป็นขุนนางสำคัญที่มีอำนาจเกินขอบเขตทั้งในและนอกราชสำนัก เจ้าเล่ห์มากเหลี่ยมช่างวางแผน ทรยศต่อความไว้วางใจที่อดีตฮ่องเต้มีให้ หมวก ‘พระพุทธองค์ใจคด’ ถูกสวมลงบนศีรษะเขาอย่างแน่นหนา คำถามที่ว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงยืนกรานจะเปิดศึกให้ได้โดยไม่ฟังเสียงทัดทาน บัดนี้จุดประสงค์ที่อยู่เบื้องหลังก็กระจ่างชัดขึ้นมาอย่างไม่อาจปิดบังอำพรางได้อีกต่อไป
ลือกันว่าเขาอยากก้าวขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดของยอดอำนาจ ขาดแค่เพียงก้าวสุดท้ายเท่านั้น และสงครามครั้งนี้ก็เป็นหินก้อนสุดท้ายในแผนการที่เขาจะเหยียบย่างขึ้นไปสู่เป้าหมาย ที่ด่านซีกวนเกิดความวุ่นวายก็เพราะสวรรค์เบื้องบนต้องการจะหยุดยั้งเขา คนก่อกรรมทำเข็ญคือเขา แต่ผู้คนทั้งใต้หล้าต้องพลอยรับเคราะห์ไปด้วย
เพราะเหตุนี้การคาดเดาต่างๆ นานาที่ชาวบ้านมีต่อการย้ายตำแหน่งของดวงดาวและเหตุแผ่นดินไหวก่อนหน้าจึงเริ่มหวนกลับมาใหม่
แม้จะปรากฏนิมิตมงคลขึ้นในสุสานหลวงขององค์เกาจู่ ยืนยันว่าฮ่องเต้น้อยองค์ปัจจุบันเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์อันชอบธรรมที่สวรรค์กำหนดมา เช่นนั้นปรากฏการณ์อย่างดาวหางบนฟากฟ้าฝั่งตะวันตกและดาวอิ๋งฮั่วครอบงำกลุ่มดาวหัวใจที่เป็นลางบอกเหตุว่าจะเกิดเคราะห์ร้ายขึ้นกับฮ่องเต้ก็ย่อมเป็นเครื่องยืนยันว่าฮ่องเต้น้อยมีภัยร้ายอยู่ใกล้ตัว
แล้วใครกันเล่าที่เป็นภัยร้าย
รู้ๆ กันอยู่…
ลือกันไปเรื่อยๆ ฮ่องเต้น้อยในวังหลวงที่แต่เดิมถูกผู้คนติฉิน คาดหวังจะเห็นเขาลงจากบัลลังก์ให้ผู้ที่เหมาะสมกว่าขึ้นนั่งแทนที่ บัดนี้กลับกลายเป็นหุ่นเชิดน่าสงสารที่ไร้อิสระในชีวิต
กล่าวกันว่าเขาถูกบังคับและกดดันจากอ๋องผู้สำเร็จราชการ ทุกคำพูด ทุกการกระทำหาได้เกิดจากความต้องการของตัวเขาเอง รวมทั้งสงครามทางเหนือที่ล้างผลาญทรัพย์สินแผ่นดินและสร้างความลำบากให้ราษฎรก็ไม่ใช่ความต้องการของเขาเช่นกัน
ขุนนางทั้งราชสำนักถูกกดข่มอยู่ใต้อำนาจอ๋องผู้สำเร็จราชการ ไม่มีใครกล้าแข็งข้อ
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงข่าวลือในหมู่ชาวบ้านร้านตลาดนอกวังหลวงเท่านั้น
ขุนนางใหญ่และเจ้าหน้าที่ในราชสำนักย่อมไม่เหมือนราษฎรทั่วไปที่หูตาคับแคบ ทำตัวเป็นคนตาบอดคลำช้าง ว่าอะไรว่าตามกัน ถูกจูงจมูกได้ง่าย
ทว่าเรื่องมาถึงขั้นนี้ แม้ภายนอกอ๋องผู้สำเร็จราชการกับฮ่องเต้น้อยจะดูสมัครสมานกลมเกลียวกันเหมือนเก่า แต่ความจริงแล้วระยะห่างระหว่างทั้งคู่ที่เพิ่มมากขึ้นทุกวันก็ยังเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาทุกคน
ในช่วงที่ผ่านมาเหตุพลิกผันที่ด่านซีกวนทำให้เหล่าขุนนางใหญ่ที่แต่เดิมยืนกรานให้เปิดศึก เช่น ฟางชิง หรือแม้กระทั่งเสียนอ๋อง ล้วนเจอเสียงตั้งข้อสงสัยและกล่าวโทษจนต้องเงียบไปอย่างช่วยไม่ได้
แตกต่างกันอย่างชัดเจนกับพวกที่ปิดปากเงียบก่อนเปิดศึก เวลานี้ได้ก้าวออกมาเคลื่อนไหว ลอบวิ่งหาเสียงสนับสนุนอีกครั้ง
ยังมีขุนนางอีกกลุ่มหนึ่งที่เดิมทีไม่ประสงค์จะก้าวออกมา…หรือต้องบอกว่าไม่กล้าก้าวออกมา เช่น กลุ่มขุนนางที่มีราชครูติงเป็นตัวแทน แต่สุดท้ายก็ถูกลากเข้าไปมีเอี่ยวด้วยจนได้ คนกลุ่มนี้ล้วนแต่กลัดกลุ้มและกระสับกระส่ายไปตามๆ กัน
เวลานี้ปัญหาที่ว่าควรยืนข้างใดกันแน่อยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง กลายเป็นคำถามใหญ่ที่พวกเขาต้องตัดสินใจ
ท่ามกลางคลื่นใต้น้ำที่ไหลเร็วรี่ บรรยากาศเช่นนี้เขม็งเกลียวถึงจุดสูงสุดเมื่อสามวันก่อน
สามวันที่แล้วราชสำนักได้รับรายงานฉบับล่าสุดจากเยี่ยนเหมิน