ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 95-96 – หน้า 7 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 95-96

พูดจบก็หมอบกรานลงไปอีกครั้ง ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา ผ่านไปครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงหลี่ไท่เฟยพยายามเกลี้ยกล่อมอย่างร้อนรน แต่ไม่ได้ยินฮ่องเต้น้อยพูดอะไรอีก เขาเหลือบตาขึ้นมอง เห็นเด็กหนุ่มตรงหน้าเอาแต่แหงนหน้ามองไปข้างบน คล้ายกำลังจับจ้องสิ่งหนึ่งอย่างใจจดใจจ่อ พอลองเอี้ยวหน้ามองตามก็พบว่าสิ่งนั้นคือตัวชือเหวิ่นสูงใหญ่ทำจากแก้วที่ยืนตระหง่านอยู่บนยอดหลังคา

มองขึ้นไปจากมุมนี้ ชือเหวิ่นเชิดเศียรตั้งตรงเสียดเมฆ หลุบตามองสรรพชีวิตเบื้องล่างอย่างผู้อยู่เหนือกว่า

เขาไม่เข้าใจท่าทีฮ่องเต้น้อย และไม่กล้าพูดอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า ทำได้เพียงก้มหน้าลงอีกครั้ง คาดเดาไม่ได้เลยว่าเด็กหนุ่มมีจุดประสงค์ใดกันแน่ ยิ่งเห็นจย่าซิวจ้องมองตนเองก็ยิ่งร้อนรนจนไม่กล้าขยับตัว ระหว่างไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีนั้น เสียงเดิมก็พลันดังเข้าหูเป็นครั้งที่สอง

“ให้คนของเจ้าประสานกับหลันหรงควบคุมกองทหารประตูนภากาศ สกัดเฉินหลุนไว้นอกวังหลวง วันนี้หลังเลิกประชุมราชสำนักเราจะรั้งตัวอ๋องผู้สำเร็จราชการไว้เอง”

เด็กหนุ่มบอกเรียบๆ แล้วหมุนตัวเดินจากไปโดยมีจย่าซิวตามหลัง

เกาเฮ่อได้สติหลุดจากภวังค์ หัวใจเต้นรัวแรงอยู่ในอก ยินดีเจียนคลั่ง

เขาเข้าใจแล้ว! ในที่สุดฮ่องเต้น้อยก็ตัดสินใจได้เสียที!

การศึกทางเหนือยังมองไม่ออกว่าจะจบลงอย่างไร ด้วยความเจ้าเล่ห์ของซู่เซิ่นฮุย ไม่มีทางที่เจ้าตัวจะงัดข้อกับฮ่องเต้น้อยต่อหน้าขุนนางในการประชุมราชสำนัก เว้นเสียแต่จะไม่กลัวตกเป็นที่ติฉินของผู้คนทั้งใต้หล้าเท่านั้น ถึงจะแข็งข้อใส่อย่างเปิดเผย…หากจะทำเช่นนั้นจริง ซู่เซิ่นฮุยคงไม่ต้องเปลืองแรงวางแผนสงครามใหญ่ชายแดนเหนือครั้งนี้ขึ้นมา อีกประการหนึ่งในตำหนักยังมีจย่าซิวนำคนจับตาเฝ้าดูอยู่ ชายหนุ่มทำอะไรโฉ่งฉ่างในการประชุมเช้านี้ไม่ได้แน่ ต่อให้อยากตอบโต้เขาก็ต้องรอให้ประชุมเสร็จก่อน

เห็นทีอีกฝ่ายคงกระเสี้ยนกระสันอยากดันหญิงสกุลเจียงขึ้นรั้งตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่เต็มแก่ ถึงได้เข้าประชุมราชสำนักตามแผนการเดิม

สำหรับพวกเขาการควบคุมความเคลื่อนไหวของเฉินหลุนคือกุญแจสำคัญของเรื่องนี้

ซู่เซิ่นฮุยคงคิดไม่ถึงเป็นแน่ว่าฮ่องเต้น้อยจะเคลื่อนไหวเร็วกว่าก้าวหนึ่ง วันนี้หลังเลิกประชุม รอจนขุนนางออกไปแล้ว ฮ่องเต้น้อยจะฆ่าเจ้าตัวกลางตำหนักอย่างนั้นหรือ

แต่พริบตาเดียวเกาเฮ่อก็ปฏิเสธการคาดเดานี้ หากเขาเป็นฮ่องเต้น้อย สิ่งที่เขาต้องทำมีเพียงชิงอำนาจกลับมาแล้วจับอีกฝ่ายขัง ละเว้นชีวิตไว้ เพื่อใช้เป็นตัวควบคุมกองทัพที่เยี่ยนเหมินต่อไป รอให้เสร็จสงครามและดึงอำนาจทางการทหารกลับคืนมาก่อน เมื่อถึงเวลานั้นแค่พูดคำเดียวก็สามารถชี้เป็นชี้ตายซู่เซิ่นฮุยได้อยู่แล้ว

“น้อมรับพระบัญชา!”

เกาเฮ่อโขกศีรษะให้แผ่นหลังที่คล้อยห่างออกไป รู้สึกสงบใจได้เสียที

ซู่เจี่ยนเดินไปตามทางที่มุ่งหน้าสู่ตำหนักใหญ่ ฝ่าเท้าโหวงหวิวเหมือนย่างย่ำอยู่บนเมฆ

เช้าตรู่วันนี้เขากลับจากประตูทักษิณมาที่ตำหนักบรรทมด้วยความรู้สึกมึนตื้อ พอได้ยินเสียงย่ำกลองเรียกเข้าประชุมลอยแว่วมาจากทางตำหนักเซวียนเจิ้งก็อยากปิดประตูตำหนักให้แน่นแล้วไม่ออกไปข้างนอกอีกเลย จะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับเสด็จอาสามของตนไปชั่วชีวิต

ทว่าเสียงกลองเรียกประชุมที่สร้างความพรั่นพรึงให้เขายังคงดังไม่หยุด

เมื่อข้าราชบริพารนำความมาบอกเป็นครั้งที่สามว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการและเหล่าขุนนางรอฮ่องเต้เสด็จออกว่าราชการอยู่ในตำหนักเซวียนเจิ้ง เขาก็ค่อยๆ กลับมามีสติโดยสมบูรณ์

เรื่องราวลุกลามมาถึงขั้นนี้ เขาหนีไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

นี่เป็นทางตันที่เขาต้องเผชิญหน้าตรงๆ

เมื่อก่อนหากมีคนบอกเขาว่าสักวันจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เขาจะต้องแค่นหัวเราะเสียงขึ้นจมูกใส่ แล้วตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่าหากเสด็จอาสามของเขาอยากได้ราชบัลลังก์ เขาจะรีบยกให้ด้วยความยินดีเลยทีเดียว

แต่ตอนนี้เขาทำไม่ได้

เขาไม่อาจทำได้

เขาไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดตนเองถึงได้เดินมาถึงจุดนี้

เขาออกคำสั่งให้จัดการคนที่เคยไว้ใจที่สุดด้วยตนเอง

เรื่องทั้งหมดดูเหลวไหลเหลือเชื่อ ไม่ควรเกิดขึ้นได้จริง เหมือนเป็นฝันร้ายอย่างนั้น

คิดแล้วก็แค้นใจนัก แค้นเสด็จพ่อที่แม้ตายไปก็ยังไม่ยอมปล่อยให้เขาอยู่อย่างเป็นสุข แค้นหลี่ไท่เฟยที่ยังมีชีวิตอยู่ แค้นเกาเฮ่อกับหลันหรง แค้นทุกคนที่ผลักเขามาอยู่ในหุบเหวที่ไม่อาจหวนกลับ

หากไม่มีคนเหล่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะยังเป็นเหมือนที่ผ่านมา

ทุกคนรวมหัวกันพาเขามายืนตรงหุบเหวอย่างไม่มีวันย้อนกลับไปได้

ภายภาคหน้าเขาจะไม่มีวันปล่อยคนเหล่านั้นไปเด็ดขาด

ซู่เจี่ยนหยุดยืนบนถนนกลางวังหลวง เหลือบตาแดงก่ำของตนขึ้นมองผ่านสายม่านมุกที่ห้อยบังหน้าผากไปยังยอดหลังคาสูงตระหง่านของตำหนักใหญ่ที่อาบแสงอรุณอยู่เบื้องหน้าพลางคิดในใจอย่างเย็นชา

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 1-2

บทที่ 1 อาจเป็นเพราะสภาพอากาศขมุกขมัวหนาวเย็นยาวนานถึงครึ่งปี ทำให้เครื่องหอมเป็นที่โปรดปรานของชาวต้าเว่ย ได้เติมเครื่อง...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 66-67

บทที่ 66 ผืนฟ้าเหนือฉางอันมืดลง ม่านราตรีคลี่คลุมอีกครั้ง เสียงย่ำกลองแจ้งเวลาวิกาลลอยมาจากหอกลอง หลังกำแพงสูงตระหง่านขอ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 62-63

บทที่ 62 เพียงตวัดตามอง สีหน้าของซู่เซิ่นฮุยก็เคร่งเครียดขึ้นทันที เขาหมุนตัวเดินกลับเข้ามาข้างในแล้วแกะตราครั่งภายใต้แส...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 64-65

บทที่ 64 จวงไท่เฟยหลบร้อนมาพักอยู่บนเขาเซิ่งซานทางตอนเหนือของเมือง วันนี้ซู่เซิ่นฮุยขี่ม้าออกจากที่พักตั้งแต่ฟ้ายังไม่สา...

community.jamsai.com