ทว่านับแต่ยามเช้าของวันที่ออกจากเรือนสกุลเซี่ย ราวกับว่าธิดาอ๋องไม่ต้องการการปกป้องจากนางแล้ว
และนางกระจ่างแจ้งเช่นกันว่าตนเองก็ไร้กำลังไปปกป้อง
แม่นมมู่สบสายตาของชายหนุ่มที่มองมายังตนเอง ความรู้สึกทุกข์ใจแกมกระวนกระวายพลุ่งขึ้นกลางอกระลอกหนึ่ง
นางสงบอารมณ์ก่อนจะขานบอกเข้าไปในห้องเสียงดังว่า “ท่านเขยมาแล้วเจ้าค่ะ”
ถึงจะถอยหลังสองสามก้าว
เซี่ยฉางเกิงยกมือผลักบานประตูที่แง้มไว้ตรงหน้าบานนั้น ย่างเท้าก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไป
ข้างในอุ่นสบาย แสงไฟสว่างไสว ตรงมุมห้องด้านนอกมีของตั้งประดับส่งกลิ่นหอมทั้งสองฝั่ง มุมซ้ายเป็นเตากำยานพ่นควันลอยอ้อยอิ่ง มุมซ้ายเป็นแจกันหยกเสียบดอกเหมยเดือนสิบสอง* ไว้กิ่งหนึ่ง
กลิ่นเครื่องหอมกับกลิ่นหอมอ่อนของดอกเหมยผสมกันชวนให้สดชื่นปลอดโปร่งใจลอยมาปะทะหน้า
เซี่ยฉางเกิงหยุดยืนข้างประตูชั่วครู่ ยังคงไม่ได้ยินสุ้มเสียงผู้ใด
เขาเบือนหน้าทอดสายตาข้ามซุ้มประตูโค้งที่แบ่งกั้นห้องเป็นสองส่วนเบื้องหน้าเข้าไปด้านใน
ในนั้นแขวนม่านสีน้ำตาลแดงคลี่ลงปิดฝั่งหนึ่ง บดบังห้องด้านในไว้ให้เห็นได้เพียงเลือนรางรำไร
ยังไม่เห็นวี่แววใครดุจเก่า มีแต่แสงเทียนสลัวๆ ดวงหนึ่งเต้นระริกอยู่หลังม่านละม้ายเชิญชวนให้เขาเข้าไป
เซี่ยฉางเกิงสาวเท้าเดินไปหน้าม่าน ยกมือแหวกออกตั้งท่าจะเข้าไป แต่แล้วเขาพลันชะงักฝีเท้าหยุดยืนนิ่งเป็นคำรบที่สอง
นี่เป็นห้องส่วนตัวของสตรีที่ตกแต่งประดับประดาอย่างสุดแสนวิจิตรประณีต
ด้านตรงข้ามกับเตียงมีตั่งคนงามปูลาดด้วยพรมขนสัตว์สีขาวราวหิมะตั้งอยู่ตัวหนึ่ง ด้านข้างวางโคมเงินไว้หนึ่งดวง
สตรีนางหนึ่งรูปโฉมปานหยกสลัก ข้อมือขาวนวลดุจน้ำค้างแข็ง นางกึ่งนั่งกึ่งเอนหลังบนตั่งคนงาม ถือหนังสือในมือพลิกอ่านอย่างสบายอารมณ์อยู่ใต้แสงโคม
รูปโฉมภายนอกของนางแลดูเป็นสาวน้อยวัยสิบห้าสิบหก แต่แต่งกายแบบสตรีออกเรือนแล้ว คล้องผ้าต่วนบางเบาผืนหนึ่งไว้หลวมๆ ตรงข้อพับแขน สวมกระโปรงรัดเอวสีแดงทับทิม เกล้าผมเป็นมวยหลวมๆ ปักปิ่นทองที่ตกห้อยลงคล้ายรับน้ำหนักไม่ไหว เรือนผมยาวสลวยดำขลับบางส่วนก็ทิ้งตัวลงปรกข้างลำคอระหง
คลับคล้ายนางไม่สังเกตเห็นว่าเซี่ยฉางเกิงมาเยือน กระทั่งเขาแหวกม่านเปิดยืนอยู่ข้างซุ้มประตูโค้งก็ไม่มีอาการตอบสนองใดๆ ไม่แม้แต่ช้อนตาขึ้นมองเขาสักแวบหนึ่ง
นางเพียงพลิกหนังสือหน้าถัดไป กำไลสองวงบนข้อมือก็กระทบกันเบาๆ ตามแรงขยับ บังเกิดเสียงกรุกกริกเสนาะหู
เซี่ยฉางเกิงไม่คาดคิดว่าตนจะได้พบกับการต้อนรับนี้ และยิ่งคาดไม่ถึงว่ามู่ฝูหลันจะอยู่ในอากัปกิริยาเช่นนี้
สายตาของเขาเลื่อนจากใบหน้าของนางไล่ลงไปตามร่างกายแล้วหยุดที่เท้าของนางในที่สุด
สองเท้าของนางโผล่พ้นชายกระโปรงสีทับทิมออกมา