หลังจากที่คนชุดดำตะลึงพรึงเพริด ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรก็อุ้มศพสตรีที่เป็นหัวหน้าใหญ่แห่งค่ายอูเจียงแล้ววิ่งหนีไป
มาขโมยศพอีกคนแล้ว
ฉู่เหิงจือถอนใจ เขารู้สึกกังวลอยู่บ้าง ทว่าฝีเท้ากลับไม่ช้าลงสักนิด ตามอีกฝ่ายไปติดๆ ราวกับลมพายุ
กวนอวิ๋นซีระเบิดอารมณ์ทันใด ถึงกับมีคนกล้ามาขโมยร่างนาง? ถึงจะเป็นร่างที่มีบาดแผลพรุนไปทั่วตัว แต่นั่นก็ศพของนางนะ! นางจะทนเห็นตนเองที่ตายแล้วยังไม่สงบสุขได้หรือ นางรีบตามหลังฉู่เหิงจือไปทันที
นางก่นด่าอยู่ในใจ ถ้านางรู้ว่าคนที่มาขโมยร่างนางเป็นใคร นางจะซัดอีกฝ่ายจนสะบักสะบอม เปลื้องผ้าให้หมดแล้วแขวนอยู่ที่หน้าประตูหอนางโลมให้ผู้คนได้ชื่นชมพลางชี้ไม้ชี้มือ
เห็นชัดว่าฝ่ายตรงข้ามเตรียมการมาเป็นอย่างดีซ้ำยังมีคนรับช่วงต่อ อีกคนสกัดฉู่เหิงจือไว้แล้วต่อสู้ฟาดฟันกับเขา
ครั้นกวนอวิ๋นซีตามมาถึงก็เห็นภาพที่ฉู่เหิงจือฟาดฟันกับคนชุดดำอย่างดุเดือด ส่วนคนชุดดำอีกคนก็กำลังอุ้มร่างนางวิ่งหนีไปอีกทาง นางรีบก้าวขาวิ่งตามไปทันที
แม้วิชาตัวเบาของนางจะเหลือเพียงแค่เจ็ดส่วนจากของเดิม ทว่าอีกฝ่ายแบกร่างของนางทำให้ฝีเท้าช้าลง ดังนั้นนางจึงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ กระโจนตัวไปไม่กี่ครั้งก็ตามคนผู้นั้นจนทัน
นางยกเท้าถีบหลังของอีกฝ่ายอย่างไร้ปรานีทำให้กำลังภายในของอีกฝ่ายติดขัดแล้วตกลงมาจากกลางเวหา
กวนอวิ๋นซีร่ำร้องในใจว่าแย่แล้ว นางลืมไปว่าร่างของตนเองยังอยู่ในกำมือของฝ่ายตรงข้าม ร่วงลงไปเช่นนี้เกรงว่าร่างนั้นคงแหลกไม่เป็นชิ้นดี เป็นศพที่ไม่ครบสามสิบสอง
นางกำลังนึกโมโหอยู่ แต่กลับพบว่าก่อนที่จะร่วงลงถึงพื้นคนชุดดำคนนั้นก็กอดร่างนางแน่นไม่ยอมปล่อย ทั้งยังใช้ร่างของตัวเองรองรับร่างนางไว้ยามที่ตกถึงพื้น เขาถึงกับยอมแลกชีวิตเพื่อปกป้องร่างนาง
กวนอวิ๋นซีร่อนลงสู่พื้นอย่างปลอดภัย นางจ้องคนชุดดำอย่างอึ้งๆ จู่ๆ ก็รู้สึกคุ้นหน้าเป็นอย่างยิ่ง เห็นว่าฝ่ายตรงข้ามลุกขึ้นมาโดยเร็ว เขาจ้องนางอย่างระแวดระวังแล้วยังไม่ลืมปกป้องร่างนั้นราวสิ่งล้ำค่าคล้ายกลัวนางจะขโมยไป
เนื่องจากทั้งคู่ต่างปิดบังใบหน้าดังนั้นจึงไม่เห็นหน้าตาของอีกฝ่าย เบาะแสเดียวที่เหลือคือดวงตา กวนอวิ๋นซีจ้องอีกฝ่ายนิ่งแล้วหยั่งเชิงเรียกชื่อเขา
“อาไฉ?”
ครั้นอีกฝ่ายได้ยินเสียงเรียกจากนางก็เบิกตากว้าง เพราะอาไฉคือชื่อเล่นของเขา บนโลกนี้คนที่จะเรียกเขาเช่นนี้มีเพียงสองคนคือหัวหน้าใหญ่และหัวหน้ารอง
“เจ้าคือไฉหลางจริงหรือ”
มีเพียงหัวหน้าใหญ่ที่เรียกเขาว่าไฉหลาง เขาเบิกตากว้างราวเห็นผี
“เจ้าเป็นใคร”
เป็นเสียงของน้องสาม เป็นเขาจริงๆ ด้วย! กวนอวิ๋นซีเบิกบานใจยิ่งนัก
“ฮา! ที่แท้ก็เป็นเจ้า ไยไม่บอกข้าแต่แรก”
กวนอวิ๋นซีประหลาดใจระคนดีใจ และในขณะเดียวกันก็กระจ่างแจ้ง น้องสามมาเพื่อเก็บศพให้นาง เช่นนั้นนางก็รู้แล้วว่าคนชุดดำอีกคนคือใคร
“มีเพียงเจ้ากับหัวหน้ารองหรือ โซ่วโหวกับพั่งหู่มาด้วยหรือไม่”
ไฉหลางได้ยินนางเรียกชื่อตนก็ตะลึงจะแย่อยู่แล้ว คิดไม่ถึงว่านางจะเรียกชื่อพี่รองและคนอื่นๆ ด้วย