จากการที่นางถลึงตาใส่ เขาจึงทำได้เพียงหันหลังให้อย่างเก้อเขิน ในใจคิดว่าสตรีนางนี้หัวแข็งพอตัว แล้วก็นึกแปลกใจ ไยตนเองจึงเชื่อฟังนางเช่นนี้ ทั้งๆ ที่เพิ่งพบหน้ากันเป็นครั้งแรก
ครุ่นคิดไปมาจู่ๆ เขาก็กระจ่างแจ้งแก่ใจ จริงสิ สตรีนางนี้พูดจาและถลึงตาใส่เหมือนหัวหน้าใหญ่ไม่มีผิด
ไฉหลางมีรูปร่างสูงใหญ่ เสื้อของเขาก็มีขนาดใหญ่ไปด้วย พอสวมไปก็ปกปิดร่างนางได้ ในที่สุดกวนอวิ๋นซีก็ถอนหายใจโล่งอก จะดีเลวอย่างไรก็ต้องรักษาชื่อเสียงของร่างนี้ไว้ ถึงจะตายไปแล้วความบริสุทธิ์ก็ยังสำคัญยิ่งนัก ยามตายสวมแค่ผ้าขาดวิ่นเป็นการเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างยิ่ง
“เสร็จแล้ว เจ้ายกร่างของหัวหน้าใหญ่กลับไปยังค่ายบนภูเขาก่อน ฝังในผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ตรงหลังเขา ที่ที่ดูเทียนสือ* ที่ครั้งก่อนเจ้าพนันจิ่วไผ** แพ้แล้วไปกระโดดน้ำ”
ไฉหลางตะลึงงัน “เจ้ารู้ได้อย่างไร”
กวนอวิ๋นซียิ้มเจ้าเล่ห์ “ข้ายังรู้ด้วยว่าครั้งนั้นที่เจ้าแพ้ เจ้าถอดกระทั่งกางเกง! ซ้ำถูกหัวหน้าใหญ่ใช้เท้าถีบลงน้ำ”
ไฉหลางอ้าปากกว้าง ชี้ไปที่นางอย่างไม่อยากเชื่อ
“นางบอกเจ้าแม้กระทั่งเรื่องนี้หรือ”
“ข้าไม่ใช่เพิ่งบอกไปหรือว่าข้าเป็นน้องสาวร่วมสาบานกับหัวหน้าใหญ่ นางบอกข้าทุกอย่าง แม้แต่เรื่องที่เจ้ามีปานดำที่ก้นนางยังบอกข้าเลย”
นางไม่ได้มองไปที่ไฉหลางที่ตาแทบจะถลนออกมา สั่งการต่อไปว่า “จำไว้ว่าจะต้องฝังตรงนั้น เพราะเบื้องหลังเป็นขุนเขา เบื้องหน้าเป็นสายน้ำ ทอดสายตามองไปยังภูเขาหิมะได้ ชมสายฝนและเมฆา ต้นไม้ใหญ่ปกคลุมเย็นสบาย เป็นสถานที่ที่หัวหน้าใหญ่ชื่นชอบเป็นที่สุด เข้าใจหรือไม่”
“เข้าใจแล้ว…”
เดิมทีไฉหลางยังระแวงอยู่บ้าง ครั้นได้ยินว่านางรู้กระทั่งว่าเขามีปานดำที่ก้นก็ไม่นึกสงสัยอีกต่อไป รับคำอย่างว่าง่าย ต่อมาก็อึ้งไปอีก ไยตนต้องเชื่อฟังนางอีกแล้วเล่า
“เอาล่ะ จัดการตามนี้ เจ้าพาร่างหัวหน้าใหญ่หนีไปก่อน ข้าจะไปล่ออีกคนให้หัวหน้ารองปลีกตัวมาได้” พอโพล่งวาจานี้ออกไปกวนอวิ๋นซีก็หมุนกายเดินกลับ ไม่สนว่าไฉหลางจะตกลงหรือไม่
ยามที่นางเดินกลับไปก็เห็นว่าสองคนนั้นกำลังฟาดฟันกันอยู่ รอบด้านมีใบไม้ร่วงหล่น กิ่งไม้ลำต้นขาดสะบั้น ประมือกันราวเพลิงปะทุ
กวนอวิ๋นซีหลบอยู่ในที่ลับแล้วมองไป ในใจคิดว่าฉู่เหิงจือผู้นี้เป็นน้ำนิ่งไหลลึกเช่นกัน แม้นางจะเป็นหัวหน้าใหญ่ ทว่าอันที่จริงวรยุทธ์ของน้องรองเหนือกว่านาง เขาคือมือหนึ่งของค่ายอูเจียง ทว่าสามารถประมือกับฉู่เหิงจือได้แค่เสมอเท่านั้น หากยังดึงดันต่อไปจนพวกทหารเข้ามาร่วมด้วยน้องรองคงจะปลีกตัวได้ยาก นางต้องออกโรงช่วยน้องรองสักหน่อย
นางหยิบก้อนหินก้อนเล็กมาจากพื้นแล้วโยนขึ้นลงอยู่ในมือ
นางยังจำได้ว่าเมื่อครู่มีคนเล่นงานนางก่อนทำให้นางล้มไม่เป็นท่า ทำมาอย่างไรก็ต้องตอบแทนกลับไปเช่นนั้น แล้วนางจะไม่ตอบแทนได้อย่างไรกัน
นางเล็งไปที่แผ่นหลังของฉู่เหิงจือแล้วดีดนิ้วออกไป
ฉู่เหิงจือพลันรู้สึกว่าแผ่นหลังด้านชา เนื่องจากตื่นตระหนก คนทั้งสองที่เดิมทีประมือเสมอกัน เพราะเหตุนี้ทำให้เขาตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ฝ่ายตรงข้ามจึงได้ทีฉวยโอกาสนี้ซัดพลังฝ่ามือมาที่เขา ส่วนเขาเองก็ต้องรับพลังฝ่ามือนั้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว กำลังภายในกระแทกเข้าหากัน ตัวเขากระเด็นไปหลายจั้ง
เขารีบทำให้ร่างของตนสงบลงโดยไว เดินพลังเพื่อกดพลังภายในช่องท้องเอาไว้ เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังจะหนีเขาก็คิดจะไล่ตามไปอีกครา ทว่าอาวุธลับอีกอย่างหนึ่งก็พุ่งมาทันควัน
เขารับอาวุธลับนั้นไว้ด้วยมือข้างเดียว เป็นก้อนหินก้อนหนึ่ง แววตาที่อยากสังหารคนยิงตรงไปทางอาวุธลับนั้นอย่างดุดัน แฉลบกายพุ่งไปทางคนที่ลอบโจมตี
กวนอวิ๋นซียืนรอเขาอย่างสงบ ไม่หลบไม่หนี นางเท้าสะเอวรอเขาอยู่