“ไยเจ้าจึงคิดสั้นเช่นนี้เล่า” ฉู่เหิงจือถอนใจเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา วาจานี้คล้ายกับกล่าวกับสตรีนางนั้น ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน
“คุณชาย โปรดช่วยคุณหนูของบ่าวด้วยเถิดเจ้าค่ะ!”
จิ่นเซียงขอร้องพลางร่ำไห้ สีหน้านางตระหนกตกใจจนซีดเผือด
ฉู่เหิงจือส่ายหน้าให้นาง “นางหมดลมแล้ว”
“ไม่ ไม่นะเจ้าคะ คุณชายโปรดลองอีกสักครั้งเถิดเจ้าค่ะ! ขอร้องท่านเถิดเจ้าค่ะ!”
จิ่นเซียงโขกศีรษะไม่หยุด หากคุณหนูสิ้นไป ชีวิตน้อยๆ ของนางก็คงจะไม่รอด
แม้ว่าฉู่เหิงจือจะเป็นคุณชายผู้สูงศักดิ์จากตระกูลเสนาบดี ทว่าเขาก็พอเข้าใจความลำบากของบ่าวไพร่
เจ้านายฆ่าตัวตาย สาวใช้ที่ปรนนิบัติอยู่ข้างกายไม่ได้ทำหน้าที่อารักขาอย่างดี หลังกลับไปถ้าไม่โดนเฆี่ยนจนตายก็อาจจะถูกขายไปยังหอนางโลม
แม้จะเวทนาทว่าเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้ คนตายไปแล้วเทพก็ไร้หนทางช่วยเหลือ เขาเพียงแต่คิดไม่ถึงว่าแม่นางกวนจะคิดไม่ตกมากระโดดน้ำฆ่าตัวตายเช่นนี้ จะดีจะเลวอย่างไรก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา เขาจะพยายามอีกสักครั้งก็แล้วกัน
“ข้าจะลองดูอีกสักครั้ง”
ครานี้เขาวางฝ่ามือลงบนหน้าท้องของอีกฝ่าย แม้จะมีคนกล่าวไว้ว่าบุรุษสตรีไม่ควรแตะต้องตัวกัน ทว่าในภาวะคับขันก็ไม่ควรคิดเล็กคิดน้อยแล้ว
เขาเดินพลังภายใน ส่งพลังผ่านฝ่ามือไปอย่างแผ่วเบา เพียงครู่เดียวสตรีนางนี้ก็พ่นน้ำออกมาซึ่งเป็นน้ำทะเลสาบที่อยู่ในท้องนาง
“แค่ก…”
“อ้า! คุณหนูตอบสนองแล้วเจ้าค่ะ คุณชาย คุณหนูขยับตัวแล้วเจ้าค่ะ!”
ฉู่เหิงจือประหลาดใจมาก เห็นชัดว่านางหมดลมไปแล้ว ทว่านางยังสามารถกลับมามีลมหายใจได้อีกครา เขาเดินพลังเพิ่มไปที่ฝ่ามือทันที ออกแรงกดหน้าอกนาง สตรีนางนี้ก็พ่นน้ำที่สะสมเอาไว้ออกมามากขึ้นตามคาด ขณะเดียวกันนางก็กระแอมกระไอออกมาหลายครั้ง นี่เป็นการฟื้นขึ้นมาจากความตายอย่างแท้จริง
เขาแอบถอนหายใจโล่งอก
ไม่ตายก็ดีแล้ว มิเช่นนั้นการที่นางมากระโดดน้ำเช่นนี้เขาก็ไม่รู้จะบอกกล่าวแก่สกุลกวนและสกุลฉู่อย่างไร หากนางเสียชีวิตขึ้นมาจริงสกุลฉู่ก็จะกลายเป็นขี้ปากชาวบ้านไม่มากก็น้อย
แม้เริ่มแรกท่านปู่ของทั้งสองตระกูลจะหมั้นหมายกันผ่านทางวาจาเท่านั้น ไม่ได้แลกเทียบกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ทว่าพอมีคนได้ยินเข้าก็มักจะตำหนิทางสกุลฉู่ว่าตระบัดสัตย์ ไม่รักษาคำมั่นสัญญา
ฉู่เหิงจือมองบุตรสาวของสกุลกวนที่อยู่เบื้องหน้า ว่าที่ภรรยาในนามที่ไม่มีทีท่าว่าจะเป็นไปได้ของเขา แล้วเขาเองก็ไม่ได้มีความรู้สึกต่อนางสักเท่าไร เนื่องจากนับแต่เข้าสู่วัยฉกรรจ์เขาก็ใช้ชีวิตอยู่ทางซีเป่ยเสียหลายปี ไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่กับนาง มีวาสนาพบหน้ากันเพียงครั้งเดียวในงานฉลองวันเกิดครบสิบห้าปีของนาง
ผ่านมาสองปี เขาจำได้เพียงว่านางเป็นสตรีที่อ่อนโยนขี้อาย คิดไม่ถึงว่าครั้งที่สองที่ได้พบหน้าจะเป็นวันนี้