ทดลองอ่าน ใต้เท้าอย่ามาหยอก บทที่ 1-บทที่ 2 – หน้า 8 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ใต้เท้าอย่ามาหยอก บทที่ 1-บทที่ 2

พ่อบ้านจ้าวชี้นิ้วด่ากราดนางยกใหญ่ “เจ้าใช้ความงามมายั่วยวนข้าชัดๆ หมายจะพูดเกลี้ยกล่อมให้ข้าย้ายชิวเยวี่ยไปห้องครัว พอข้าไม่ตอบรับเจ้าก็อ้างว่าล้มป่วย ข้าเป็นพ่อบ้านนะ จะยอมให้เจ้ามาข่มขู่ได้หรือ ข้าจึงส่งชิวเยวี่ยไปทำหน้าที่แทนเจ้า แล้วย้ายเจ้าไปห้องครัวหมายจะลงโทษ แต่เจ้ากลับฉวยโอกาสมาปรักปรำข้า นางอสรพิษ!”

พ่อบ้านจ้าวหันไปทางหร่านเจียง “ใต้เท้า สตรีนางนี้จิตใจชั่วช้า ผู้น้อยสงสัยว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้จะต้องเป็นแผนของนางแน่ ซึ่งจะเป็นผลร้ายต่อใต้เท้า ขอใต้เท้าโปรดตรวจสอบด้วยขอรับ!”

เหมียวลั่วชิงปล่อยให้พ่อบ้านจ้าวที่อยู่ด้านข้างบิดเบือนความจริงไป นางเพียงคุกเข่าก้มหน้าอย่างเงียบเชียบไม่รีบร้อนแก้ต่าง อย่างไรก็ตามนางได้พูดสิ่งที่ควรพูดไปหมดแล้ว ส่วนที่เหลือก็รอให้หร่านเจียงเป็นคนตัดสิน

หร่านเจียงฟังอย่างไร้อารมณ์ เขาไม่พูดอะไรสักคำ หลังจากที่ฟังคำให้การของทั้งสองฝ่ายแล้วก็เพียงแต่ออกคำสั่ง

“ใครก็ได้นำตัวพ่อบ้านจ้าวไปตัดขาทั้งสองข้างเสียแล้วโยนออกไปนอกจวน”

พ่อบ้านจ้าวตื่นตระหนกยิ่ง ต่อมาก็แสดงความหวาดกลัวสุดขีด ตะโกนกรีดร้องว่าถูกใส่ร้าย

องครักษ์สองคนเดินขึ้นหน้ามาออกแรงลากเขาไปอย่างไม่สนใจไยดี

เหมียวลั่วชิงก้มหน้าก้มตาอยู่ตลอด คอยเงี่ยหูฟังเสียงกรีดร้องของพ่อบ้านจ้าว ไม่นานนักเสียงนั้นก็เงียบลง สถานการณ์ทั้งหมดกลับคืนสู่ความปกติ

นางยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้น หร่านเจียงก็ไม่ได้เรียกให้นางลุกขึ้น นางจึงยังคงคุกเข่าอยู่อย่างนั้นพลางสัมผัสได้ว่ามีคนกำลังจ้องนางอยู่จากด้านบน

เขาจัดการพ่อบ้านจ้าวโดยที่ไม่กล่าวอะไรอีก เห็นชัดว่าก่อนหน้านี้เขาได้สืบหาต้นสายปลายเหตุไว้ก่อนแล้ว เพียงแต่ลองฟังคำให้การของนางและพ่อบ้านจ้าวสักหน่อย แม้ว่าหร่านเจียงจะโหดร้ายอำมหิต ทว่าเขากลับฉลาดหลักแหลมในการจัดการเรื่องนี้ยิ่ง

แต่เหตุใดเขาจึงยังให้นางคุกเข่าอยู่เล่า ไยไม่พูดไม่จาแต่กลับจ้องนางอย่างเงียบๆ

เหมียวลั่วชิงใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ นางไม่กล้าขยับตัว เพียงแต่รอคอยอย่างเงียบสงบ

ยามนี้นางได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาทางเบื้องหน้า ต่อมาก็มีมือข้างหนึ่งช้อนคางนางให้เงยหน้าขึ้น นางจึงต้องสบเข้ากับนัยน์ตาบีบบังคับของเขา

ใบหน้าเย็นชาเคลื่อนเข้ามาใกล้ ดวงตาเขาเจิดจรัสจนแทบจะแผดเผาคนได้ นิ้วมือด้านสากสัมผัสผิวพรรณอันเกลี้ยงเกลาของนางจนรู้สึกเจ็บแปลบ

นางปรนนิบัติรับใช้อยู่ข้างกายหร่านเจียงมาเป็นเวลาครึ่งปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจงใจสัมผัสดวงหน้านาง

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าจึงจัดการจ้าวเฟิง” จ้าวเฟิงก็คือพ่อบ้านจ้าว

เหมียวลั่วชิงจ้องมองนัยน์ตาเขาอย่างสงบแล้วตอบตามความจริง

“ใต้เท้าฉลาดหลักแหลม ย่อมรู้ว่าใครพูดปด ใครถูกใส่ร้ายเจ้าค่ะ”

นางสัมผัสได้ว่าวาจาของนางน่าจะตรงกับใจเขา นางเห็นเขายกมุมปากขึ้นเล็กน้อย

“จ้าวเฟิงปรักปรำเจ้า เจ้ากลับดูไม่ร้อนรน สงบเยือกเย็นยิ่งนัก”

เหมียวลั่วชิงตะลึงอยู่ชั่วครู่ สัมผัสได้ถึงลางไม่ดี ท่าทีของตนคงดูสงบเกินไป จะเป็นเหตุให้เขาเริ่มสงสัยหรือไม่

“บ่าวสงบเยือกเย็นเป็นเพราะเชื่อมั่นในตัวใต้เท้าเจ้าค่ะ แต่อันที่จริงในใจบ่าวก็ยังรู้สึกกลัวอยู่บ้าง”

นางมองเขาอย่างขลาดกลัว เอ่ยด้วยน้ำเสียงระแวดระวัง ไม่ได้จงใจประจบประแจง ทว่ารู้สึกเคารพยำเกรงในความฉลาดหลักแหลมและร้ายกาจของเขาอย่างแท้จริง

นางไม่รู้ว่ายามนี้สีหน้าของตนแฝงไปด้วยความสุขุมและความอ่อนโยนซึ่งไม่ได้จงใจแสดงออกมา ขณะที่นางรู้สึกขลาดกลัวก็ยังรู้สึกเชื่อใจเขาด้วย ทว่าในความเชื่อใจก็กลับคอยระวังตัวอยู่ในที อารมณ์หลากหลายที่ขัดแย้งไปมาเช่นนี้แสดงออกมาในคราวเดียวกัน ทำให้หร่านเจียงอดไม่ได้ที่จะมองตรวจสอบนางอีกสักครู่

สำหรับเขาแล้วเหมียวลั่วชิงก็เป็นเพียงสาวใช้รูปร่างงดงาม จวนของเขาไม่เคยขาดซึ่งโฉมงามเลย ผู้คนต่างพยายามส่งสตรีมาให้เขา แต่ละนางก็งดงามไม่แพ้กัน ทว่าจนกระทั่งวันนี้เขาเพิ่งสังเกตความงามของเหมียวลั่วชิงอย่างเต็มตา

ขณะเดียวกับที่นางเชื่อใจเขา แต่ก็หวาดกลัวและคอยระวังตัวอยู่ในที ทำให้ต้องนึกใคร่ครวญมากสักหน่อย

เขาปล่อยคางนางพลางยืนตัวตรง ออกคำสั่งประโยคหนึ่ง

“ไปเก็บข้าวของที่ห้องครัว ย้ายกลับมาที่ห้องเดิมแล้วกลับมาปรนนิบัติข้า”

วาจานี้ทำให้เหมียวลั่วชิงตะลึงพรึงเพริด

เขาเลิกคิ้วขึ้น “เจ้าไม่ได้ยินคำสั่งข้าหรือ”

“บ่าวน้อมรับคำสั่งเจ้าค่ะ” เหมียวลั่วชิงรีบก้มหน้าลงเป็นการตอบรับแล้วยืนขึ้นโค้งกาย พลันรีบถอยออกจากห้องหนังสือ

ตอนที่ออกมานางไม่ได้หันหลังกลับไปอีกเลย จนกระทั่งออกมาจากห้องหนังสือเรียบร้อยถึงได้ทอดสายตามองกลับไป

นางคิดไม่ถึงว่าจากเหตุการณ์ในครั้งนี้หร่านเจียงจะย้ายนางกลับมายังข้างกายเขาอีกครา แม้ใจนางจะไม่ยินยอม แต่กลับไม่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งของเขา

ต่อไปนางคงทำได้เพียงปฏิบัติภารกิจอย่างระมัดระวังแล้วค่อยขบคิดวางแผนต่อไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com