บทที่ 2
องครักษ์เสื้อแพรคือสุนัขรับใช้ของฮ่องเต้ ฟังคำสั่งจากฮ่องเต้โดยตรง มีหน้าที่สังหารคนที่ไม่จงรักภักดี ควบคุมตัวผู้ที่ต่อต้าน เหล่าขุนนางในราชสำนักล้วนเกรงกลัว ถึงจะเป็นขุนนางใหญ่ขั้นหนึ่ง ครั้นพบหน้าองครักษ์เสื้อแพรก็ยังต้องให้เกียรติเสียสามส่วน
กล่าวได้ว่าองครักษ์เสื้อแพรก็คือดาบของฮ่องเต้ แล้วหร่านเจียงก็คือดาบเล่มที่แหลมคมที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่มันจะชักนำการลอบสังหารมาสู่ตัวเขา
เหมียวลั่วชิงพบว่าตั้งแต่หร่านเจียงย้ายนางมาปรนนิบัติเขา เขาก็ให้นางอยู่ข้างกายบ่อยครั้งขึ้น
สาวใช้ที่ปรนนิบัติอยู่ข้างกายหร่านเจียงไม่ได้มีเพียงนางคนเดียว นอกจากนางแล้วยังมีหรุ่ยเอ๋อร์และซุ่ยเอ๋อร์ด้วย โดยปกติพวกนางสามคนจะคอยดูแลเรื่องชีวิตประจำวันของหร่านเจียง ปรนนิบัติเรื่องอาหารการกิน เปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์ น้ำชา รวมถึงเรื่องเล็กน้อยอื่นๆ
ยามกลางวันหร่านเจียงจะไปสืบสวนคดี ณ กองปราบฝ่ายเหนือ พอกลับมาถึงจวนก็มักจะประชุมลับในห้องหนังสือกับบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาต่ออยู่บ่อยครั้ง
ที่ผ่านมาพวกนางสามคนซึ่งเป็นสาวใช้จะสลับสับเปลี่ยนกันไปปรนนิบัติหร่านเจียงในห้องหนังสือ ทว่าช่วงนี้ทุกครั้งที่เขาไปห้องหนังสือก็จะเจาะจงให้นางตามไปด้วย ด้วยเหตุนี้ยามที่เหมียวลั่วชิงตามเขาไปห้องหนังสือก็จะมีโอกาสได้ฟังสิ่งที่พวกเขาประชุมหารือกัน
หากจะกล่าวว่าเป็นการประชุม มิสู้กล่าวว่าเป็นการวางแผนว่าจะขุดหลุมอย่างไรให้คนกระโดดลงไปแทน
“ใต้เท้า พวกเราสืบได้ความว่าใต้เท้าเจียงวางแผนจะถวายฎีกาในวันพรุ่งนี้ยามที่ฮ่องเต้ออกว่าราชการ โดยจะกล่าวหาว่าท่านสังหารผู้บริสุทธิ์ รับสินบน ทำผิดกฎหมาย แล้วยังกล่าวว่าได้เตรียมพยานและหลักฐานไว้พร้อมแล้วขอรับ” ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เอ่ยผู้นี้มีนามว่าหวงจิ่น เป็นนายกองพันองครักษ์เสื้อแพร และเป็นคนสนิทของหร่านเจียง
“เขาคงไม่อยากมีชีวิตอยู่ถึงได้กล้าสร้างหลักฐานเท็จ กล้าเป็นศัตรูกับองครักษ์เสื้อแพรอย่างนั้นหรือ” คนสนิทอีกคนมีนามว่าหลิวขุย ซึ่งเป็นนายกองพันเช่นเดียวกัน สองคนนี้คอยติดตามหร่านเจียงไปทุกที่ จงรักภักดีต่อเขายิ่งนัก ไม่ว่าหร่านเจียงจะไปค้นบ้านยึดทรัพย์ จับคน หรือสอบสวน ล้วนจะต้องเห็นเงาร่างของสองคนนี้
หากจะกล่าวว่าหร่านเจียงเป็นสุนัขรับใช้ของฮ่องเต้ เช่นนั้นแล้วพวกเขาก็เป็นสุนัขสองตัวที่จงรักภักดีต่อหร่านเจียง
ยามที่สองคนนี้กล่าวถึงใต้เท้าเจียง น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยการแดกดันถากถาง ใต้เท้าเจียงเป็นขุนนางจำนวนน้อยในราชสำนักที่กล้าต่อกรกับองครักษ์เสื้อแพรต่อหน้าฮ่องเต้และเหล่าขุนนาง
หร่านเจียงฟังอย่างเพลิดเพลิน ซ้ำยังไม่มีทีท่ากังวลสักนิด กลับคิดว่าเป็นเรื่องน่าสนใจยิ่งนัก
ใต้เท้าเจียงกล้าถวายฎีกาแก่ฮ่องเต้ นั่นก็แสดงว่าต้องมีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน คนที่อยู่เบื้องหลังก็อาจจะเป็นเหล่าเจ้าเมืองศักดินา
ฮ่องเต้มีปมในใจกับบรรดาเจ้าเมืองศักดินาเหล่านั้นมานาน องครักษ์เสื้อแพรก็คือกรงเล็บของฮ่องเต้ แน่นอนว่าเจ้าเมืองศักดินาทั้งหลายล้วนไม่เห็นด้วย
หร่านเจียงเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน “ไม่เป็นไร ปล่อยให้เขาถวายฎีกาไป เขาอยากลองดี ข้าก็จะเล่นเป็นเพื่อนเขา”
หร่านเจียงสามารถนั่งอยู่ในตำแหน่งผู้บังคับการกองปราบฝ่ายเหนือได้ นอกจากมีฝีมือเหลือล้นแล้ว เขายังมีทั้งพรสวรรค์และความกระตือรือร้นในด้านการตรวจสอบคดี จับกุมนักโทษ รวมถึงการสอบสวนด้วย ยิ่งเป็นคดีที่ตรวจสอบยาก ศัตรูยิ่งเจ้าเล่ห์ขี้โกงด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เขามีกำลังวังชาที่จะรับมือกับฝ่ายตรงข้ามมากขึ้น
เหมียวลั่วชิงยืนอยู่ด้านข้างอย่างเงียบสงบ นางก้มหน้าหลุบตา ไม่ว่าพวกเขาจะเอ่ยอะไร นางก็ล้วนเอาตามองจมูก จมูกมองใจ ไม่แสดงสีหน้าใดๆ ทั้งนั้น