ถึงอย่างไรความโหดเหี้ยมชั่วร้ายของหร่านเจียงผู้นี้ก็ยังทำให้ผู้คนหวาดกลัวอยู่ดี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเป็นบุรุษรูปงามทรงเสน่ห์ สตรีหลายคนลุ่มหลงในบุรุษเลวทรามเช่นนี้ หนึ่งในนั้นรวมถึงองค์หญิงเจ็ดด้วย
ทุกคนล้วนรู้ดีว่านางลุ่มหลงในตัวหร่านเจียง สำหรับองค์หญิงเจ็ดผู้หยิ่งยโส หากนางสามารถเอาชนะหร่านเจียงผู้หล่อเหลา ฉลาดหลักแหลม และเย็นยะเยือก ทำให้เขากลายเป็นขุนนางภายใต้อำนาจนางได้จะเป็นความสำเร็จอันใหญ่หลวงนัก
นางไม่เพียงลุ่มหลงหน้าตาของหร่านเจียงเท่านั้น ยังหลงใหลในรูปร่างสูงใหญ่บึกบึนของเขาด้วย องค์หญิงเจ็ดเชื่อว่าหร่านเจียงที่ไต่เต้าขึ้นมาจากการสอบขุนนางฝ่ายบู๊ย่อมดูดีกว่าพวกคุณชายบัณฑิตผู้เย่อหยิ่ง นางคลั่งไคล้ทหารผู้องอาจกล้าหาญตรงไปตรงมา โดยเฉพาะอย่างหร่านเจียงที่ยังแอบแฝงความโหดเหี้ยมเย็นชาไว้ด้วย องค์หญิงเจ็ดอยากรู้เหลือเกินว่าพอไปถึงบนเตียง หลังจากเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ออกแล้วเขาจะดุร้ายเยี่ยงสัตว์ป่าหรือไม่
ครั้นนึกถึงหร่านเจียงยามอยู่บนเตียงนอน องค์หญิงเจ็ดก็พลันร้อนผ่าวไปทั่วร่าง ดวงหน้ารูปไข่แดงระเรื่อ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสุราหรือเพลิงปรารถนากันแน่
วันนี้นางมาเป็นแขกที่จวนสกุลหร่าน ยามนี้กำลังชูจอกสุราดื่มกับหร่านเจียงด้วยเสียงหัวเราะและความสุขใจ
ไม่ว่านางจะแสดงออกอย่างเป็นนัยหรือโจ่งแจ้ง หร่านเจียงมักจะไม่ไว้หน้า ดูราวกับเขามีมารยาทและให้ความเคารพ ทว่าอันที่จริงคือรักษาระยะห่างกับนาง
บุรุษที่นางปรารถนาจะต้องเอามาไว้ในกำมือให้จงได้ นางจะต้องเอาชนะหร่านเจียงให้ได้
ครั้นองค์หญิงเจ็ดนึกถึงจุดประสงค์ที่มาเยือนในวันนี้ รอยยิ้มบนดวงหน้าก็ยิ่งคล้ายกับมึนเมา นางเหลือบมองไปที่นางกำนัลข้างกาย นางกำนัลผู้นั้นพยักหน้าให้นาง เสด็จแม่เป็นคนมอบนางกำนัลคนนี้ให้ ความสามารถเปี่ยมล้น สามารถช่วยให้นางทำการสำเร็จได้
“ใต้เท้าหร่าน ข้าขอคารวะท่านหนึ่งจอก” นางเอ่ยด้วยเสียงหวานหยาดเยิ้ม
หร่านเจียงจ้องมองดวงตาคู่งามขององค์หญิงเจ็ดซึ่งแฝงไปด้วยเสน่ห์และความเขินอาย ภายในดวงตาเขานั้นเผยรอยยิ้มบาง ชูจอกสุราขึ้น เอ่ยยิ้มๆ “มิกล้า ควรจะเป็นผู้น้อยดื่มคารวะองค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ”
เขาชูจอกสุราขึ้นดื่ม องค์หญิงเจ็ดดื่มคารวะเขาจอกแล้วจอกเล่า เขาก็ดื่มไปจอกแล้วจอกเล่าเช่นกัน เมื่อประจันหน้ากับองค์หญิงเจ็ดเขาจะคงรอยยิ้มไว้ตลอด เขามองเห็นแผนการในแววตานางอย่างชัดเจน
องค์หญิงเจ็ดอยากใช้ฐานะแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่านางอยากกรอกสุราเขาจนเมามาย เขาเองก็ไม่รีบร้อน ดื่มเป็นเพื่อนนางต่อไป
หลังจากที่ดื่มสุราไหหนึ่งหมดเขาก็ยังไม่เมาสักที ทว่าองค์หญิงเจ็ดกลับทรงตัวไม่มั่นเสียแล้ว
หร่านเจียงวางจอกสุราลง เอ่ยด้วยเสียงราบเรียบให้บ่าวไพร่ไปตามขันทีและนางกำนัลมาพยุงองค์หญิง
“องค์หญิงทรงเมาแล้ว พยุงนางกลับวังไปพักผ่อนเถิด” เขาเอ่ยกับขันที
ขันทีโค้งกายไปทางเขา กำชับกับนางกำนัลสองนางว่า “ยังไม่ประคององค์หญิงกลับไปอีก”
นางกำนัลสองนางรับคำในทันใด พยุงร่างองค์หญิงขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ทว่าทันใดนั้นนางกำนัลที่ยืนอยู่ด้านซ้ายก็เดินเซไปชนไหสุราจนล้มคว่ำโดยไม่ทันระวัง น้ำสุราสีเหลืองอร่ามจึงหกรดอาภรณ์ขององค์หญิง