บทนำ
รถบรรทุกขับเข้ามาจอดอยู่ด้านหน้าคอนโดฯ บีบแตรเสียงดังตั้งแต่เช้าตรู่
ดูเหมือนจะส่งเสียงดังหนวกหูไปถึงผู้พักอาศัยที่ยังนอนอยู่ เสียงตะโกนด้วยความไม่พอใจดังลอยออกมาจากหน้าต่างสักบาน ‘ใครมันไร้มารยาทตั้งแต่เช้าขนาดนี้วะ แล้วจะนอนยังไง!’
เพิ่งจะตะโกนจบ หญิงวัยกลางคนสวมผ้ากันเปื้อนที่อยู่ข้างนอกห้องก็รีบวิ่งมาถึงประตูแล้วเอ่ยเตือนชายหนุ่มที่มีสีหน้าโมโหด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ ‘ไอ้เด็กบ้า! แกอย่าหาเรื่อง พวกครอบครัวนั้นกำลังจะย้ายไปแล้ว!’
‘ครอบครัวนั้น?’ ชายหนุ่มเบิกตากว้าง ‘หมายถึงครอบครัวหลินเหรอ’
‘ก็ใช่น่ะสิ’ หญิงวัยกลางคนเบ้ปาก ‘ในที่สุดก็ย้ายไปได้ซะที ต้องมาอยู่ในคอนโดฯ เดียวกับครอบครัวนั้น ฉันนี่นอนฝันร้ายทุกคืนเลย’
‘ตอนแม่ไม่ได้พักอยู่ที่นี่ก็ฝันร้ายอยู่แล้วน่า’ ชายหนุ่มเถียงกลับแล้วเลิกม่านขึ้นเพื่อมองออกไปด้านนอก เห็นพนักงานขนย้ายที่ชั้นล่างกำลังขนเครื่องเรือนของครอบครัวหลินขึ้นรถ ตรงใต้ต้นหอมหมื่นลี้ข้างทางมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ เธอสวมเดรสขาวกอดตุ๊กตาเด็กเอาไว้
เขาโบกมือให้เด็กผู้หญิงคนนั้น ‘หลินเซิน…’
ยังพูดไม่ทันจบประโยคเขาก็ถูกหญิงวัยกลางคนตีมือเข้าให้ เจ็บจนต้องหดมือกลับมา
‘โบกมืออะไรกัน! แกระวังจะถูกสัตว์ประหลาดสิงร่างเอา’
เสียงของชายหนุ่มลอยออกไปตามลมและคล้ายว่าเด็กสาวจะได้ยินเข้าจึงหันหน้ากลับมาช้าๆ บนใบหน้าขาวกระจ่าง ริมฝีปากน้อยๆ เม้มแน่น
หญิงวัยกลางคนดึงม่านปิดทันที ก่อนจะตบหน้าอกตัวเองเบาๆ ด้วยความรู้สึกหวาดกลัว
ชายหนุ่มถลึงตาใส่แม่ด้วยความไม่พอใจ ‘เซินเซินเป็นแค่เด็กผู้หญิง แม่ไม่ควรไปว่าคนอื่นเขาแบบนั้นนะ’
‘ฉันว่าอะไร ฉันแค่พูดความจริงทั้งนั้น! อายุยังน้อยก็น่ากลัวขนาดนี้แล้ว โตไปจะขนาดไหน ฉันว่าที่จริงเราควรจะต้องรายงานรัฐบาลให้ส่งคนมาจับตัวเธอไป…’
‘แม่! พอได้หรือยัง นี่มันสมัยไหนกันแล้ว แม่ยังจะเชื่อเรื่องลี้ลับอะไรนี่อีกเหรอ’ ชายหนุ่มพูดขัดขึ้นมา ทว่าสายตากลับลอยไปหาเด็กสาวใต้ต้นหอมหมื่นลี้อีกครั้งโดยไม่รู้ตัว
แม่ของเขายังคงเลือกผักไปพลางบ่น ‘เรื่องถิงถิงเมื่อสองวันก่อนกลายเป็นเรื่องใหญ่โตเสียขนาดนั้น ต่อให้เด็กนั่นไม่กินคน แต่คำพูดของมันก็เกือบจะทำให้ถิงถิงตายอยู่แล้ว เสียงของเด็กคนนี้น่ากลัวมากนะ แค่พูดด้วยไม่กี่คำ ดีไม่ดีจะถูกสะกดจิตให้ทำตามคำพูดของมันเข้า ถ้ามันให้แกหยิบมีดมาแทงแม่ แกก็จะต้องทำตามแน่ๆ’
‘ยิ่งพูดยิ่งเลอะเทอะ!’ ชายหนุ่มเถียงกลับเสียงดัง ทว่าก็อดนึกถึงทุกครั้งที่ตนเคยได้คุยกับหลินเซินขึ้นมาไม่ได้ เด็กสาวตัวน้อยหน้าตาน่ารักและจิ้มลิ้มมักจะเรียกเขาด้วยเสียงที่อ่อนโยนว่า ‘พี่ชาย’ ทุกครั้งเวลาเขาหงุดหงิดและเครียดจากงานจนต้องกลับบ้านมาพร้อมความโมโห แต่ขอแค่ได้คุยเล่นกับหลินเซินที่หน้าประตูไม่กี่ประโยค ความรู้สึกหงุดหงิดโมโหพวกนั้นก็จะสลายหายวับไปเสมอ
ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างชอบหลินเซิน จนบางครั้งหลังเลิกงานแล้วก็จะพกของอร่อยๆ ติดมือกลับมาฝากเธอด้วย