‘ผมรู้สึกว่าบทสนทนาของพวกเราในวันนี้น่าจะชดเชยของเมื่อวานได้แล้ว’
หลินเซินยิ้มออกมาเล็กน้อย
‘แล้วเจอกันค่ะ!’
‘เจอกันพรุ่งนี้ครับ!’
เธออารมณ์ดีไม่น้อย ดังนั้นภาพที่วาดจึงได้รับอิทธิพลจากอารมณ์นั้นไปด้วย สีสันที่เธอใช้เดิมทีจะดูมืดหม่นก็เพิ่มความสดใสเข้าไปหลายส่วน มาถึงตอนนี้รูปภาพที่จะส่งมอบให้กับโรงแรมเหลียนถังก็เสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว มันถูกวางเรียงกันอยู่รอบห้องวาดภาพอย่างเป็นระเบียบ วันมะรืนก็จะสามารถนำไปส่งพร้อมกันได้
นี่เป็นเงินก้อนแรกที่หลินเซินหามาได้หลังจากเธอไม่ยอมเข้าสังคม และใช้เงินที่พ่อแม่เหลือทิ้งไว้ให้จนหมดไปแล้ว ดูเหมือนว่าชีวิตที่เต็มไปด้วยเมฆครึ้มของเธอใกล้จะเปลี่ยนไปเป็นสดใสได้แล้วในที่สุด
วันรุ่งขึ้นหลินเซินนอนตื่นสายกว่าปกติ หลังตื่นขึ้นมาเธอก็จัดรูปภาพใส่กล่องแล้วติดต่อให้คนงานมาเคลื่อนย้ายมันไปในวันพรุ่งนี้ ต้องหลังการจัดการเรื่องพวกนี้เสร็จเรียบร้อยแล้วถึงจะเรียกว่าสบายใจได้โดยสมบูรณ์ เธอต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกระป๋องหนึ่ง ก่อนเหลือบตามองเวลาบนนาฬิกาแขวนผนัง
ในตอนที่เข็มนาฬิกาชี้ไปที่เลขหนึ่ง บทเพลงภาษาอังกฤษที่คุ้นเคยก็ดังออกมาจากลำโพง เสียงไพเราะของผู้หญิงประกาศออกมาว่า ‘ภารกิจวันที่สามของคู่รักหนึ่งสัปดาห์ ดูหนังด้วยกันหนึ่งเรื่อง ขอให้ดูหนังกันอย่างมีความสุขนะคะ’
จากนั้นภาพหน้าจอก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นภาพโรงภาพยนตร์ ที่ด้านล่างของจอยังมีหน้าต่างให้พิมพ์ข้อความอันหนึ่งปรากฏอยู่ หลินเซินพิมพ์อักษรย่อแถวหนึ่งลงไปแล้วบริเวณขอบหน้าจอก็มีตัวอักษรขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ระบบโรงภาพยนตร์นี้สามารถแชทกันแบบเรียลไทม์ได้ด้วย ดังนั้นจึงดูไปคุยไปได้ เป็นการสร้างบรรยากาศแบบตอนอยู่ในโรงภาพยนตร์ขึ้นมา
เธอโตมาจนป่านนี้แล้วยังไม่เคยไปดูภาพยนตร์ที่โรงภาพยนตร์เลยสักครั้ง
อีกฝ่ายเองก็ออนไลน์แล้ว และส่งข้อความมาถามเธอว่า
‘อยากดูหนังเรื่องอะไรครับ’
หลินเซินคิดแล้วพิมพ์ไปว่า
‘สะพานวอเตอร์ลูค่ะ’
เธอคิดว่าอีกฝั่งน่าจะกำลังยิ้มอยู่
‘บังเอิญจริง ผมเองก็ชอบหนังเรื่องนี้’
เขากรอกชื่อหนังเข้าไปในช่องค้นหา จากนั้นกดปุ่มเล่น บนหน้าจอปรากฏภาพหัวสิงโตอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมข้อความจาก ‘แมลงเม่า’ เลื่อนผ่านมา
‘ถ้ารู้มาก่อนว่าภารกิจวันนี้เป็นการดูหนัง ผมคงไปซื้อป็อปคอร์นกับโค้กมากินแล้ว’
ถ้ามีป็อปคอร์นกับโค้กน่าจะให้ความรู้สึกแบบโรงภาพยนตร์มากกว่านี้สินะ หลินเซินเห็นด้วยเป็นอย่างมาก
‘ฉันก็คิดเหมือนกัน’
‘ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสค่อยแก้ตัวกันใหม่นะ’
หลินเซินเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไป
‘หนังเริ่มแล้วค่ะ’
ภาพยนตร์รักคลาสสิกสมัยก่อน ถึงจะเป็นหนังขาวดำ ทว่าก็สามารถเทียบเคียงกับเทคนิคภาพสีในปัจจุบันได้ ทุกๆ สีหน้าไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขของวิเวียน ลีห์ล้วนมีเสน่ห์ แม้จะรู้ตอนจบอยู่แล้ว แต่ทุกครั้งที่ดูก็ยังคงรู้สึกลุ้นไปกับเรื่อง
ในช่วงบ่ายอันเงียบสงบแบบนี้ การได้มานั่งดูภาพยนตร์เก่าที่คุ้นเคยกับตัวบทอยู่แล้ว กลับให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่ไปได้เพียงเพราะมีคนแปลกหน้าซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนร่วมดูด้วย ภาพยนตร์จบลงแล้ว ภาพบนหน้าจอหยุดลงที่สะพานวอเตอร์ลูแห่งนั้น หลินเซินยังไม่ทันดึงตัวเองกลับมาจากความเศร้าของบทหนังก็เห็นระบบถามขึ้นมาว่า ‘ขอให้แต่ละฝ่ายบอกเหตุผลที่ชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมา’
หลินเซินพิมพ์ลงไปช้าๆ