หลินเซินส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่เป็นไรค่ะ”
“งั้นให้ผมส่งคุณกลับบ้าน?”
“ฉันเรียกรถกลับเองได้ค่ะ”
กู้ชิงไหวคล้ายจะไม่ได้ประหลาดใจกับคำตอบของเธอ เขามองหลินเซินด้วยสายตาแฝงความนัยลึกซึ้ง “คุณหลิน พวกเรานับว่า…เจอกันเป็นหนที่สี่แล้วจริงไหม ครั้งหน้าถ้าเจอกันอีก คุณจะเก็บความไม่เป็นมิตรแปลกๆ ที่คุณมีให้ผมไปได้ไหมครับ”
“แปลกตรงไหนกัน” เธอโพล่งออกไปแต่คอดันเจ็บขึ้นมาพอดี คำพูดที่เหลือจึงค้างอยู่ที่ลำคอ หลินเซินปิดปากไออยู่นาน พอมองกู้ชิงไหวที่ยืนด้วยท่าทีสบายๆ ข้างๆ เธออีกทีก็หมดอารมณ์จะตำหนิเขาไปแล้ว
เรื่องผู้หญิงมากมายของกู้ชิงไหวนั้นก็เป็นเรื่องของครอบครัวคนอื่นมาแต่แรกอยู่แล้ว อีกทั้งเมื่อครู่เขายังช่วยเธอเอาไว้อีกด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะยังไงทั้งหมดนั่นก็เป็นแค่ปัญหาด้านพฤติกรรมของเขา ประเทศชาติยังยุ่งไม่ได้ เธอจะมีสิทธิ์อะไรไปยุ่ง
เธอรับทิชชูที่เขาส่งให้มาเช็ดปาก ก่อนเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปด้วยความกระอักกระอ่วน “คุณเป็นนักศึกษาของไหวต้าเหมือนกันเหรอคะ”
“เปล่าครับ”
“งั้นคุณมา…”
“มาตามหาคนครับ” เขายิ้มพลางยักไหล่ “แต่น่าเสียดายที่คนเยอะเกินไปเลยหาไม่เจอ”
หลินเซินไม่มีเจตนาจะซักถามเรื่องส่วนตัวของเขาจึงแค่ยิ้มรับผ่านไป ก่อนก้าวถอยหลังสองก้าวแล้วเอ่ยเสียงแหบว่า “งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ วันนี้ขอบคุณคุณมาก ลาก่อนค่ะ!”
บางทีอาจเป็นเพราะความเครียดที่ทำให้เหงื่อออกมากเกินไป ถึงอาการหวัดจะลดลงแล้ว แต่เธอกลับหมดแรงไปทั้งตัว หลินเซินกินยาเสร็จก็ล้มตัวลงบนเตียงสะลึมสะลือหลับไป ก่อนจะถูกเสียงโทรศัพท์ปลุกให้ตื่น
ฟ้ามืดแล้ว แสงจากไฟถนนนอกหน้าต่างส่องผ่านผ้าม่านผืนบางเข้ามา สีอ่อนจางยิ่งกว่าแสงจันทร์
บนหน้าจอเป็นเบอร์โทรที่เธอไม่รู้จักเบอร์หนึ่ง เมื่อเห็นแหล่งที่มาเป็นสายจาก ‘เจ๋อสุ่ย’ ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเธอก็ดูเหมือนสูญเสียความสมจริงไปอย่างกะทันหัน ราวกับว่าหลินเซินได้ย้อนกลับไปในงานศพช่วงฤดูร้อนเมื่อสิบกว่าปีก่อนนั้นอีกครั้ง เสียงกรีดร้องด่าทอเหมือนเข็มนับพันนับหมื่นกำลังแทงทะลุผ่านเยื่อแก้วหูดังอื้ออึง
หลินเซินสะบัดผ้าห่มออกแล้วกุมศีรษะ จนกระทั่งเสียงเรียกเข้าหยุดลง เสียงอื้ออึงที่ดังก้องอยู่ในหูถึงได้หายวับไป ภายในห้องเงียบจนน่ากลัว เหลือแค่เสียงหอบหายใจอันหนักอึ้งของเธอ
แสงจากหน้าจอโทรศัพท์ค่อยๆ อ่อนลงไป แต่เพียงอึดใจเดียวโทรศัพท์มือถือก็สั่นขึ้นมาอีกครั้ง ชั่วพริบตาที่เสียงเรียกเข้าดังขึ้นเธอก็โยนโทรศัพท์มือถือทิ้งอย่างลนลาน ไม่รู้ว่าเลยเสียงนั้นดังอยู่นานแค่ไหน แต่ในที่สุดอีกฝ่ายก็ไม่ได้โทรมาอีก โทรศัพท์มือถือสั่น หลินเซินได้รับข้อความหนึ่งเข้ามาแทน ผ่านไปครู่ใหญ่เธอถึงได้ลงจากเตียงเท้าเปล่าเดินไปเก็บมือถือที่ถูกโยนทิ้งบนพื้นขึ้นมา