‘หลินเซิน นี่ลุงใหญ่ของหลานเอง มีเรื่องด่วนจะคุยด้วย ว่างแล้วโทรกลับมานะ’
เธอจ้องหน้าจอโทรศัพท์แล้วใจลอยออกไป ในวันที่อากาศร้อนแบบนี้หลินเซินกลับนั่งยองๆ ขดตัวอยู่ที่มุมเตียง มีอาการคล้ายกับกำลังหนาวจนตัวสั่น มือเท้าล้วนหดเกร็ง ผ่านไปนานเธอถึงเปิดบันทึกการโทร ลังเลอยู่เล็กน้อยก่อนกดเลือกเบอร์โทรของแมลงเม่า
ในเวลานี้เธออยากจะหาใครสักคนมาคุยด้วย และคนแรกที่ผุดขึ้นมาในสมองกลับเป็นเขา
แต่ถ้าจู่ๆ โทรไปแบบนี้จะเป็นการรบกวนเขาหรือไม่ เพราะเธอปฏิเสธคำเชิญพบหน้าเขาไปแล้วชัดๆ แต่ตอนนี้กลับเป็นฝ่ายติดต่อไปก่อนอีก แบบนี้จะไม่ค่อยจะดีหรือเปล่า
ลมกลางคืนพัดผ้าม่านให้โบกไหว ลมชื้นแฝงไอร้อนพัดเข้ามาข้างในห้อง เธอจับโทรศัพท์มือถือเอาไว้ด้วยสองมือ ปลายนิ้วสั่นระริกเล็กน้อย สุดท้ายก็รวบรวมความกล้ากดลงไป
หลังเสียงสัญญาณดังขึ้นสามครั้งก็มีคนรับสาย ลำคอหลินเซินหดเกร็ง ไม่รู้ว่าจะเปิดปากยังไงดี แต่เขาเองก็น่าจะมีเบอร์ของเธอจริงไหม ถ้าเช่นนั้นรอเขาเปิดปากพูดก่อนก็แล้วกัน…
ไม่กี่วินาทีต่อมา หลินเซินก็ได้ยินน้ำเสียงของเด็กดังออกมาจากลำโพง “ปะป๊า มีคนโทรหา…”
หลินเซินกดตัดสายทันที
ตอนที่ใจเย็นลงแล้วก็พบว่าทั้งตัวเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ หลินเซินลนลานถึงขั้นกัดฟันกดเบอร์นั้นเข้าไปในรายชื่อแบล็กลิสต์ หลินเซินเริ่มรู้สึกร้อนและตัวสั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เมิ่งสืออวี่เคยสอนเธอว่าในเวลาแบบนี้จะต้องไปอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
หลินเซินเดินไปที่ใต้ต้นไม้ต้นใหญ่ในลานบ้านต้นนั้น เงยหน้าขึ้นมองดวงดาวพร้อมสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ ไม่หยุด ใช้เวลาอยู่นานถึงพอจะใจเย็นลงได้ในที่สุด จากนั้นเธอก็กดเบอร์โทรของเมิ่งสืออวี่
“เซินเซิน?” ด้านหลังมีเสียงเชลโลเนิบช้าดังลอยมา เมิ่งสืออวี่กดเสียงต่ำลง “รอก่อนนะ เดี๋ยวฉันเดินออกไปคุยด้วย”
“วันนี้บ้านหลินโทรหาฉัน”
ในที่สุดเมิ่งสืออวี่ก็เปลี่ยนเป็นสถานที่ที่เงียบสงบได้ “บ้านหลิน? พวกเขาโทรหาเธอทำไมกัน”
“ไม่รู้เหมือนกัน ฉันไม่ได้รับ เขาส่งข้อความมาว่ามีเรื่องด่วนอยากคุยด้วย”
“พวกเขาจะมีเรื่องอะไรได้กัน สิบกว่าปีมานี้ก็ไม่เคยสนใจเธอมาก่อน แต่ตอนนี้กลับมีเรื่องด่วนซะได้” เมิ่งสืออวี่แค่นเสียงเย็น “ไม่ต้องไปสนใจ ตอนนี้ฉันอยู่ที่งานเลี้ยง อีกประมาณหนึ่งชั่วโมงถึงเลิกงาน เดี๋ยวฉันไปหาที่บ้านเธอแล้วค่อยว่ากันอีกทีนะ”
“โอเคจ้ะ”
หลังวางสายเมิ่งสืออวี่ก็กลับตัวเดินเข้าไปในห้องโถงจัดงานเลี้ยง หญิงสาวที่สีเชลโลอยู่บนเวทีลงจากเวทีไปแล้ว ศาสตราจารย์เฉินผู้เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงจิตวิทยากำลังขึ้นพูดอยู่บนเวที งานเลี้ยงครั้งนี้จัดขึ้นในนามของศาสตราจารย์เฉินเพื่อให้นักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงทั้งหมดในเมืองไหวอันรวมไปถึงเมืองรอบข้างได้มารวมตัวกัน