หลินเซินเข้าไปในลิฟต์แล้วกดหมายเลขชั้นสิบสี่ของโรงแรมเหลียนถังด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น
โรงแรมเหลียนถังอยู่ในเครือซ่งซื่อกรุ๊ปซึ่งเริ่มก่อตั้งมาจากกิจการด้านการท่องเที่ยวและดำเนินกิจการมาได้สามรุ่นแล้ว ทุกวันนี้ซ่งซื่อกรุ๊ปพัฒนากลายมาเป็นเครือโรงแรมหรูอันดับหนึ่งภายในประเทศ เมืองไหวอันในฐานะฐานที่มั่นหลักของครอบครัวซ่งจึงมีโรงแรมเหลียนถังซึ่งสร้างขึ้นมาอย่างสูงใหญ่เสียดฟ้าถึงสามแห่งตั้งอยู่ภายในเมือง กลายเป็นสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองไหวอัน
เมื่อไม่นานมานี้โรงแรมเหลียนถังมีการซ่อมบำรุง พวกเขาได้ส่งคนไปที่แกลลอรี่เพื่อเลือกรูปภาพมาใช้ประดับตกแต่งภายในโรงแรม ศิลปินจำนวนมากต่างชะเง้อชะแง้คอรอคอยคาดหวังว่าผลงานของตนจะได้รับเลือก แต่คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายแล้วคนที่ ‘เข้าตา’ จะกลายเป็นแค่นักวาดตัวเล็กๆ ไร้ชื่อเสียงคนหนึ่ง
แม้กระทั่งตัวหลินเซินเองก็ยังรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
รูปภาพของเธอส่วนใหญ่เป็นภาพที่ไม่มีเรื่องราวและตัวละคร เคยมีคนบรรยายว่าผลงานของเธอไว้ว่าเหมือนทำถาดสีหกใส่ วาดไปตามอารมณ์ ไม่ใช่ภาพที่คนทั่วไปจะเข้าใจได้ แต่ที่สามารถเข้าไปแสดงอยู่ในแกลลอรี่ได้ก็เพราะว่าอาศัยเส้นสายของเพื่อนสนิทอย่างเมิ่งสืออวี่
และไม่รู้ว่าคนที่โรงแรมเหลียนถังส่งไปเลือกรูปภาพในครั้งนี้ตกลงแล้วมีประสาทเส้นไหนผิดปกติไปกันแน่
ในตอนที่หลินเซินมาถึงชั้นสิบสี่ รูปภาพที่เมื่อเช้าเธอเรียกคนให้เอามาส่งก็ถูกยกขึ้นมาวางไว้ตรงระเบียงทางเดินเรียบร้อยแล้ว รูปภาพเหล่านั้นถูกบรรจุไว้ในกล่องทรงยาว วางนอนอยู่ข้างในอย่างเป็นระเบียบเพื่อป้องกันไม่ให้หักงอหรือเป็นรอย ข้างๆ กล่องมีผู้ช่วยสวมแว่นตากรอบทองคนหนึ่งยืนอยู่และกำลังนำรูปภาพออกมาวางเรียงบนพื้นอย่างระมัดระวังเพื่อเตรียมใส่กรอบใหม่แล้วนำขึ้นไปแขวนบนกำแพง
เมื่อเห็นหลินเซินมาถึงแล้ว ผู้ช่วยก็ขยับแว่นตาส่งยิ้มให้แล้วเอ่ยทักเธอ “คุณหลินมาแล้วเหรอครับ” เขาเบี่ยงตัวหลบให้ชายหนุ่มสวมเชิ้ตขาวที่ยืนอยู่ด้านหลังพร้อมแนะนำตัวกับหลินเซิน “ท่านนี้คือประธานซ่งของพวกเรา เป็นคนที่เลือกผลงานของคุณหลินครับ”
หลินเซินมองไปยังประธานซ่งที่ผู้ช่วยแนะนำ นึกไม่ถึงว่าจะได้เห็นใบหน้าอ่อนเยาว์ สันกรามคมชัดใบหน้าหนึ่ง
เขาเองก็มองมาที่หลินเซินในขณะที่รับเสื้อสูทซึ่งผู้ช่วยพาดไว้บนแขนมา คิ้วคมดูเย็นชา พลางยื่นมือออกมาหาหลินเซิน “ซ่งเซียวหาน”
นิ้วของเขาขาวมาก ข้อนิ้วเรียวยาว เปิดเผยนาฬิกาเรือนสีทองหม่นบนข้อมือ ทั้งดูทรงอำนาจแต่ก็แฝงด้วยความเรียบง่าย หลินเซินตัวแข็งเกร็ง เม้มปากแน่น ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงยื่นมือออกไปแตะปลายนิ้วกับซ่งเซียวหานเล็กน้อย จากนั้นชักมือกลับมาอย่างรวดเร็ว “สวัสดีค่ะ ฉันหลินเซิน”
ซ่งเซียวหานพยักหน้าเบาๆ สายตากวาดมองไปบนรูปภาพ “รูป…” เขาชะงักไปก็พูดต่อ “ไม่เลว”
“ขอบคุณค่ะ” หลินเซินตอบกลับเสียงเบา
ซ่งเซียวหานมองประเมินรูปภาพบนพื้นสักพักก็ก้มตัวลงไปหยิบรูปภาพสองภาพขึ้นมาเทียบบนกำแพง หลินเซินช้อนสายตาขึ้นมองตามพลันรู้สึกว่ารูปภาพที่สีสันสดใสหลายสิบภาพของตัวเองเหล่านี้ช่างไม่เข้ากับสไตล์ที่ดูสูงส่งเย็นชาของโรงแรมเหลียนถังเลยสักนิด
ซ่งเซียวหานมีใบหน้าเย็นชาทำให้คาดเดาอารมณ์ได้ยาก หลินเซินซึ่งกำลังกระวนกระวายใจอยู่เห็นซ่งเซียวหานพยักหน้าให้ผู้ช่วย จากนั้นผู้ช่วยจึงรีบเดินมาตรงหน้าเธอทันที “คุณหลิน ประธานซ่งพอใจกับรูปภาพของคุณมาก ไม่ทราบว่าคุณมีข้อเสนอแนะอะไรเกี่ยวกับการแขวนรูปภาพพวกนี้ไหมครับ”
หลินเซินรู้สึกประหลาดใจระคนตกใจไม่น้อย เธอนึกไม่ถึงว่าคนคนนี้จะชอบรูปภาพของตัวเองจริงๆ หญิงสาวเม้มปาก คิดใคร่ครวญทุกอย่างก่อนเอ่ยอกไป “ฉันว่า…สองภาพนี้แขวนเอาไว้ที่ห้องรับแขกจะเหมาะกว่านะคะ ส่วนรูปภาพพวกนี้…ค่อนข้างเหมาะกับทางเดินมากกว่าค่ะ”
ผู้ช่วยเงยหน้ามองซ่งเซียวหาน ซ่งเซียวหานหลุบตาลงน้อยๆ “ได้”
เมื่อได้รับคำอนุญาตจากเขา สีหน้าเคร่งเครียดของหลินเซินก็ผ่อนคลายลงในที่สุด “แต่ว่าสีพื้นของทางเดินฝั่งนี้กับสีหลักของรูปภาพดูไม่เข้ากันเท่าไหร่ บางทีถ้าทาสีกำแพงเป็นสีน้ำเงินอมเทาแทนน่าจะทำให้ทางเดินดูทรงพลังมากขึ้นนะคะ”
ซ่งเซียวหานหน้าไม่เปลี่ยนสี “เปลี่ยน”
หลินเซินยืนอยู่ติดกำแพง มือไพล่ไปด้านหลัง แล้วในที่สุดก็เอ่ยประโยคสุดท้ายออกมาได้ “เมื่อครู่ตอนขึ้นมาฉันลองดูสไตล์ของห้องโถงหลักแล้ว รูปภาพที่มีอยู่ตอนนี้ยังไม่เหมาะสมกับบริเวณนั้นเท่าไหร่ แต่หลังกลับไปแล้วฉันสามารถวาดขึ้นมาใหม่ให้ได้ค่ะ”
ซ่งเซียวหานติดกระดุมชุดสูทเม็ดที่สอง “ตกลงครับ”
นิสัยการทำงานอย่างเฉียบขาดของซ่งเซียวหานนั้นเข้ากันกับวิธีการพูดของเขามาก เรื่องนี้ก็ทำให้หลินเซินรู้สึกผ่อนคลายลงไม่น้อยเช่นกัน
ตอนที่ลงลิฟต์มา หลินเซินก้มมองโทรศัพท์มือถือ พบว่าเวลาเพิ่งผ่านไปแค่ชั่วโมงเดียว ทว่าในช่วงเวลาสั้นๆ แค่นี้แสงแดดร้อนแรงกลับปกคลุมทั่วทั้งตัวเมืองแล้ว เธอไม่ได้พกร่มมาจึงยกมือขึ้นบังแดดแทน ปลายนิ้วของเธอพาดอยู่บนคิ้ว เพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าวผู้ช่วยที่สวมแว่นตากรอบทองก็ไล่ตามมา ในมือของเขามีร่มสีดำคันหนึ่ง
“คุณหลิน! แดดแรงเกินไปแล้ว ซ้ำแถวนี้ยังเรียกรถยาก คุณเอาร่มไปด้วยเถอะครับ”
หลินเซินรู้สึกตกใจระคนประหลาดใจอยู่บ้าง ขนตางอนหนากะพริบไหวเบาๆ ก่อนเอ่ยขอบคุณเสียงเบา
ผู้ช่วยยิ้มแย้ม “เป็นคำสั่งของประธานซ่งทั้งนั้นครับ”