หญิงสาวพูดเร็วมาก น้ำเสียงก็ค่อนข้างดุดัน เมื่อหลินเซินนึกถึงท่าทางเวลาซ่งเซียวหานพูดตามปกติแล้วก็รู้สึกอยากจะขำออกมาเล็กน้อย เธอจึงรีบเอ่ยปลอบ “ไม่เป็นไรค่ะ! ฉันไว้ใจคุณหมอคนนี้ แค่ทำแผลเอง”
หญิงสาวยักคิ้วให้เขาอย่างได้ใจ น้ำเสียงก็อ่อนลง “อย่าคิดว่าสัตวแพทย์จะมีความรู้แค่การรักษาสัตว์ อีกอย่างฉันแค่จะทำแผลให้ แผลขีดข่วนแบบนี้ไม่ได้ยากเกินความสามารถของฉันหรอก แต่อย่าลืมไปฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าด้วยล่ะ”
ระหว่างที่พูดสัตวแพทย์หญิงก็ช่วยฆ่าเชื้อให้หลินเซินอย่างคล่องแคล่ว แล้วทาทิงเจอร์ไอโอดีนรอบบาดแผลก่อนจะใช้ผ้าก๊อซปิดแผลให้ ทำทุกอย่างเสร็จในรวดเดียว
หลินเซินเก็บมือกลับมาพร้อมเอ่ยอย่างจริงใจ “ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ!”
สัตวแพทย์หญิงเขย่งเท้าแล้วเก็บยากลับขึ้นไปบนชั้นวางยา พลางโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ “ไม่ใช่ว่าจะไม่เก็บเงินซะหน่อย แล้วก็เรียกฉันว่าเสิ่นมู่ก็พอแล้ว”
หลินเซินเพิ่งจะหยิบกระเป๋าสตางค์ แต่ซ่งเซียวหานหยิบเงินออกมาจ่ายให้เรียบร้อยแล้ว แมวดำตัวนี้เธอเป็นคนช่วย ค่ารักษาก็ควรเป็นเธอออกเอง แต่หลินเซินไม่เคยมีประสบการณ์แย่งจ่ายเงินกับใครมาก่อน ในช่วงสั้นๆ จึงได้แต่ยืนอึ้ง
เสิ่นมู่ยืนตรงเคาน์เตอร์แจ้งข้อมูล “อีกครึ่งเดือนให้มารับแมวกลับไป พวกคุณใครจะเป็นคนมาให้ทิ้งเบอร์เอาไว้ด้วย”
หลินเซินที่กลัวจะรบกวนซ่งเซียวหานรีบรับกระดาษกับปากกาในมือเสิ่นมู่มาทันที “ฉันจะเป็นคนมารับเองค่ะ นี่เบอร์โทรของฉัน”
ตอนเดินออกไปหลินเซินก็ชนเข้ากับกระดิ่งลมตรงประตูอันนั้นอีกครั้ง กระดิ่งลมที่คล้ายลูกกระสุนหกนัดนั้นทำได้สมจริงมากๆ เวลาที่มันกระทบกัน กระทั่งเสียงกระดิ่งก็ยังฟังดูทุ้มหนัก
ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะเดินพ้นรั้วด้านหลังก็มีเสียงเพลงประกอบซีรี่ส์เกาหลีอันไพเราะพร้อมเสียงร้องไห้แหบแห้งของเสิ่นมู่ดังขึ้นอีกครั้ง ซ่งเซียวหานขมวดคิ้วอย่างห้ามไม่ได้ หลังขึ้นรถเขาก็ถามเธอว่า “จะไปโรงพยาบาลไหนดีครับ”
หลินเซินตอบกลับเสียงเบา “แค่ฉีดวัคซีนไปคลินิกใกล้ๆ แถวนี้ก็ได้ค่ะ ยังไงคุณหมอเสิ่นก็ทำแผลให้ดีแล้ว ฉันไม่รู้สึกเจ็บเท่าไหร่แล้วด้วย”
ซ่งเซียวหานพาเธอไปที่คลินิกแห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากคลินิกสัตว์ของเสิ่นมู่นัก หลังจัดการให้หลินเซินเข้าพบกับแพทย์และฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ก็กลับมาขึ้นรถ
“หมอเสิ่นคนนี้…” เขานวดหว่างคิ้ว ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่หันหน้ากลับมาถามแทนว่า “จะให้ส่งคุณกลับบ้านหรือว่า…”
หลินเซินมองแผลบนมือ สภาพแบบนี้ให้ไปซื้อสีเองก็คงไม่สะดวก เธอถอนหายใจเบาๆ ตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ประธานซ่ง เมื่อครู่คุณขับไปแถวเส้นเลียบทะเลมีธุระอะไรต้องไปทำหรือเปล่าคะ ฉันทำให้คุณเสียเวลาเข้าให้แล้ว ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ”
ซ่งเซียวหานยิ้มน้อยๆ “แค่มื้ออาหารเล็กๆ มื้อหนึ่งครับ” เขาสตาร์ตเครื่องพร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “ผมจะส่งคุณกลับบ้านแล้วกัน”
หลินเซินพยักหน้า
คลินิกสัตว์อยู่ห่างจากตรอกเหล่าไหวไปสองบล็อก ซึ่งนับว่าไม่ไกลกันนัก ซ่งเซียวหานพาเธอมาส่งถึงปากทางเข้าตรอก ในตอนที่เปิดประตูรถเขาก็คล้ายคิดอะไรขึ้นมาได้จึงเอ่ยกับหลินเซินว่า “คุณรอเดี๋ยว”
ซ่งเซียวหานกลับตัวเดินไปเปิดกระโปรงรถด้านหลัง แล้วหยิบถุงกระดาษที่ห่อไว้อย่างสวยงามถุงหนึ่งออกมา “ให้คุณ”
หลินเซินชำเลืองมองเห็นโลโก้น้ำหอมชาแนลบนถุงแล้วรู้สึกลังเล “นี่คือ…”
“ช่วงนี้เจรจาธุรกิจกับพวกเขา อีกฝ่ายเลยเอามาให้” เขาเม้มปากยิ้ม “แต่ผมไม่ได้ใช้”
เขายิ้มอย่างจริงใจเกินไป มิหนำซ้ำของชิ้นนี้ก็ไม่ใช่ของที่เขาจงใจซื้อมาให้ ถ้าเธอไม่รับก็อาจจะดูเล่นตัว หลินเซินเลยยื่นมือไปรับไว้พร้อมเอ่ยเสียงเบา “ขอบคุณค่ะประธานซ่ง!”
เมื่อเห็นหลินเซินยอมรับของขวัญ รอยยิ้มของเขาก็ยิ่งกว้างมากขึ้น “ไว้เจอกันใหม่ครับ!”
จนกระทั่งรถยนต์หายไปจากสายตาแล้วหลินเซินถึงได้ถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนกลับตัวเดินเข้าไปในตรอก ครั้งแรกที่เธอได้เจอซ่งเซียวหาน เขาดูเหมือนภูเขาน้ำแข็งลูกหนึ่ง ทั้งเย็นชาและเคร่งขรึม ตอนนั้นเธอถึงขั้นรู้สึกแอบกลัวเขาอยู่บ้าง แต่หลังได้เจอกันอีกครั้งซ่งเซียวหานกลับอ่อนโยนมากขึ้นทุกครั้ง ราวกับดวงอาทิตย์ที่ลอยขึ้นมาด้านหลังภูเขาน้ำแข็งอย่างช้าๆ
แต่ถ้าเกิดทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะเสียงของเธอส่งผลกระทบต่อท่าทีที่เขามีให้เธอ…งั้นทุกอย่างที่เธอได้รับจากเขาก็ล้วนได้รับมาอย่างน่าละอายใจจริงๆ