หลังจากเคลียร์สถานการณ์เรียบร้อย ทุกคนก็กลับมารวมกลุ่มกันอีกครั้งและพากันเดินไปยังร้านอาหารทะเลที่อยู่ไม่ไกลจากสวนสาธารณะนั้นเพื่อรับประทานมื้อเย็น
ร้านอาหารขนาดเล็กแต่ตกแต่งอย่างน่ารักและเป็นกันเอง ทั้งยังกรุ่นไปด้วยกลิ่นอายของลมทะเลสร้างความประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในร้าน แม้รสชาติอาหารจะเน้นกลิ่นนมเนยแบบตะวันตกเป็นหลัก แต่ความสดใหม่และการปรุงอย่างถึงเครื่องก็ช่วยเพิ่มความเอร็ดอร่อยได้ไม่น้อย
ซึ่งนอกจากบรรยากาศร้านแล้วเหตุการณ์เมื่อครู่ก็ทำให้รื่นรมย์ไม่แพ้กัน ตลอดมื้ออาหารมีเสียงแสดงความยินดีพร้อมคำแหย่เย้าต่างๆ นานาเซ็งแซ่ ซึ่งทั้งกองพลและมนธิราต่างก็ยิ้มรับด้วยใบหน้าชื่น ส่วนอีกคนที่ได้รับความสนใจไม่แพ้กันก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าของแผนการที่ทุ่มทุนจัดฉากและมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน
“ว่าแต่ตอนแรกไม่ได้คุยกันแบบนี้นี่ณาณ่า ทำไมอยู่ดีๆ เปลี่ยนบท”
“ถ้าตามบทพี่เกมก็ได้ยืนทื่อเป็นยักษ์เฝ้าประตูวัดน่ะสิคะ” ใบหน้าร่าเริงปราศจากคราบน้ำตาหรือความโศกเศร้าโดยสิ้นเชิงตอบ
“แค่ได้ยินเราร้องไห้ พี่ก็ทื่อไม่อยู่แล้ว” ถ้าไม่เกรงใจแฟนหมาดๆ กองพลคงค้อนขวับให้อีกวง “ใครจะเหมือนเรา เด็กไรไม่รู้ ตีบทกระจุยจริงๆ นี่ถ้าเบรกมนไม่ทัน คืนนี้พี่ได้อิ่มแห้วแน่”
คำบ่นนั้นก่อให้เกิดเสียงหัวเราะจากคนรอบข้าง ในขณะที่กุลรัตน์ซึ่งไม่ได้อยู่ร่วมเหตุการณ์ตอนวางแผนถามขึ้นอย่างสนใจ
“อ้าว แล้วแผนตอนแรกเป็นยังไงล่ะ”
“คือจริงๆ แล้วตกลงกันว่าพอมนเดินมา ณาณ่าจะต้องสารภาพรัก แล้วให้ไอ้เกมปฏิเสธ แต่นี่อยู่ดีๆ ก็โพล่งออกมาว่าไอ้เกมสารภาพเฉยเลย”
“แหม จะให้ซี้ซั้วพูดได้ไงคะคำนั้น ณาณ่าพูดคำว่ารักได้กับคนแค่คนเดียวเท่านั้นแหละค่ะ” พูดแล้วก็ไม่พลาดที่จะหันไปยิ้มหวานให้กับ ‘คนเดียว’ คนนั้น ซึ่งเจ้าตัวก็ทำหน้าเมื่อยอย่างรู้เท่าทันว่าเจ้าหล่อนจะต้องไม่ปล่อยโอกาสนี้เป็นแน่
…นั่นไงล่ะ ถนัดนักไอ้มุกจีบหนุ่มในที่สาธารณะเนี่ย
“ก็แล้วทำไมต้องทำเรื่องให้วุ่นวาย บอกกันธรรมดาๆ ก็ได้”
“ผมกลัวมนจะไม่ยอมฟัง หรือถึงฟังก็อาจจะไม่เชื่อ เลยต้องทำตามแผนที่ณาณ่าวางให้” กองพลบอกด้วยใบหน้าเขินๆ แต่ไม่วายทำตาเชื่อมส่งให้คนรัก ซึ่งคำตอบนั้นทำให้กุลรัตน์โพล่งความจริงที่แอบซ่อนไว้อีกข้อหนึ่งอย่างอดไม่ได้
“จะไม่ฟังได้ไง ยายมนก็ชอบนายเกมอยู่ แต่ไม่กล้าพูดเพราะเกมมันเด็กกว่า”
พูดจบเสียงอุทานก็ดังขึ้นในหมู่หนุ่มๆ ในขณะที่พาณาสน์เริ่มรู้สึกสังหรณ์ประหลาด ส่วนคนพูดก็ถูกมนธิราที่หน้าเห่อสีขึ้นกะทันหันระดมฝ่ามือใส่อย่างไม่ยั้ง
“โอ๊ย พอแล้วๆ ทำเขินไปได้ พวกผู้หญิงรู้กันหมดตั้งนานแล้ว ณาณ่าไม่รู้เหรอ” ท้ายประโยคพี่สาวใหญ่ของกลุ่มหันไปถามณอันดาที่กำลังจิ้มกุ้งย่างเนื้อแน่นชิ้นสุดท้ายใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อย
“รู้ค่ะ”
“อ้าว แล้วทำไมไม่บอก” กองพลร้องขึ้น
“บอกธรรมดาก็ไม่สนุกสิคะ” จอมวางแผนตอบหน้าตาเฉยก่อนโบกมือเรียกพนักงานเพื่อขอสั่งอาหารหวานมาล้างปาก ปล่อยให้คนฟังนั่งมองหน้าอ้าปากค้างกันเป็นแถว ส่วนพาณาสน์นั้นก็ไม่แคล้วนั่งส่ายหน้าอย่างเวทนาตัวเอง
…ตกหลุมยายตัวแสบอีกจนได้!