“พี่ไม่ได้ซื้อหรอกนะ ไปฉกฟรีมาจากร้านไอติม ไม่ต้องทำหน้าดีใจขนาดนั้นก็ได้”
ณอันดายิ้มหน้าบาน ส่วนหัวใจนั้นทั้งบานและฟูฟ่องยิ่งกว่า “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เอามาจากที่ไหนไม่สำคัญ เพราะสิ่งสำคัญกว่าคือพี่พัทเป็นคนให้ณาณ่า ขอบคุณนะคะ”
พูดจบเธอก็ยกดอกไม้นั้นขึ้นจรดจมูกด้วยความทะนุถนอม ทั้งที่มันไม่มีกลิ่น…หากสำหรับคนรับแล้วมันช่างหอมชื่นใจยิ่งนัก ต่อให้เอาดอกไม้ราคาแพงลิบทั้งสวนมาแลก เธอก็จะขอเลือกดอกไม้ไร้กลิ่นดอกเดียวนี้เท่านั้น
“หนาวมั้ย” ชายหนุ่มถามขึ้นอีกเมื่อเหลือบเห็นมือเล็กที่ประคองดอกไม้ราวกับของมีค่านั้นเปล่าเปลือย
หญิงสาวยิ้มพลางส่ายหน้า หากเขาก็ยังเอื้อมมาจับมือเธอเบาๆ
“มือเย็นขนาดนี้ยังว่าไม่หนาวอีก” ว่าแล้วก็ล้วงกระเป๋าเสื้อแจ็กเก็ตเพื่อหยิบถุงมือของตัวเองส่งให้
“แล้วพี่พัทไม่หนาวเหรอคะ เพิ่งกินไอติมไปด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้เอง ที่หยิบติดมาก็เผื่อให้เรานั่นแหละ รู้ตัวว่ามือเย็นง่ายแต่ไม่ยอมพกถุงมือ”
รอยยิ้มบนริมฝีปากยิ่งเปิดกว้างขึ้น ดวงตาทอประกายอ่อนหวานกับความห่วงใยเอาใจใส่เช่นที่เขามีให้มาตลอด
…พี่พัทน่ารักแบบนี้ จะไม่ให้ณาณ่ารักได้ไงคะ
เธอก้มมองถุงมือผ้าเนื้อนุ่มซึ่งตนเองรับมาสวมเรียบร้อยก่อนดึงออกหนึ่งข้างเพื่อส่งกลับให้เจ้าของ
“แบ่งกันใส่คนละข้างแล้วกันนะคะ”
“ไม่เป็นไร ณาณ่าใส่ไปเถอะ”
แต่เมื่อหญิงสาวยังไม่ยอมละความพยายามในการยื่นของกลางคืนให้เขา พาณาสน์ที่รู้นิสัยดื้อดึงของอีกฝ่ายเป็นอย่างดีจึงต้องรับมาสวมไว้ ก่อนจะเอื้อมไปคว้ามือบางมากุมกระชับไว้ในมือใหญ่ไปตลอดทาง
ใต้ท้องฟ้ากว้างสีดำสนิทอันเกลื่อนไปด้วยแสงระยิบของดวงดาวที่เห็นได้ชัดเจนกว่าเมืองใหญ่ บรรยากาศอบอุ่นอ่อนหวานในเมืองเล็กๆ แห่งนี้เป็นเหมือนความฝันแสนดีที่เธอจะขอซึมซับและประทับมันเอาไว้ในใจตลอดไป
วันรุ่งขึ้นหนุ่มสาวทั้งหมดตื่นแต่เช้าเพื่อเช็กเอาต์ออกจากที่พัก ตามกำหนดการที่วางแผนไว้พวกเขาจะไปเดินเที่ยวบริเวณท่าเรือใหญ่ซึ่งทอดตัวตามแนวชายหาดอันเป็นจุดท่องเที่ยวขึ้นชื่ออีกแห่งของเมืองนี้ก่อนจะเดินทางกลับในช่วงบ่าย
ท้องฟ้าใสสีจัดกับแสงแดดเจิดจ้าทำให้อากาศวันนี้สดใสและอุ่นสบายไม่แพ้เมื่อวาน นอกจากร้านรวงซึ่งตกแต่งตามสไตล์พื้นเมืองที่เรียงรายตลอดแนวยาว ยังมีทางเดินที่โค้งเลียบชายหาดให้เดินออกไปชมวิวและรับลมทะเลสลับเป็นระยะ
ทิวทัศน์อันสวยงามทำให้บรรดานักท่องเที่ยวไม่รอช้า แยกตัวกันเก็บภาพในมุมต่างๆ อย่างเพลิดเพลิน ก่อนที่ใครคนหนึ่งจะเผลอออกปากเรียกณอันดาเป็นนางแบบจำเป็นให้ มหกรรมโพสลืมอายจึงเริ่มต้นขึ้น
หญิงสาวเปลี่ยนท่าให้เพื่อนๆ ถ่ายรูปได้สารพัดแบบ ทั้งยืน นั่ง เดิน บิด กระโดด ไม่เว้นแม้แต่การนอนกลิ้งลงกับพื้น รวมถึงการปั้นหน้าหลากหลายอารมณ์ เช่น การทำแก้มป่อง ขยิบตา แยกเขี้ยว ยิงฟัน ดึงหน้าเหวี่ยง และแสร้งว่าเผลออย่างเป็นธรรมชาติ