“หือ เปล่านี่คะ แค่พูดเปรียบเทียบขำๆ”
“เหรอคะ เพิ่งรู้ว่าเรื่องแบบนี้เอามาขำได้ด้วย”
ณอันดากะพริบตาอย่างเริ่มงงอีก “ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ“
“เพราะสำหรับบางคนมันเหมือนคำพูดดูถูกไงคะ”
ถึงตรงนี้ความงุนงงเมื่อครู่ก็ค่อยๆ กระจ่างทีละน้อย ทั้งคำพูดที่พยายามส่อนัย น้ำเสียงจิกกัดตวัดหาง และดวงตาที่จ้องมาจนเธอเสียวแทนว่าลูกตาจะพลัดหลุด รวมเข้าด้วยกันแล้วคำตอบก็ชัดเจนว่าคนพูดมีเจตนาอะไร
…ด๊ายยยย คุณพี่ขอมา คุณน้องก็จัดให้นะคะ
“แหม ‘บางคน’ นี่คิดมากจังนะคะ เขาแค่พูดถึงเฉยๆ ไม่ได้ซ่อนความหมายนัยอะไร ก็คิดว่าเขาดูถูกซะแล้ว แบบนี้ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่ดูถูก คนพูดหรือตัวเอง”
“ก็ว่าไม่ได้หรอกค่ะ เขาอาจจะเจอพวกคนรวยนิสัยเสียมาเยอะเลยต้องระแวงไว้ก่อน”
“ว้า น่าสงสารจริงๆ ชีวิตเขาคงเครียดมากนะคะ ถ้าได้เจอกัน ณาณ่าก็อยากจะบอกเขาว่าผู้หญิงน่ะคิดบวกแล้วจะสวยขึ้นทั้งหน้าตาและจิตใจนะคะ”
อรกัญญาตาลุกวาวขึ้นทันที “ณาณ่าว่าใคร”
คู่กรณียังสามารถรักษาใบหน้าให้ดูซื่อใสได้สนิท “จะว่าใครได้ยังไงคะ ก็พวกเราพูดถึง ‘บางคน’ กันอยู่ไม่ใช่เหรอคะ”
ก่อนที่การลับฝีปากจะเข้มข้นกว่านี้ วิภาวีที่เห็นอุณหภูมิอารมณ์ของเพื่อนไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ และทำท่าจะเสียคะแนนต่อหน้าคนอื่นก็รีบขัดทัพด้วยการชวนเพื่อนไปห้องน้ำ จึงเป็นโอกาสให้พาณาสน์จัดการคนข้างตัวบ้าง
“ไปเถียงเขาทำไมกันนะณาณ่า”
“เถียงอะไรกันคะ เปล่าสักหน่อย เขาเรียกว่าแลกเปลี่ยนทรรศนะต่างหากล่ะคะ”
ชายหนุ่มเคาะนิ้วกับศีรษะคนที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ว่ายั่วอารมณ์คนอื่นไว้ขนาดไหน “ไม่ต้องมาทำแบ๊วกับพี่เลย คิดว่ารู้ไม่ทันเราหรือไง”
ณอันดารีบกระแซะเข้ากอดแขนอย่างออดอ้อน “โธ่ๆๆ ใครจะคิดแบบนั้นคะ ณาณ่าบอกแล้วว่าพี่พัทอ่ะรู้ใจณาณ่าที่สุดแล้ว สมกับเป็นที่รัก…”
หญิงสาวหัวเราะกิ๊กเมื่อพาณาสน์ทำตาดุใส่เพราะคำพูดสุดท้าย “ที่รักของพวกเราทุกคนไงคะ แหม คิดไปถึงไหน”
“พอๆ” มือใหญ่ผลักศีรษะที่แกล้งเอนซบลงกับไหล่ออกเบาๆ “แล้วเดี๋ยวอ้อนออกมาก็ไม่ต้องไปชวนเขาทะเลาะอีกนะ”
“ไม่ได้ชวนนะคะ พี่เขาถามมา ณาณ่าก็ต้องตอบสิคะ ไม่งั้นก็กลายเป็นเสียมารยาทอีก”
เธอพูดแล้วนิ่งคิดถึงปฏิกิริยาของหญิงสาวทั้งสองที่เพิ่งผละไป อรกัญญาน่ะแสดงออกชัดเจนแล้วว่าไม่ชอบหน้าอย่างมาก ส่วนวิภาวีนั้นถึงจะไม่มีท่าทีต่อต้านแต่ก็ดูอึดอัดใจทุกทีเวลาจะเสวนากับเธอ ตกลงว่าโกรธตั้งแต่เรื่องขอให้ย้ายที่นั่ง หรือเผลอไปเหยียบตาปลาเตะตาตุ่มกันตอนไหน
“หรือว่าเรากลับกันเลยได้มั้ยคะ”
“หือ?” พาณาสน์ส่งเสียงในลำคออย่างงุนงงเมื่อคนข้างตัวชวนกลับกะทันหัน
“ขืนอยู่ต่อแล้วพี่อ้อนพูดอะไรมาอีก ณาณ่าห้ามปากไม่ได้ก็งานกร่อยสิคะ”