เมื่อลงความเห็นกันได้เช่นนั้น หญิงสาวจึงได้รับการถ่ายทอดถึงประเด็นอันเป็นปัญหาที่กำลังพูดคุยกันอยู่ ซึ่งเมื่อเล่าจบเธอก็มองหน้าเจ้าของเรื่องก่อนยิงคำถาม
“สรุปได้ว่าพี่เกมชอบพี่มน แล้วมันมีปัญหาตรงไหนคะ”
“ก็ตรงที่ไอ้เกมมันไม่รู้จะทำยังไงน่ะสิ”
“แล้วทำไมต้องทำยังไงด้วยล่ะคะ รักเขาก็บอกเขาไปสิคะ ไม่เคยได้ยินเหรอคะ เพลงที่ร้องว่า…ถ้าหากรักนี้ ไม่บอกไม่พูดไม่กล่าว แล้วเขาจะรู้ว่ารักหรือเปล่า อาจจะไม่แน่ใจ อยากให้เขารู้ ฉันคงต้องแสดงออก ไม่ใช่ให้ใครเขาบอก หรือว่าให้เขาเดาเองว่ารักเธอ” เสียงใสที่พูดแจ้วๆ อยู่ตอนแรกใส่ทำนองประกอบเนื้อเพลงในทันที ดูจากท่าทางแล้วถ้าคลื่นลมสงบกว่านี้อีกสักนิด เธอคงลุกขึ้นเต้นรีวิวประกอบเพลงตามจังหวะไปด้วย
ไกด์หนุ่มต่างชาติซึ่งเป็นคนเดียวในเรือที่ฟังภาษาไทยไม่ออกหันมามองนักร้องจำเป็นที่โชว์พลังเสียงพร้อมใส่อารมณ์กับเพลงราวกับกำลังแสดงโอเปร่าแล้วยิ้มกว้าง “เพลงเพราะนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ” นักร้องสาวยิ้มแป้นรับคำชม “คุณเป็นผู้ชายที่มีดีที่หูมากๆ”
คำพูดนั้นทำคนทั้งเรือกุมขมับ หากคนที่มีหูเป็นเลิศกลับระเบิดหัวเราะเสียงดัง
“ถึงจะฟังดูแปลกๆ ไปหน่อย แต่ผมก็เชื่อว่านั่นเป็นคำชมนะ เพราะฉะนั้น…ขอบคุณครับ”
พอเจรจาต้าอวยว่าด้วยการชื่นชมกันไปมาจนเป็นที่พอใจ ณอันดาก็หันกลับมาสู่วงสนทนาอีกครั้ง
“เห็นมั้ยคะ เนื้อเพลงยังสนับสนุนณาณ่าเลย” คนพูดยังโมเมเข้าข้างตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง “หรือพี่เกมคิดมากเรื่องที่พี่มนอายุมากกว่า”
กองพลส่ายหน้าปฏิเสธทันที ในขณะที่อรรถนนท์รับหน้าที่แจกแจงปัญหาซึ่งเป็นเหตุให้คำแนะนำของเธอเป็นเรื่องยาก
“ก็อยากจะบอกอยู่หรอกจ้ะน้องณาณ่า แต่ดูดีๆ สิว่านี่น่ะใคร”
“ก็พี่เกมไงคะ”
“แล้วพี่เกมปากเป็นยังไงคะ”
“ปากหมาค่ะ”
สิ้นเสียงที่ให้คำตอบได้อย่างเฉยเมยแต่เต็มปากเต็มคำและฟังชัดถึงประสาทหูชั้นใน คนปากหมาก็ส่งค้อนให้ ก่อนถอนหายใจอย่างปลงๆ เมื่อหมดหนทางโต้ตอบ
“นั่นแหละ เพราะงั้นน้องณาณ่าคิดว่ามันจะพูดภาษาคนกับเขารู้เรื่องเหรอ”
“แหม คำว่ารักไม่ได้สำคัญที่คำพูด แต่สำคัญที่การพูดต่างหากล่ะคะ ไม่ว่าพี่เกมจะพูดภาษาอะไร แค่พี่เกมพูดด้วยตัวเองในแบบของตัวเอง ก็ทำให้คนฟังสัมผัสถึงความจริงจังและจริงใจได้แล้วล่ะค่ะ”
แม้ตัวคนพูดจะมีอัตราความน่าเชื่อถือติดลบ หากประโยคแสนดีจนสะดุดหูนั้นก็ดูเป็นเหตุเป็นผลเกินกว่าจะมองข้าม จึงกล่อมให้คนฟังทั้งหลายทำท่าคล้อยตามได้ไม่น้อย
“แต่ถ้าพี่เกมไม่มั่นใจ กลัวพี่มนไม่ฟังหรือไม่เชื่อ ก็ต้องสร้างสถานการณ์ค่ะ” หญิงสาวว่าตบท้าย ซึ่งหากใครสังเกตสักนิดจะเห็นแววตาคู่นั้นวาววับขึ้นอย่างนึกสนุก
“ยังไง”
ใบหน้าที่ยิ้มกรุ้มกริ่มเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นลำบากใจเล็กน้อยเมื่อเธอแสร้งถอนใจเบาๆ “เฮ้อ จริงๆ แล้วณาณ่าเป็นคนแสนดี เรียบร้อยมากๆ เลยนะคะ ไม่ค่อยถนัดเรื่องแผนกงแผนการอะไรนี่หรอกค่ะ แต่เห็นแก่พี่พัทที่สงสารเพื่อน ณาณ่าจะพยายามนะคะ”
กองพลฟังแล้วเกิดอาการคันไม้คันมืออยากเขย่าศีรษะสาวเรียบร้อยขึ้นมาติดหมัด แต่เมื่อยังต้องพึ่งพาอาศัยในฐานะเป็นผู้หญิงคนเดียวในที่นี้จึงได้แต่แยกเขี้ยวยิ้มอย่างอดทน
“พวกพี่เชื่อแล้วจ้ะ ไม่ต้องอารัมภบทมากก็ได้”
กระนั้นหญิงสาวก็ยังไม่ปริปากราวกับจะรอให้คนสำคัญออกปากด้วยตัวเองก่อน พาณาสน์จึงต้องรีบพูดตามใจคนเล่นตัว
“เอ้า จะว่าอะไรก็ว่าไป คนอื่นรอฟังอยู่”
อีกฝ่ายยิ้มอย่างพอใจแล้วค่อยเฉลยสิ่งที่คิดไว้ “คืองี้ค่ะ เดี๋ยวเราไปดักพี่มนตรงที่นัดเจอกัน พวกพี่โทรบอกคนอื่นให้แกล้งเดินแยกตัวออกมาก่อน ให้พี่มนมาที่จุดนัดพบคนเดียว แล้วเจอณาณ่ากำลังยืนร้องไห้สารภาพรักกับพี่เกมอยู่ ทีนี้พี่เกมก็ปฏิเสธณาณ่า แล้วก็บอกว่ารักพี่มนไงคะ”
คนรอบข้างที่ตั้งใจฟังแผนการอย่างคาดหวังถึงกับนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนกลอกตามองหน้ากันราวกับอยากครางประสานเสียงเป็นสุภาษิตโบราณที่ว่า…คบเด็กสร้างบ้านจริงๆ เลยกู!
“ณาณ่าเอ๊ย แล้วไอ้บ้าที่ไหนจะเชื่อ ใครๆ ก็รู้ว่าเราชอบนายพัท”
“อันนั้นก็ถูกต้องค่ะ ใครๆ ก็รู้…ใช่มั้ยคะพี่พัท” ณอันดายิ้มร่าอย่างถูกใจพร้อมส่งตาหวานให้เจ้าของชื่อที่ถูกพาดพิงซึ่งนั่งอึ้งอยู่หนึ่งที แล้วหันกลับมาอธิบายต่อ
“จริงอยู่ว่าคนปกติก็คงไม่เชื่อหรอกค่ะ แต่กับไอ้บ้า เอ๊ย คนมีพิรุธในใจเนี่ย เห็นฉากสาวสารภาพรักกับคนที่ตัวเองมีใจด้วยแบบนี้เข้าไปก็ต้องมีวูบๆ บ้างแหละค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าสาวคนนั้นสวยและแสนดีด้วยล่ะก็ รับรองว่ายิ่งออกอาการแน่ๆ ค่ะ”
อรรถนนท์ที่ทำหูทวนลมกับประโยคสุดท้ายซึ่งคนพูดแอบหยอดลูกยอให้ตัวเองหน้าตาเฉยค้านขึ้น “แต่มันการ์ตู๊น การ์ตูน พล็อตยอดนิยมมากๆ เลยนะ”
“ฮั่นแน่ พี่อรรถเป็นแฟนพันธุ์แท้การ์ตูนผู้หญิงใช่มั้ยคะเนี่ย รู้ดี รู้ลึก รู้จริงมากๆ” เจ้าของแผนการว่า แล้วรีบเสริมต่อก่อนที่อีกฝ่ายจะรู้ตัวว่าถูกหลอกกัดเข้าให้
“ก็การ์ตูนสิคะ ผิดตรงไหน การ์ตูนนี่แหละค่ะความฝันของผู้หญิง”
ท่าทีไม่ไว้วางใจของผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งหมดไม่เป็นอุปสรรคต่อความมั่นใจและความมุ่งมั่นของหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย เพราะเจ้าตัวยังคงย้ำและยืนยันอย่างหนักแน่นด้วยรอยยิ้มกว้างขวางสุดๆ
“เอาน่า เชื่อณาณ่าเถอะค่ะ ไม่มีใครเข้าใจหัวอกลูกผู้หญิงได้ดีเท่าผู้หญิงสวยๆ ด้วยกันนะคะ”
พาณาสน์ที่นั่งนิ่งฟังลอบถอนหายใจอีกครั้ง…จะไม่น่าเชื่อที่สุดก็เพราะประโยคสุดท้ายนี่แหละ รู้ตัวบ้างมั้ยเนี่ย!