แม้จะยังเคลือบแคลง สงสัย ไม่วางใจ และรู้สึกมึนๆ กับแผน ‘ฉากสารภาพเพื่อรัก’ ของณอันดา แต่สุดท้ายทุกคนก็ยอมเข้าประจำที่ตามที่ตกลงกันไว้ จุดนัดพบคือสวนสาธารณะที่อยู่ห่างจากร้านเช่าเรือและจักรยานไปเพียงสามช่วงถนน สนามหญ้าสีเขียวสดกว้างขวางมีพื้นที่ด้านหน้าติดถนนและโอบล้อมด้วยทิวไม้ด้านหลัง มีชุดโต๊ะเก้าอี้ไม้สีน้ำตาลจางๆ วางไว้เป็นระยะบริเวณบ่อน้ำที่อยู่ริมสนามด้านหนึ่ง เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเย็นที่คนส่วนใหญ่กำลังเดินทางกลับบ้านทำให้สวนแห่งนั้นมีผู้คนผ่านไปมาบางตา
ตัวละครเอกทั้งคู่เลือกทำเลเป็นม้านั่งตัวหนึ่งใต้ต้นไม้ใหญ่ที่เพิ่งผลิใบสีอ่อนสวย ส่วนบรรดาผู้ชมถูกคุณผู้กำกับซึ่งควบตำแหน่งนางเอกด้วยสั่งให้ไปแอบดูอยู่ที่โต๊ะหลังโขดหินที่อยู่ไม่ไกลแต่อาศัยว่าเป็นมุมลับตา
“มนกำลังเดินมาแล้ว ส่วนคนอื่นๆ ถูกพี่โจดึงไปอีกทาง”
กองพลบอกหลังรับโทรศัพท์แจ้งความเคลื่อนไหวของกลุ่มเป้าหมายจากอรรถนนท์ซึ่งทำหน้าที่อธิบายแผนให้จิตติ สีหน้าเขาดูมึนงงเพราะยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าบ้าหรือเมาที่ยอมเล่นละครฉากนี้
“พี่เกมอย่าทำหน้าฉลาดน้อยสิคะ เดี๋ยวพี่มนก็สงสัยหรอก”
คุณผู้กำกับเฉพาะกิจเอ็ดเสียงเบาพลางชะเง้อชะแง้ไปทางที่มนธิราจะเดินเข้ามา ทันใดนั้นสายตาก็เหลือบเห็นเป้าหมาย หญิงสาวจึงรีบปิดหน้าระเบิดเสียงสะอื้นออกมาทันที
“ฮือ พี่เกมใจร้าย พี่เกมไม่สงสารณาณ่าเลย”
ทั้งที่เตี๊ยมกันไว้ดิบดี กองพลก็ยังอดตกใจกับเสียงร้องไห้อย่างกะทันหันนั้นไม่ได้ ภาพคนตรงหน้าที่คร่ำครวญราวกับถูกทำร้ายให้เจ็บปวดเหลือแสนนั้นดูเหมือนจริงจนเขาตื่นตะลึง หากเมื่อได้ยินประโยคที่ตามมา คำว่าตาเหลือกคงเป็นนิยามที่ดีที่สุด
“พี่เกมสารภาพรักกับณาณ่าต่อหน้าพี่พัทได้ยังไง ฮือๆ”
…หา!
ไม่เพียงแต่ตัวละครในฉากที่อ้าปากค้าง บรรดาผู้แอบชมที่ซ่อนตัวกันอยู่ไม่ห่างก็งุนงงไปตามๆ กัน
…เฮ้ย ทำไมกลายเป็นไอ้เกมสารภาพรักล่ะ!
“ฮึก…อยู่ดีๆ พี่เกมมาบอกรักอย่างนี้ ณาณ่าไม่สบายใจนะคะ ฮือ”
มนธิราชะงักเท้าที่กำลังก้าวเข้ามาหาคนทั้งสองทันทีที่ได้ยินคำพูดของสาวรุ่นน้อง หญิงสาวมองเหตุการณ์สะเทือนอารมณ์ตรงหน้าด้วยแววตาวูบไหว และเมื่อดวงตานั้นสบประสานเข้ากับชายหนุ่มที่ยืนละล้าละลังอย่างทำอะไรไม่ถูก เธอก็เอ่ยขอโทษที่เสียมารยาทด้วยเสียงแผ่วเบาและหันหลังเพื่อเดินจากไป
“เดี๋ยวสิมน”
กองพลคว้าแขนบางของเธอเอาไว้ รอยหม่นเศร้าตัดพ้อที่เคลือบแคลงบนใบหน้าอีกฝ่ายทำให้เกิดอาการหายใจติดขัด หากไม่อาจเอ่ยปากได้อย่างที่ใจต้องการ “มันไม่ใช่อย่างที่มนได้ยินนะ เอ่อ…คือว่า…คือ”
ณอันดาปล่อยโฮออกมาอีกทันที “พี่เกมยังเคลียร์กับณาณ่าไม่จบเลยนะคะ บอกมานะว่าสารภาพรักอย่างนี้ทำไม”
“พี่ไม่ได้ทำ!” อีกฝ่ายปฏิเสธเสียงดังเพื่อเอาชนะเสียงร้องไห้อันแสบแก้วหูนั้น “พี่รักมน ใครๆ ก็รู้ พี่จะสารภาพรักกับณาณ่าได้ไง”
คำประกาศอันหนักแน่นนั้นก่อให้เกิดความเงียบกริบตามมา
“ก็แค่นั้นแหละ” คนที่ร่ำร้องอยู่เมื่อครู่เงยหน้าขึ้นจากฝ่ามือที่ซบอยู่แล้วก็เดินผละไปทันที ทิ้งให้คนที่เพิ่งบอกรักและคนถูกบอกรักยืนตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ลำพัง…ถ้าไม่นับไทยมุงหลังโขดหินและโคนต้นไม้ทั้งหลาย