ทดลองอ่าน Count your lucky stars เปลี่ยนโชคร้ายให้กลายเป็นรัก บทที่ 1 – หน้า 10 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

Count your lucky stars เปลี่ยนโชคร้ายให้กลายเป็นรัก

ทดลองอ่าน Count your lucky stars เปลี่ยนโชคร้ายให้กลายเป็นรัก บทที่ 1

ขณะที่เลิกงานนั้นคนมากมายก็เคลื่อนตัวออก ถงเสี่ยวโยวกางแขนทั้งสองออกเพื่อกันคนที่ไหลเข้ามา ลู่ซิงเฉิงค่อนข้างพอใจมาก หัวหน้าแผนกออกแบบบอกว่าเธอมีกำลังมากเป็นเรื่องจริง ดูท่าทางเช่นนี้แล้วรอให้กระแสรายการสถานีถัดไป รันเวย์ผ่านไปก่อน ก็จะส่งเธอไปทำงานที่โกดังได้

ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้นก็มีเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่ามาจากแถวไหนพุ่งตรงเข้ามา ชนจนถงเสี่ยวโยวกระเด็นไป “บ.ก. ลู่คะ ฉันเป็นนักเรียนสถาบันการออกแบบ ฉันนับถือคุณมาก…”

เมื่อถูกคนรั้งไว้ สีหน้าของลู่ซิงเฉิงก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันที ดูท่าทางถงเสี่ยวโยวที่เป็นบอดี้การ์ด แม้แต่จะให้ไปคุมโกดังก็ไม่คู่ควร

เด็กสาวตื่นเต้นมากและไม่ได้สนใจสีหน้าเย็นชาของเขา เธอหยิบสมุดโน้ตออกมายื่นไปตรงหน้าลู่ซิงเฉิงด้วยความตื่นเต้น “ฉันลำบากมากกว่าจะมาเข้าร่วมงานแฟชั่นวีกครั้งนี้ได้ แล้วยังได้เจอกับคุณ ฉันขอลายเซ็นคุณหน่อยได้ไหมคะ”

ลู่ซิงเฉิงนิ่งไม่ขยับ สายตามุ่งตรงไปข้างหน้า แม้จะถูกชนจนกระเด็นไปแต่ถงเสี่ยวโยวก็ยังเข้าอกเข้าใจความรู้สึกของเด็กสาว เดินเข้าไปอย่างระมัดระวังและช่วยเด็กสาวเรียกลู่ซิงเฉิง “บ.ก…”

เด็กสาวยังคงไม่ยอมแพ้ “บ.ก. ลู่ ฉันเป็นแฟนคลับตัวยงของชิก ฉันชื่นชอบ…”

ในที่สุดลู่ซิงเฉิงก็ยอมเปิดปาก “คนที่ศรัทธาผมในโลกนี้มีมากมาย ผมต้องตอบรับทุกคนไหม”

บรรยากาศนิ่งเงียบไปสามวินาที เด็กสาวก็ยกมือปิดหน้าแล้ววิ่งไป

ลู่ซิงเฉิงลุกขึ้นจัดชายเสื้อให้เรียบร้อยแล้วเดินออกไปทางด้านนอก ถงเสี่ยวโยวยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงได้เอ่ยปากขึ้นว่า “คุณไม่เห็นค่าเขาใช่ไหม คุณยังพูดคุยหัวเราะกับคนรอบข้างได้อยู่เลย”

ลู่ซิงเฉิงชะงักฝีเท้า ใช้สายตาที่เหมือนกำลังมองดูเรื่องตลกมองมาที่เธอ แล้วหันกลับเดินตรงออกไป

แดลี่เดินขึ้นมาข้างหน้าคว้าแขนถงเสี่ยวโยวเดินออกไปพร้อมกับให้ความรู้เธอไปด้วย “ต่อไปอย่าถามคำถามโง่ๆ แบบนี้ ที่พูดคุยหัวเราะก็เพราะต้องทำงานกับคนพวกนั้น สำหรับเรื่องไม่เห็นค่า ลู่ซิงเฉิงไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตาอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับสถานะอะไรของพวกเขาสักนิด”

ลู่ซิงเฉิงไม่เห็นใครอยู่ในสายตาก็ไม่ใช่เรื่องอะไรใหม่ แต่ความโหดร้ายของเขา ตอนนี้เธอได้สัมผัสด้วยตัวเองแล้ว สิ่งที่น่าขันคือคนแบบนี้กลับได้ยืนอยู่บนยอดพีระมิด ภายใต้แสงสว่างข้อบกพร่องของเขาทุกอย่างกลับสูญสลายมองไม่เห็น แต่ในฐานะของผู้แพ้ การทวงความเป็นธรรมกับสิ่งเล็กน้อยของถงเสี่ยวโยวก็ดูเหมือนเป็นการยุ่งไม่เข้าเรื่องอย่างหนึ่ง

นี่เป็นการทำร้ายถงเสี่ยวโยวอย่างหนัก

 

คนที่เห็นการเปลี่ยนแปลงคนแรกก็คือซ่งหรูหรู นั่นเป็นเพราะช่วงนี้ถงเสี่ยวโยวทำงานดึกดื่นทุกวัน โดยเฉพาะการต้มบะหมี่ถ้วยตอนดึกดื่นแล้วยังเติมเนื้อกระป๋องกับซอสถั่วอีกช้อน รสชาติแบบนั้นอบอวลจนซ่งปั้นเซียนไม่สามารถติดต่อกับเทพเจ้าได้

ถงเสี่ยวโยวอธิบายเรื่องนี้ว่าเธอรู้ตัวว่าไม่มีพรสวรรค์ ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีโชค แต่เธอไม่อยากจะแพ้แม้แต่ความขยันให้กับคนอย่างลู่ซิงเฉิง ลู่ซิงเฉิงเป็นคนยังไงน่ะเหรอ ถงเสี่ยวโยวไม่มีแม้กระทั่งคุณสมบัติจะวิจารณ์เขา เธอจึงได้แต่ก้มหน้าระบายอารมณ์ วาดแบบร่างแล้วก็ขยำทิ้งซ้ำไปซ้ำมา ขอบตาดำก็เข้มขึ้นทุกวัน

ถ้าจะเปรียบเทียบพละกำลังกับคนที่ทำงานเป็นบ้าเป็นหลังอย่างลู่ซิงเฉิง นี่ก็ถือเป็นการแข่งขันแต่เพียงฝ่ายเดียว ซ่งหรูหรูรู้สึกว่าเส้นทางนี้มันคือทางตัน

ซ่งหรูหรูพลิกดูแบบร่างหลายแผ่น ออกแบบมาเป็นเซ็ตริบบิ้น ชุดทำงานที่เรียบง่ายแต่ดูดีจับคู่กับวัตถุดิบที่แตกต่างกันและการตกแต่งด้วยริบบิ้น ทำให้ดูอ่อนโยนและสดใส ถงเสี่ยวโยวถามอย่างไม่มั่นใจว่า “เธอคิดว่าเป็นยังไงบ้าง”

ซ่งหรูหรูยักไหล่ “ฉันก็ต้องรู้สึกว่าสวยแน่นอน แต่คนทั้งโลกยอมรับผลงานเธอต่างหากที่สำคัญสำหรับเธอ” เธอพูดไปแล้วก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “เอ๋ ถ้าเธอไปสู้กับลู่ซิงเฉิงตรงๆ สู้เอาที่เธอออกแบบพวกนี้ให้เขาดู เขาเก่งกาจขนาดนั้น ถ้าเขายอมรับผลงานเธอ ก็เท่ากับได้รับการยอมรับจากทั้งโลกแล้วไม่ใช่เหรอไง”

“เอ๋?” ถงเสี่ยวโยวอึ้งไป เธอกัดริมฝีปาก “เขาดูแล้ว เธอลืมไปแล้วเหรอไง”

ซ่งหรูหรูคิดขึ้นมาได้ ไม่ใช่แค่เพียงลู่ซิงเฉิงที่ดูรายการสถานีถัดไป รันเวย์ คนทั้งโลกก็ได้ดูแล้ว หากพูดว่าเมื่อก่อนถงเสี่ยวโยวไม่มีชื่อเสียงแต่ยังมีอนาคต แต่ตอนนี้ต้องบอกว่ารอยด่างดำในประวัติศาสตร์คิดจะฟื้นตัวก็ไม่มีทาง ในฐานะที่เป็นเพื่อนรักจะไม่ให้กำลังใจก็ไม่ได้ แต่ก็ไม่อาจจะดูเพื่อนเดินจนเจอทางตัน ซ่งหรูหรูจึงเสนอแนะว่า “ถ้าอย่างนั้นมาที่นิตยสารของฉันดีกว่า ฉันจะถ่ายทอดพลังทั้งชีวิตให้เธอครึ่งหนึ่ง”

ซ่งหรูหรูกับถงเสี่ยวโยวจบการศึกษาปีเดียวกัน สาขาวิชาของเธอคือปรัชญาโบราณ ได้เข้าไปทำงานในนิตยสารดูดวงฉบับหนึ่ง ตอนนี้เป็นผู้รับผิดชอบหน้าพยากรณ์ดูดวงแล้ว ชื่อในวงการก็คือซ่งปั้นเซียนกับแม่หมอหรู

“ฉันว่าบางครั้งฉันดูดวงให้คนอื่นก็อาจจะไม่แม่นนะ” แม้ถงเสี่ยวโยวจะไม่มีพรสวรรค์แต่ก็รู้จักตัวเองเป็นอย่างดี “เธอลืมไปแล้วเหรอ ฉันเสี่ยงทาย…”

ซ่งหรูหรูคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เอากระดาษออกแบบยัดเข้าไปในมือของถงเสี่ยวโยว “เธอพูดถูก อาชีพดีไซเนอร์เป็นอาชีพที่เหมาะสมกับเธอที่สุด ไม่ทำร้ายคนอื่น ได้ปลดปล่อยชาวประชา”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in Count your lucky stars เปลี่ยนโชคร้ายให้กลายเป็นรัก

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com