หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
“ถงเสี่ยวโยว ฉันจะทำนายให้” เสียงของซ่งหรูหรูที่ดังขึ้นทำให้ถงเสี่ยวโยวตกใจจนมือสั่น ไดร์เป่าผมดูดเส้นผมของเธอเข้าไป ตอนที่ดึงออกมาก็มีกลิ่นเหม็นไหม้ออกมาด้วย
เวลาเจ็ดโมงเช้าเป็นเวลาที่พนักงานออฟฟิศซื่อตรงอย่างถงเสี่ยวโยวต้องตื่นนอน ส่วนชีวิตของซ่งหรูหรูไม่เคยมีเวลาก่อนเที่ยง
“เธอปวดฉี่จนตื่นใช่ไหม” ถงเสี่ยวโยวไม่อยากจะเชื่อว่าจะเห็นซ่งหรูหรูในตอนเช้าตรู่เช่นนี้ เธอตกใจยิ่งกว่าเห็นผีเสียอีก
“จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ได้” ซ่งหรูหรูเดินผ่านเข้าห้องน้ำไป บ่นพึมพำขณะที่นั่งอยู่บนชักโครก “ในฐานะที่เป็นเพื่อนซี้กัน ในขณะที่ดวงชะตาของเธอจะเปลี่ยนไปฉันต้องเสี่ยงทายให้เธอสักครั้ง”
ถงเสี่ยวโยวเบะปาก “แล้วเธอเห็นอะไรบ้าง”
“ดาวมฤตยูปรากฏขึ้น” ซ่งหรูหรูพูดด้วยท่าทางจริงจัง
“ซ่งหรูหรู” ถงเสี่ยวโยวถือไดร์ค้างเอาไว้ “หนึ่งปีสามร้อยหกสิบห้าวัน ดูเหมือนว่าจะมีสามร้อยวันที่เธอบอกฉันว่ามีดาวมฤตยูปรากฏ”
“นั่นก็เป็นเพราะว่าเธอดวงซวยทุกวันน่ะสิ วันนี้ก็เหมือนกัน” ซ่งหรูหรูพูดอย่างเห็นอกเห็นใจ “เธอจะบอกว่าฉันทายไม่แม่นไม่ได้นะ”
ถงเสี่ยวโยวมองค้อนไปทีหนึ่ง “เฮอะ วันนี้ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว บ.ก. ของเราคือใคร เขาเป็นดวงนำโชคในตำนานเชียวนะ สิ่งที่เขาเลือกทำไม่เคยผิดพลาดมาก่อน”
“ถ้าอย่างนั้น…” ซ่งหรูหรูยกมือขึ้นถาม “ลู่ซิงเฉิงทำอะไรก็ไม่เคยล้มเหลว ส่วนเธอทำอะไรก็ไม่เคยสำเร็จ แล้วลู่ซิงเฉิงก็ยังดันมาเลือกเธอ แล้วนี่ดวงซวยของเธอจะเหนือกว่า หรือว่าดวงดีของเขาจะเอาชนะดวงซวยของเธอได้ล่ะ”
นี่มันเป็นการแข่งขันที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองได้ ถงเสี่ยวโยวพูดอย่างประจบประแจงว่า “ก็ต้องเป็นดวงดีของ บ.ก. ชนะดวงซวยของฉันน่ะสิ”
ความคิดนี้ช่างงดงามและเต็มไปด้วยพลังจริงๆ ถงเสี่ยวโยวรู้สึกเหมือนความสุขกำลังโอบล้อมตัวเธออยู่
ได้ร่วมเวทีกับผู้มีความสามารถจากหลากหลายวงการในรายการดังของวงการบันเทิงอย่าง ‘สถานีถัดไป รันเวย์’ ต่อให้ไม่ชนะก็ถือเป็นการแข่งขันที่มีเกียรติมาก อีกทั้งเธอเป็นทั้งคนที่ บ.ก. สนับสนุนและยังได้เวินซีมาเป็นนางแบบให้อีกด้วย เวินซีเป็นสุดยอดซูเปอร์โมเดลเชียวนะ เมื่อเธอสวมชุดราตรีก็เป็นดั่งราชินี สวมชุดทำงานก็ดูมีเสน่ห์ ต่อให้เอากระดาษหนังสือพิมพ์มาสวมก็ยังดูมีสไตล์ บ.ก. จัดนางแบบระดับนี้มาให้ เธอจะไม่ชนะได้ยังไง
ถงเสี่ยวโยวทั้งเชื่อมั่นและมั่นใจ วันนี้ต้องเป็นวันสำคัญที่ดวงชะตาจะพ้นจากจุดต่ำสุดจนสามารถเงยหน้าขึ้นมาได้ แม้ว่าจะดวงซวยมาตั้งแต่เล็กจนโต แต่ในที่สุดก็จบสิ้นเสียที อีกทั้งการเริ่มต้นใหม่และชีวิตใหม่ก็มีความรู้สึกที่ชัดเจนกำลังบอกอยู่ในใจ ตั้งแต่ที่ถงเสี่ยวโยวขึ้นมาบนเวทีก็ยิ้มไม่หุบเลย
ดังนั้นขณะที่ทีมงานกำลังอธิบายลำดับของรายการอยู่ เธอก็เอาแต่ยิ้ม ตอนที่ประกาศหัวข้อในครั้งนี้คือ ‘เบ่งบาน’ นั้นเธอก็ยังยิ้มอยู่ และเมื่อเวินซีสวมชุดของเธอเดินอยู่บนแคตวอล์ก เธอก็ยิ่งยิ้มหนักเข้าไปอีก
เมื่อมาถึงขั้นตอนการให้คะแนนในช่วงสุดท้ายยิ้มของถงเสี่ยวโยวก็ยกระดับขึ้นอีก ยิ้มของเธอนั้นครอบคลุมความคิดเอาไว้มากมาย อย่างเช่นอยู่ๆ ก็มีความคิดหนึ่งดังขึ้นมาว่า จะต้องทำอะไรดี เปิดร้านแบรนด์ ไม่ได้ๆ ยังไงก็ต้องเปิดคอลัมน์ก่อน จำได้ว่าในช่วงนี้มีดีไซเนอร์คนหนึ่งเปิดคอลัมน์จนดังแล้วค่อยไปเปิดร้าน…
“เอาล่ะ กรรมการทุกท่าน หมดเวลาแล้วครับ คุณถงเสี่ยวโยว ดีไซเนอร์จากนิตยสารชิกกับนางแบบของเธอคุณเวินซี คะแนนของกรรมการท่านแรก ศูนย์คะแนน ศูนย์คะแนน? นี่เป็นครั้งแรกที่รายการของเรามีศูนย์คะแนน ถ้าอย่างนั้นคะแนนของกรรมการท่านที่สองก็คือ ก็ได้ศูนย์คะแนนเหมือนกัน แล้วกรรมการท่านที่สามล่ะครับ ท่านที่สามก็ได้ศูนย์คะแนนเหมือนกัน ท่านที่สี่กับท่านที่ห้าก็เหมือนกันใช่ไหมครับ”
ตะลึงกันไปทั้งงาน
มู่หยาง พิธีกรของรายการหัวเราะด้วยท่าทางร้ายๆ ที่เป็นยี่ห้อของเขาออกมา “ทุกท่าน! ตอนนี้เกิดปรากฏการณ์มหัศจรรย์ขึ้นมา นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เผยแพร่ภาพรายการสถานีถัดไป รันเวย์มา คุณถงเสี่ยวโยว ดีไซเนอร์จากนิตยสารชิกเป็นคนแรกที่ได้ศูนย์คะแนนจากรายการของเรา และได้ศูนย์คะแนนจากกรรมการทั้งห้าท่านด้วย”
ฝีปากของมู่หยางยอดเยี่ยมจริงๆ ขณะที่ใบหน้าของเวินซีก็บิดเบี้ยวไม่สวยงามแล้ว ตอนนี้ในสมองของถงเสี่ยวโยวเกิดความคิดอยู่สองอย่างก็คือ ‘นี่ดวงซวยของเธอจะเหนือกว่าดวงดีของเขา หรือว่าดวงดีของเขาจะเอาชนะดวงซวยของเธอได้กันแน่’
สุดท้ายเธอก็ชนะ ยี่สิบหกปีที่ผ่านมานี่เป็นครั้งแรกที่ถงเสี่ยวโยวชนะ…ถงเสี่ยวโยวไม่ได้รู้เลยว่ากล้องทุกตัวกำลังจับจ้องมา ดังนั้นเธอจึงเผยใบหน้ายิ้มที่เหมือนกับกำลังอยู่ในความฝันออกมาอย่างไม่ทันรู้ตัว