ถงเสี่ยวโยวรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างในร่างกายของเธอกำลังโยกไปมาเล็กน้อย จากนั้นตัวก็รู้สึกเบาแล้วลอยขึ้น
เธอรู้สึกว่าชีวิตของเธอกำลังถูกพลิกกลับแล้ว
สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์โอต์กูตูร์ห้องเสื้อชื่อดังชั้นแนวหน้าต่อสู้กันอย่างดุเดือด และเพื่อแสดงความงดงามของชุดโอต์กูตูร์ ดีไซเนอร์ระดับปรมาจารย์ต่างพากันงัดไม้เด็ดออกมาเพื่อแย่งชิงความโดดเด่น
ทำงานล่วงเวลาแล้วยังต้องดูงานเดินแบบกับลู่ซิงเฉิงอีกสามสี่งาน ถงเสี่ยวโยวถึงกับตาลาย
แต่ลู่ซิงเฉิงยังคงกระฉับกระเฉงมาก ถงเสี่ยวโยวถือโอกาสตอนพักเดินจากที่นั่งแถวหลังมายังที่นั่งวีไอพีแถวหน้าเพื่อเสิร์ฟน้ำพร้อมกับเก็บนามบัตรให้เขา เขาดูกระฉับกระเฉงตลอดทั้งงาน ไม่เพียงแต่ยิ้มพูดคุยกับผู้คน แม้แต่ถูกสื่อถ่ายรูปก็ไม่ผิดพลาดสักนิด แต่กลับเป็นช่างภาพที่ถ่ายบรรยากาศในงานแล้วถ่ายติดถงเสี่ยวโยวที่เธอไม่ตาเขก็ปากเบี้ยว แล้วยังมีอีกรูปที่เธอกำลังคุยกับแดลี่ ไม่รู้ว่ากำลังทำท่าอะไรแต่ดูเหมือนกอริลล่ากำลังกินกล้วย
“คอลเล็กชั่นนี้ทำได้ไม่เลว กระโปรงจีบรอบตัวใช้ผ้าร่มกับลายทางเข้ากันมาก ด้านบนก็พิมพ์ลายดอกกล้วยไม้เพื่อให้ช่างภาพซูมเข้ามา” ลู่ซิงเฉิงจะออกความคิดเห็นบ้างในบางครั้ง ถงเสี่ยวโยวที่อยู่ข้างๆ ก็จะจดบันทึกเอาไว้เพื่อเป็นประเด็นในการรายงาน
ถงเสี่ยวโยวเบิกตาดูอยู่ครู่ใหญ่ถึงได้เห็นว่าชายกระโปรงใสๆ นี้มีลายดอกกล้วยไม้อยู่ “อ๋า…เมื่อกี้ฉันมองไม่เห็น…”
“เอกลักษณ์อยู่ที่ความเล็ก ถ้าไม่ละเอียดลออก็มองไม่เห็นความตั้งใจของคนอื่น” ลู่ซิงเฉิงเอ่ยขึ้น
แม้ว่าในที่สาธารณะลู่ซิงเฉิงจะดูเป็นสุภาพบุรุษไม่ค่อยเห็นวาจาร้ายของเขา แต่ก็ไม่ใช่ทุกครั้งไป
“เหอะ เครื่องประดับบนหัวนี่ทุ่มเทน่าดู เหมือนกับเอากุ้งมังกรไปปักไว้บนหัว”
“…”
นี่ทำให้ถงเสี่ยวโยวถึงกับงุนงง
“บ.ก. นี่คุณพูดจริงหรือประชดคะ”
“ศูนย์ห้าตัว…”
“คะ?”
“เธอว่าที่ฉันเรียกเธอว่าศูนย์ห้าตัว จริงหรือประชด”
“…”
แล้วอยู่ๆ ก็คึกคักขึ้นมาทั้งงาน ที่แท้เวินซีมาเดินปิดท้ายงานนี่เอง แสงไฟระยิบระยับดั่งเม็ดฝนตกกระหน่ำ เธออยู่ในชุดจัมพ์สูทสีกากีเข้าคู่กับสูทสีทองเมทัลลิกบนแคตวอล์ก ดูแพงมากและเท่อย่างที่สุด ถงเสี่ยวโยวเห็นแล้วก็คึกคักขึ้นมา พริบตาเดียวก็กลายเป็นแฟนคลับของเวินซี แต่สายตาก็มองตั้งแต่หัวจดเท้าและเท้าขึ้นไปถึงหัว แล้วก็หยุดที่เข็มขัด
ถงเสี่ยวโยวแอบขมวดคิ้ว แล้วก็หยิบสมุดโน้ตเตรียมจดคำวิจารณ์ของลู่ซิงเฉิง
มือของลู่ซิงเฉิงที่วางอยู่บนเข่าเคาะเบาๆ สองครั้ง “นี่เป็นคอลเล็กชั่นสุดท้ายใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ”
“นี่เป็นชุดทำงานที่ใช้โปรโมตของซีซั่นนี้” ลู่ซิงเฉิงพลิกดูตารางการเดินแฟชั่นโชว์ถัดไปพร้อมกับพยักหน้า
“เข็มขัดน่าเกลียดมาก” สีหน้าของลู่ซิงเฉิงแสดงถึงความรังเกียจอย่างที่สุด ไม่ได้มีความอ่อนโยนเพราะชุดนี้แฟนของตัวเองสวมอยู่เลยแม้แต่น้อย “ควรจะเปลี่ยนเป็น…” เขาพูดขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่พักนึง
ในใจถงเสี่ยวโยวก็ตกตะลึงไป รถไฟสองขบวนที่วิ่งมาชนกันแอบมีความคิดบางอย่างเกิดขึ้น “เปลี่ยนเป็นสีเงินวาว”
ลู่ซิงเฉิงชะงักนิ้วมือ ค่อยๆ หันหน้ามามองถงเสี่ยวโยว
ถงเสี่ยวโยวหันไปมองลู่ซิงเฉิงอย่างตื่นเต้น สายตาเต็มไปด้วยการรอคอยเหมือนกับสุนัขที่กำลังรอกระดูก ลู่ซิงเฉิงรู้สึกขยะแขยงกับสายตาเช่นนี้มาก เบี่ยงหน้าออกไปแล้วพูดด้วยเสียงเย็นๆ “สีดำ”
“อ้อ” ถงเสี่ยวโยวก้มหน้าจดบันทึกอย่างเงียบๆ
ลู่ซิงเฉิงปรายตามองเธอแล้วก็ดูการเดินแบบต่อ