บทที่ 4 บีบซูอี้ขึ้นมัดมือชก
หญิงสาวที่เป็นเพื่อนบ้านของฉันเป็นสาวไต้หวันใจดี แบ่งปันข้าวหน้าพะโล้ให้ฉันกินอยู่บ่อยๆ ดังนั้นพวกเค้กและอาหารที่ฉันทำในคาบเรียนปฏิบัติ ถ้าเขมือบคนเดียวไม่หมดก็จะเอามาแบ่งกับเธอคนละครึ่ง
เธอแค่ไม่ดีในบางเรื่อง…เพื่อนบ้านชาวไต้หวันคนนี้ชอบฟังเพลง จะฟังก็ฟังเถอะ แต่ใส่หูฟังหน่อยดีไหม ดูแต่งตัวเป็นสาวทันสมัย ทำไมไม่หาซื้อหูฟังมอนสเตอร์ตามเทรนด์ไว้สักอันล่ะ อันหนึ่งก็ไม่ได้แพงเสียหน่อย อย่างน้อยก็ถูกกว่ากระเป๋าชาแนลพวกนั้นแล้วกัน คุณสมบัติหูฟังแบบมีเมมโมรี่ในตัวของแอปเปิ้ลเองก็ดีมากนะ โทนเสียงแจ่ม ประสิทธิภาพดีเยี่ยม หรือจะใช้แบบที่แถมมากับโทรศัพท์มือถือก็ได้ ไม่ต้องเสียเงิน
แต่เธอบอกฉันว่าชอบเปิดออกลำโพงมากกว่า…ถ้าอย่างนั้นก็เลือกเวลาหน่อยได้ไหมล่ะ
ก็เธอชอบเปิดออกลำโพงแบบไม่เลือกเวลานี่นา
สาวเอาแต่ใจแค่นึกอยากฟังเพลงก็จะเปิดเพลงขึ้นมาแบบไม่เลือกเวลา ฟังไปได้สักพักก็จะเริ่มร้องตาม จากนั้นร้องไปร้องมาก็เริ่มร้องไห้ ร้องไห้ให้กับความรักที่ผ่านพ้นไปของเธอ ร้องไห้สะอึกสะอื้นให้กับคนรักที่จากไปของเธอ…ร้องห่มร้องไห้ถึงขนาดนี้ ฉันเองก็รู้สึกไม่ดีที่จะเคาะประตูตักเตือนว่าเธอกำลังรบกวนความฝันอันสดใสของฉันอย่างรุนแรง
ปัญหาก็คือฉันไม่อยากฟังเพลงดอนทรายใต้น้ำที่หายไปแล้วเข้าใจหรือเปล่า เธอเองก็ไม่ได้อยากให้เขากลับมาหรอกไม่ใช่หรือไง ถ้าอย่างนั้นแล้วเขาจะกลับมาได้ยังไงล่ะ
ให้ฉันแนะนำนะ เปลี่ยนเป็นเพลงรีบกลับมาเถอะนะจะดีเสียกว่า เขาจะได้เอาความคิดถึงกลับมาหาเธอ และอย่าฟังเพลงฉันคิดถึงคุณอีกเลยนะ ถ้าเรื่องราวในอดีตมันจืดจางไปแล้ว เชิญเธอเก็บซ่อนมันเอาไว้ลึกๆ ในใจเถอะ อย่า! มา! ร้อง! ให้! ฉัน! ได้! ยิน!
เฮ้อ พูดได้เท่านี้แหละนะ แค่นี้ฉันก็แทบจะติดสำเนียงไต้หวันของเธอมาอยู่แล้ว ฉันขอไปสงบสติอารมณ์ที่สถาบันก่อนล่ะ ถ้ากลับมาแล้วต้องเปลี่ยนเพลงให้ฉันนะ…ระวังเถอะ ฉันจะฟ้องเจ้าของบ้านให้
…คราวนี้จะฟ้องจริงๆ แล้วนะ!
พอฉันมาถึงสถาบันก็เปลี่ยนเป็นชุดยูนิฟอร์มของสถาบันก่อนจะลงไปกินมื้อกลางวันที่ห้องครัวชั้นล่าง
พระอาทิตย์ตั้งตรงศีรษะในเวลาเที่ยง ฉันไม่อยากออกไปข้างนอก ยังไงเสียที่สถาบันอย่างน้อยก็มีเครื่องปรับอากาศเย็นๆ ส่วนอยู่ทำอะไรน่ะเหรอ…ก็คงทำอะไรสักอย่างนั่นแหละ
ทำอะไรดีนะ…งั้นไปจัดชั้นวางของที่ชั้นสามแล้วกัน ยังไงฉันก็ว่างอยู่แล้วนี่นา
มิสเตอร์เอ็มโอเอฟสอนคาบเรียนปฏิบัติอยู่ที่ห้องข้างๆ พอเห็นฉัน เขาก็เดินเข้ามาหา “ซูอี้ คุณทำอะไรอยู่น่ะ”
“จัดชั้นวางของน่ะค่ะเชฟ”
เขาจะดูว่าฉันจัดได้ยอดเยี่ยมหรือเปล่างั้นเหรอ โรครักความสะอาดผนวกเข้ากับโรคย้ำคิดย้ำทำของสาวราศีกันย์ เรียกได้ว่าเป็นเจ้าแม่งานคหกรรม เรื่องจัดเก็บรวมกันนับว่ายอดเยี่ยมเป็นอันดับหนึ่งเลยล่ะ
“อืม…” มิสเตอร์เอ็มโอเอฟพยักหน้าให้ “คุณเตรียมของเสร็จแล้วเหรอ หยิบแม่พิมพ์ซูเฟล่แล้วหรือยัง”
ฉันนิ่งอึ้งไป เขาให้หยิบอะไรนะ
“ยัง…ยังไม่ได้หยิบค่ะ”
หรือว่าฉันจำตารางสอนผิดไป วันนี้ฉันมีสอนงั้นเหรอ…ให้ตายสิ!