ฉันลืมสอนงั้นเหรอ นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะมาล้อเล่นกันนะ!
“ตามผมมา” มิสเตอร์เอ็มโอเอฟเอ่ยขึ้น “ผมจะบอกให้ว่าคุณหยิบมันได้จากที่ไหน”
“เชฟ…เชฟคะ รอเดี๋ยว” ฉันรีบเรียกเขาเอาไว้ เดี๋ยวนะ…นี่มันเรื่องอะไรกัน รอให้ฉันจัดระเบียบความคิดหน่อยสิ “คุณบอกว่าให้หยิบแม่พิมพ์เหรอคะ แต่แม่พิมพ์อันนี้เอาไว้ให้คาบเรียนสาธิตตอนบ่ายสามครึ่งใช้นี่คะเป็นคาบที่สามของระดับสูง”
“ก็ใช่ไง คาบเรียนนั้นจะทำซูเฟล่ไม่ใช่เหรอ” ใบหน้าของมิสเตอร์เอ็มโอเอฟกึ่งยิ้มกึ่งบึ้งตึง “คุณเตรียมแม่พิมพ์แล้วหรือยังล่ะ”
ฉันว่าแล้วเชียวว่าวันนี้เป็นวันพักของฉัน มีสอนเสียที่ไหนกันล่ะ! เกือบหลงว่าตัวเองจำผิดแล้วไง
“คือเชฟคะ…คาบสอนนั้นไม่ใช่ของฉันค่ะ”
มิสเตอร์เอ็มโอเอฟสีหน้าดำทะมึน “งั้นใครสอนกับผมล่ะ”
“แฮรา…” ใช่เธอหรือเปล่านะ…ฉันคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ใช่แล้วล่ะ แฮราค่ะ”
“แฮราเป็นใคร”
“สาวเกาหลีไงคะเชฟ”
“งั้นเธออยู่ที่ไหนล่ะ”
“ฉันไม่รู้ค่ะเชฟ”
“แล้วเธอเตรียมของเรียบร้อยหรือยัง”
“ไม่รู้ค่ะ…น่าจะยังนะคะ…ฉันยังไม่เห็นของของเธอเลย”
สีหน้าของมิสเตอร์เอ็มโอเอฟน่ากลัวขึ้นทุกขณะ ซูอี้น้อยกลัวจังเลย “เธอยังไม่มาอีกเหรอ”
“…”
ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้วก็น่าจะยังไม่มาแน่ๆ…
“คุณรู้หรือเปล่าว่าเธอจะมาเมื่อไหร่”
“ฉัน…ไม่รู้ค่ะเชฟ”
“นี่ก็ตั้งกี่โมงแล้ว โทรไปหาเธอหน่อยซิ!”
“แต่ว่า…ฉันไม่มีเบอร์ของเธอนี่คะ…”
มิสเตอร์เอ็มโอเอฟสูดลมหายใจลึก เดินไปยังโทรศัพท์ที่ใช้โทรภายในซึ่งตั้งอยู่ข้างๆ แต่ไม่ทันไรโจแอนนาที่รับผิดชอบการจัดคาบสอนก็ลุกขึ้นมา
ฉันได้ยินพวกเขาใช้ภาษาฝรั่งเศสคุยกันเร็วจี๋ ในประโยคสอดแทรกด้วยชื่อ ‘แฮรา’ และ ‘ซูอี้’ อยู่เป็นจำนวนมาก
ทั้งคู่พูดกันเร็วเหลือเกิน ในฐานะที่ฉันยังเป็นมือใหม่กับภาษาฝรั่งเศสก็ทำได้เพียงรับรู้ข้อมูลแค่นี้เท่านั้น
ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย…
ระหว่างรอจนกระทั่งมิสเตอร์เอ็มโอเอฟกับโจแอนนาเดินเข้ามาด้วยกัน ฉันก็เช็ดถูสเตชั่นทำงานไปได้ประมาณแปดร้อยรอบแล้ว แล้วทำไมสองคนนี้ถึงมองฉันด้วยสายตาดุดันนักล่ะ จะทำอะไรกันคะ
มองจนฉันกลัวแล้วนะ…