Lie to Love เกมรักซ่อนกลลวง
ทดลองอ่าน Lie to Love เกมรักซ่อนกลลวง บทที่ 2
(2)
จู่ๆ เธอก็นึกถึงคำพูดนี้ เสิ่นเสี่ยอี้จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ถ้าหากลี่เจ๋อเหลียงได้ยินว่ามีคนวิจารณ์เขาลับหลังแบบนี้ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมีความรู้สึกอย่างไร
เธอยิ้มแหยแบบประหลาดๆ ออกมา แต่เมื่ออยู่ในงานเลี้ยงที่เสียงดังอึกทึกก็กลายเป็นดูไม่สะดุดตาไป ถึงอย่างนั้นก็เพียงพอที่จะดึงดูดสายตาเคลือบแคลงสงสัยของลี่เจ๋อเหลียงได้
เมื่อเสิ่นเสี่ยอี้สบเข้ากับดวงตาเรียวยาวที่แววตาเมินเฉยคู่นั้นของเขา เธอก็อธิบายในทันที “ฉัน…ฉันคิดว่าคำพูดเมื่อสักครู่นี้ของพิธีกรตลกมากเลยน่ะค่ะ” เมื่อปริปากพูดเสิ่นเสี่ยอี้ก็รู้สึกเสียใจทีหลังขึ้นมาอีก ทำไมเธอต้องกลัวเขาด้วยล่ะ เวลาทำงานเป็นเจ้านาย แต่เลิกงานแล้วยิ้มแหยก็ไม่ได้ผิดกฎหมายเสียหน่อย
“ทนายเสิ่นอารมณ์ดีเชียวนะครับ” ลี่เจ๋อเหลียงเอ่ยสรุปให้กับเสิ่นเสี่ยอี้ในเวลานี้
“ก็ดีค่ะ ฉันทั้งไม่เสียดายที่เจ้าสาวคนนี้ไม่ใช่ฉัน แล้วก็ไม่ได้เกลียดชังที่ทำไมเจ้าบ่าวถึงได้เป็นเขา ดังนั้นจึงยินดีปรีดาไปกับพวกเขา และยินดีไปกับตัวเองด้วย” เธอไม่อยากแสดงว่ายอมแพ้ต่อหน้าเขาทุกครั้งไป
ลี่เจ๋อเหลียงเบือนหน้า เห็นได้ชัดว่าเขาคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะยอมรับและตอบกลับมาได้ยาวขนาดนี้ จู่ๆ เขาก็เกิดนึกสนุกขึ้นมา
“ผมกลับรู้สึกสนใจว่าเจ้าบ่าวที่จะทำให้ทนายเสิ่นเกลียดชังในวันข้างหน้าเป็นแบบไหนกัน”
หากเธอไม่คิดรักษาภาพลักษณ์ทนายอันเจิดจรัสของตัวเองต่อหน้าสาธารณชนก็อยากจะด่าเขาสักประโยคจริงๆ ทว่าจะให้เธอเสียมารยาทต่อหน้าเจ้านายก็ต้องดูความเหมาะสมด้วย เธอกล่าวว่า “ถ้าได้แต่งงานกับคนหนุ่มยอดเยี่ยมเหมือนคุณลี่ ไม่ใช่แค่ฉันหรอกค่ะ แม้แต่ผู้หญิงโสดอายุเข้าเกณฑ์ทั้งเมืองก็ต้องนั่งร้องไห้ฟูมฟายกัน”
เขาพยักหน้าอย่างค่อนข้างหลงตัวเอง เห็นได้ชัดว่าการประจบประแจงครั้งนี้ทำให้เขาพึงพอใจเป็นที่สุด
ความจริงแล้วลี่เจ๋อเหลียงมักจะปฏิบัติกับผู้หญิงอย่างสุภาพอ่อนโยนและมีมารยาท ต่อให้อีกฝ่ายเป็นผู้หญิงแปลกหน้าที่บางครั้งพูดคุยกันถูกคอ เขาก็จะย่อตัวให้ต่ำลงและทำเหมือนพึมพำเสียงเบา ทำเอาอีกฝ่ายหูแดงใจสั่นระรัว ดังนั้นเพศตรงข้ามจึงมักจะเกิดความคิดคลุมเครืออยู่บ้าง แน่นอนว่าในบรรดาคนเหล่านั้นรวมไปถึงเจ้าสาวชิงเสี่ยวเยวี่ยด้วย
ผู้ชายประเภทนี้ต่อให้เย็นชาแข็งกระด้างไม่พูดอะไรก็สามารถดูดวิญญาณของผู้อื่นได้ นับประสาอะไรกับความกลมกลืนเข้ากันได้กับทุกๆ ที่ของลี่เจ๋อเหลียง ยามพบปะกับคนอื่นๆ ก็ให้ความรู้สึกหนักเบากำลังพอดี ทำให้รู้สึกเหมือนอาบสายลมฤดูใบไม้ผลิ
“เหมยเหมย รุ่นพี่ที่เธอแอบชอบมาแล้วนะ” เจ้าสาวชิงเสี่ยวเยวี่ยกลับมาห้องแต่งหน้าที่อยู่สุดทางเดินเพื่อเปลี่ยนชุดทำพิธี เธอหัวเราะเยาะเด็กสาวด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข
“ใครกัน” อิ่นเซี่ยวเหมยที่กำลังช่วยเธอรูดซิปด้านหลังไม่ทันเข้าใจไปชั่วขณะ
“ลี่เจ๋อเหลียงไงล่ะ”
อิ่นเซี่ยวเหมยกล่าว “เสี่ยวเยวี่ย เรื่องมันตั้งกี่ปีผ่านมาแล้ว ยังจะเอามาล้อฉันอีก”
“เธอยังเรียกเขาว่า ‘รุ่นพี่ๆ’ อยู่เลย เขาโตกว่าเธอตั้งสี่ปี นอกจากตราประทับบนประกาศนียบัตรที่เหมือนกันแล้วก็แทบจะห่างไกลจนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยสักนิด”
“พี่ก็เหมือนกันนั่นแหละน่า ทำไมพูดถึงฉันอยู่แค่คนเดียว”
ส่วนอีกด้านหนึ่ง โต๊ะของเสิ่นเสี่ยอี้และลี่เจ๋อเหลียงเพิ่งจะเริ่มรับประทานอาหาร คนเหล่านี้เป็นแขกพิเศษของฝ่ายชาย ดังนั้นจึงเริ่มดื่มเหล้ามงคลจากโต๊ะฝั่งนี้ก่อน
“ขอบคุณรุ่นพี่และเพื่อนๆ ทุกคนที่มาร่วมแสดงความยินดีนะครับ” เจ้าบ่าวอิ่นเซียวยกแก้วเหล้าขึ้นก่อน
หยางวั่งเจี๋ยที่ช่วยเหลืออยู่ข้างๆ ก็แนะนำแขกให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวทีละคนจนมาถึงลี่เจ๋อเหลียง “ท่านนี้คือคุณลี่เจ๋อเหลียงจากลี่ซื่อกรุ๊ป”
“คุณลี่ ที่ผ่านมาได้รับความเมตตาดูแลจากคุณแล้วนะคะ”
ลี่เจ๋อเหลียงหัวเราะเบาๆ “คุณชิง ยินดีด้วยครับ”
“ท่านนี้คือ…” หยางวั่งเจี๋ยครุ่นคิดก่อนเอ่ยว่า “เสิ่นเสี่ยอี้ ทนายของลี่ซื่อกรุ๊ป”
“ทนายเสิ่น เจอกันเป็นครั้งแรก ขอบคุณที่รับคำเชิญนะคะ” เจ้าบ่าวเจ้าสาวกล่าวแสดงความขอบคุณพลางชนแก้วกับทุกคนไปด้วย
รอจนกระทั่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวไปแล้ว คนบนโต๊ะจึงแสดงความเห็นกัน “ลูกสะใภ้ของผู้อาวุโสอิ่นคนนี้ดูท่าทางใช้ได้เลยนะ”
“ผู้อาวุโสอิ่นมีลูกชายแค่คนเดียว แล้วก็เป็นการแต่งงานครั้งแรกด้วย หรือเขาจะไม่ได้มีแค่ลูกสะใภ้คนนี้? แต่ยังมีคนนั้นคนโน้นอีก” อีกคนหนึ่งต่อความ
“ฮ่าๆ พลั้งปากไปน่ะ”
“แต่ว่าคุณชิวคนนี้ก็เคยมีช่วงหนึ่งที่เหมือนจะค่อนข้างใกล้ชิดกับคุณลี่อยู่นี่นา” หัวข้อสนทนาย้อนกลับมาหาลี่เจ๋อเหลียงอีกครั้ง
เสิ่นเสี่ยอี้เหลือบมองลี่เจ๋อเหลียงแวบหนึ่ง ไม่คิดว่าทั้งสองคนจะมีเรื่องราวแบบนี้ด้วย หรือเมื่อสักครู่ที่เธอกล่าวว่า ‘ได้รับความเมตตาดูแล’ ที่แท้ก็เป็นวิธีการดูแลแบบนี้นี่เอง เธออดไม่ได้ที่จะขยับเก้าอี้ให้ห่างออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็ตำหนิคุณสมบัติของลี่เจ๋อเหลียงอยู่สักพัก
แต่ไม่นานความสนใจของเสิ่นเสี่ยอี้ก็ถูกลูกชิ้นเปรี้ยวหวานที่เพิ่งถูกยกออกมาดึงดูดไป เธอหลงรักเจ้าสิ่งนี้มาตั้งแต่เล็ก เธอรีบจับตะเกียบขึ้นมาถือไว้ จับตามองด้วยความว่องไว ลงมือออกแรง ทว่าลูกชิ้นกลับลื่นปรื๊ดหล่นกลับลงไปไม่อยู่นิ่ง
เสิ่นเสี่ยอี้ค่อนข้างท้อแท้ เธอใช้ตะเกียบคีบสิ่งของลักษณะกลมไม่ค่อยจะเป็นมาโดยตลอด เมื่อก่อนก็ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะกับเรื่องนี้
เธอลอบมองไปรอบๆ สักครู่ บนโต๊ะก็ไม่ได้เตรียมช้อนเอาไว้เสียด้วย
ดังนั้นเธอจึงมองลูกชิ้นอีกลูกที่แลดูแบนสักหน่อย เมื่อลองดูอีกครั้งผลลัพธ์ก็คือลื่นหลุดไปอีก
เธอสู้รบกับลูกชิ้นเปรี้ยวหวานอย่างเหน็ดเหนื่อยอยู่ทางนี้ ส่วนอีกฝั่งหนึ่งก็ยังคงอภิปรายกันเรื่องผู้หญิงต่อไป
“ประธานหวัง” ลี่เจ๋อเหลียงอมยิ้มพลางกล่าวหยอกเย้า “ผมพูดจากับผู้หญิงคนไหนสักประโยคหนึ่งก็ถือว่าใกล้ชิดด้วยงั้นเหรอ คุณจะเอามาตรฐานที่ภรรยาใช้ควบคุมคุณมาเปรียบเทียบกับชายหญิงทุกคนไม่ได้หรอกมั้งครับ” ระหว่างที่กล่าวไปเขาก็ยกตะเกียบยื่นมายังลูกชิ้นเปรี้ยวหวานที่อยู่ในจานแล้วคีบขึ้นอย่างสบายๆ จากนั้นก็วางลงในชามของเสิ่นเสี่ยอี้อย่างเป็นธรรมชาติมากๆ
การกระทำทั้งหมดนี้เป็นไปอย่างถูกจังหวะเป็นขั้นเป็นตอน จนกระทั่งลูกชิ้นกระทบลงบนชามของเสิ่นเสี่ยอี้ ไม่เพียงแต่ตัวเสิ่นเสี่ยอี้เอง คนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ต่างก็ค่อนข้างตกตะลึง
“อ่า” จู่ๆ เขาก็รู้สึกได้ถึงสีหน้าของคนทั้งหมดบนโต๊ะ ตะเกียบที่ว่างเปล่าของลี่เจ๋อเหลียงลอยค้างอยู่กลางอากาศสักครู่ ทันใดนั้นเขาก็เผยรอยยิ้มพร้อมกล่าวว่า “ดูแลเพศหญิงเป็นหน้าที่ของทุกคน”
“อ๋อ”
ครั้นได้ยินคำอธิบายของเขา คนที่นั่งอยู่ต่างก็ร้อง “อ๋อ” ขึ้นมาพร้อมๆ กัน แต่เมื่อดังมาถึงหูของเสิ่นเสี่ยอี้แล้วกลับมีความหมายลึกซึ้งเป็นพิเศษ ทำเอายามเธอมองไปยังลูกชิ้นแล้วรู้สึกว่าจะกินก็ไม่ได้ จะไม่กินก็ไม่ได้อีก ทำได้เพียงกล่าวด้วยเสียงน้ำเสียงอ่อนแรง
“ขอบคุณค่ะ”
“ไม่ต้องเกรงใจ ถ้าคุณเสิ่นยังต้องการอีก แค่บอกมาก็พอครับ” ลี่เจ๋อเหลียงตอบอย่างเป็นสุภาพบุรุษอย่างยิ่ง
แน่นอนว่าเสิ่นเสี่ยอี้ยังอยากได้อีก แต่เธอจะปล่อยให้เรื่องเมื่อสักครู่นี้เกิดขึ้นอีกครั้งได้อย่างไรล่ะ คราวนี้เธอเล็งเป้าหมายชัดเจน เธอครุ่นคิดอยู่สักครู่ จากนั้นก็โจมตีด้วยความรวดเร็ว จู่โจมลูกชิ้นลูกนั้นตามที่คิดไว้ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับตรงกันข้าม
ขณะที่เสิ่นเสี่ยอี้กำลังกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่นั้นก็ได้ยินเพียงเสียง ‘เคร้ง’ ลูกชิ้นหล่นลงไปในแก้วก้านยาวของเธอระหว่างทางที่คีบมายังจาน จากนั้นน้ำก็แตกกระเซ็น แล้วยังบังเอิญกระเซ็นไปโดนเสื้อเชิ้ตของลี่เจ๋อเหลียงด้วย!