บทที่ 2
หลังจากที่ชูหนิงวิ่งไปแล้วก็ไม่หันกลับมาอีก
ตลอดทั้งเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบเกิดขึ้นไม่เกินห้านาที และแล้วเรื่องเซอร์ไพรส์นี้ก็ถูกทิ้งเอาไว้ข้างหลัง จางหายไปจากความทรงจำอย่างรวดเร็ว
เมื่อกลับถึงหอพัก เพื่อนร่วมห้องสามคนมีเพียงแค่ฉีอวี้เท่านั้นที่อยู่ห้อง อิ๋งจิ่งเดินไปข้างๆ อีกฝ่ายแล้วเหลือบมองดู
“วาดอะไรน่ะ”
ฉีอวี้ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา กำลังเหลาดินสอให้แหลมเปี๊ยบ “ส่วนผิวตัดระนาบด้านในของบาลานเซอร์*ต้องใช้ตอนเข่าคาบทดลองตอนเย็น”
ฉีอวี้เป็นคนหูหนาน ภาษาจีนกลางจึงไม่ค่อยเป๊ะนัก เรียนที่ปักกิ่งมาสามปีก็ดีขึ้นมากโข แต่จนแล้วจนรอดเสียงผสมนาสิกเพดานอ่อนเพดานแข็งก็ยังพูดได้ไม่คล่องแคล่ว
อิ๋งจิ่งสะกิดไหล่เพื่อนแล้วพูดแก้ให้ถูกต้อง “เป็น เข้า ต่างหาก พูดตามฉันซิ เข้าคาบทดลอง เข้านอน”
ฉีอวี้เป็นคนซื่อๆ ที่ไขว่คว้าความก้าวหน้า ว่าแล้วเขาก็พูดตามสองรอบจริงๆ “เข้าคาบทดลอง เข้านอน…”
ประตูถูกเปิดออกพอดี หัวหน้าห้องตัวอ้วนผู้ใส่แว่นตาพลันเบิกตาโพลง “บ้าเอ๊ย! กลางวันแสกๆ พวกนายสองคนทำอะไรกันเนี่ย!”
อิ๋งจิ่งยิ้มแฉ่งฟันขาวจั๊วะ “เริ่มเรียนคาบวิชาอาจารย์อิ๋งไง”
หัวหน้าห้องตัวอ้วนพูดตัดบท “ระวังหน่อยเถอะ ฉันเตือนนายนะ นายจำไว้เลยว่าต้องส่งแบบร่างวิทยานิพนธ์ของอาจารย์เหมาในตอนเย็นด้วย นี่เป็นรอบที่สามแล้ว ขืนไม่ส่งอีกคงไม่ผ่านจริงๆ”
อิ๋งจิ่งตบไหล่ฉีอวี้เล็กน้อย ส่งสายตาแห่งความรักให้เงียบๆ
ฉีอวี้มองเขาสองวินาทีก่อนจะหันหน้ากลับไปอย่างเชื่องช้า วาดภาพร่างต่อไป แล้วเขาก็ยื่นนิ้วออกมาสามนิ้ว
อิ๋งจิ่งเอาฝ่ามือปัดนิ้วทั้งสามนั้นออกไป “ได้ ข้าวสามมื้อ ตกลง!”
ตอนบ่ายสามโมงครึ่งมีคาบเรียนทดลอง คนอื่นๆ นอนกลางวันเงียบๆ กันพักหนึ่ง ส่วนอิ๋งจิ่งกินข้าวเสร็จแล้วก็วิ่งแจ้นไปเล่นบาสเกตบอลที่สนาม ตัวร้อนเหงื่อโชกกลับมา แถมยังหิ้วไอศกรีมแท่งมาหนึ่งถุง ทันทีที่เข้ามาภายในทางเดินหอพักก็ร้องตะโกน
“ใครจะกินไอติมมาที่ห้องสามศูนย์แปดนะ มาก่อนได้ก่อน!”
เหมือนตีระฆังดังก้องในหุบเขายามเช้าตรู่ เสียงดังไพเราะเสนาะหู มวลวิหคแตกฉานซ่านเซ็น ปลุกช่วงบ่ายที่อับเฉาให้ตื่นขึ้นมา
อิ๋งจิ่งเป็นคนที่ป็อปปูล่าร์ ห้องนอนหมายเลขสามศูนย์แปดของเขามักเป็นห้องที่ครึกครื้นที่สุดเสมอ
ไอศกรีมมีไม่พอกับความต้องการ แจกจ่ายหมดในชั่วพริบตา
“คอร์นเนตโตเป็นของฉัน อย่าแย่งนะ อย่าแย่ง!”
มือของอิ๋งจิ่งถูกเพื่อนร่วมชั้นฉุดรั้งไว้ ชุดบาสเกตบอลถูกดึงลงมากว่าครึ่งกลายเป็นชุดเปิดไหล่ทันที เขาพยายามออกแรงเอี้ยวศีรษะเบี่ยงตัวหลบไปข้างๆ เพื่อลอกกระดาษที่ห่อไอศกรีมออก พออ้าปากกัดคำหนึ่งก็ต้องร้องว้าก เย็นเกินไปแล้ว!
เขาเป่า “ฟูดฟาดๆ” ทันที หลังจากนั้นก็เหยียดมือออกไป เอาคอร์นเนตโตที่แหว่งไปครึ่งหนึ่งยื่นให้พวกเขา “นี่ไง ให้พวกนาย”
ฝูงเพื่อนร่วมชั้นร้องโห่กันเกรียว “อี๋!!”